สาวซิ่งชนเสาไฟล้ม 15 ต้น ฟื้นขึ้นมา ด่าชาวโซเชียลยับ
จากกรณีที่ นางสาวศิริประภา โพธิ์หมู่ ขับรถกระบะเสียหลักชนเสาไฟฟ้าริมถนนสุขุมวิท ต.บางปู อ.เมือง จ.สมุทรปราการ เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม ที่ผ่านมา เป็นเหตุให้เสาไฟฟ้าแรงสูงและแรงต่ำกว่า 15 ต้น ล้มลง โดยคนขับถึงกับเป็นลมเมื่อทราบความเสียหาย ว่าต้องชดใช้กว่า 10 ล้านบาทเนื่องจากรถไม่มีประกัน และภาษีขาดนั้น
เกี่ยวกับเรื่องนี้ วันที่ 4 มกราคม 2562 มีรายงานว่า หญิงที่ก่อเหตุชนเสาไฟฟ้า ได้มีความเคลื่อนไหวผ่านเฟซบุ๊กแล้ว แต่เป็นการด่ากราดโลกโซเชียลที่เข้ามาโจมตีเธอ โดยตำหนิกลับไปอย่างรุนแรง เช่น พวกที่มาด่านั้นไม่มีสมอง ชอบเสื-กเรื่องชาวบ้าน มีเวลาว่างไม่เอาไปทำมาหากิน หรือว่าเป็นสันดานตามชาติตระกูล เป็นต้น
จากกรณีที่ นางสาวศิริประภา โพธิ์หมู่ ขับรถกระบะเสียหลักชนเสาไฟฟ้าริมถนนสุขุมวิท ต.บางปู อ.เมือง จ.สมุทรปราการ เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม ที่ผ่านมา เป็นเหตุให้เสาไฟฟ้าแรงสูงและแรงต่ำกว่า 15 ต้น ล้มลง โดยคนขับถึงกับเป็นลมเมื่อทราบความเสียหาย ว่าต้องชดใช้กว่า 10 ล้านบาทเนื่องจากรถไม่มีประกัน และภาษีขาดนั้น
ณ ตอนนั้น ในส่วนของ นางสาวศิริประภา คนขับรถกระบะ พบว่าขณะนี้ยังไม่สามารถให้การเจ้าหน้าที่ได้ เนื่องจากยังคงพักรักษาตัวที่ห้องไอซียู ซึ่งพบว่าก่อนหน้านี้เจ้าตัวฟื้นได้สติ แต่ต้องเป็นลมหลังรู้ว่าต้องชดใช้กว่า 10 ล้านบาท เนื่องจากรถไม่มีประกัน และภาษีขาด
ทั้งนี้ ทราบว่า คืนก่อนเกิดเหตุนางสาวศิริประภา ร่วมงานเลี้ยงจนดึก และช่วงเช้าได้ขับรถเพื่อเดินทางไปเยี่ยมญาติในเรือนจำสมุทรปราการ แต่ขากลับได้เกิดเหตุขึ้น คาดว่าน่าจะหลับใน ขณะนี้ อยู่ระหว่างรอผลตรวจแอลกอฮอล์ ซึ่งหากรู้สึกตัวจะเชิญสอบปากคำเพื่อรับทราบข้อหา ขับรถโดยประมาททำให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ และทรัพย์สินของทางราชการ และทรัพย์สินของผู้อื่นได้รับความเสียหาย เพื่อดำเนินการตามกฎหมายทันที
โดย วันที่ 29 ธันวาคม 2562 ข่าวเช้าวันหยุด มีการรายงานความคืบหน้าเหตุการณ์ นางสาวศิริประภา โพธิ์หมู่ ขับรถกระบะเสียหลักชนเสาไฟฟ้าริมถนนสุขุมวิท ต.บางปู อ.เมือง จ.สมุทรปราการ เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม ที่ผ่านมา เป็นเหตุให้เสาไฟฟ้าแรงสูงและแรงต่ำกว่า 10 ต้น หักล้มลงขวาง และล้มทับรถชาวบ้านเสียหายหลายคันนั้น
ทั้งนี้หลังจากโพสต์ดังกล่าวถูกแชร์ออกไป ได้สร้างความไม่พอใจให้กับผู้ใช้เฟซบุ๊กจำนวนมาก โดยมองว่า นอกจากจะประมาท ทำของหลวงเสียหายแล้ว กลับไม่มีจิตสำนึกขอโทษสังคมด้วยการมาด่ากลับเช่นนี้
ขอบคุณข้อมูลข่าวและภาพ จาก เฟซบุ๊ก JS100 Radio