หนุ่มเล่าประสบการณ์ขนหัวลุก เจอมากับตัว ห้องเช่าหมายเลข 503 ในซอยรามอินทรา

เป็นประสบการณ์ขนหัวลุกที่สมาชิก พันทิปหมายเลข 3310848 เจอมากับตัว หลังจากต้องไปเข้าพักที่อพาร์ทเมนต์แห่งหนึ่งในซอย รามอินทรา 23 หมายเลขห้อง 503 ก่อนจะเจอเรื่องราวที่ไม่คาดฝันเกี่ยวกับสิ่งที่มองไม่เห็นต่างๆ จนกระทั่งได้นำเรื่องราวมาเผยแพร่ให้ชาวเน็ตได้รับรู้กัน โดยเรื่องมีอยู่ว่า..

เรื่องนี้เป็นประสบการณ์ตรงของผมเอง ถ้าการสะกดคำของผมผิดพลาดประการใดก็ขอโทษด้วยนะครับ เรื่องมีอยู่ว่า เมื่อประมาณ 4-5 ปี ที่แล้ว ตอนที่ทำงานอยู่ แถวนั้น แต่ก่อนผมทำงานอยู่แถวนั้นครับ แต่ยังไม่ได้ออกมาอยู่ห้องเช่า ตอนแรกผมอยู่บ้านตัวเอง แต่เนื่องด้วยทางบ้านผมได้ซื้อบ้านหลังไหม่ ที่ปทุมธานี ทางบ้านผมเลยต้องย้ายกันไปอยู่บ้านที่ปทุมกันหมด ยกเว้นแต่ผมคนเดียว เพราะงานที่ทำได้ทำมานานแล้วผมจึงยังไม่อยากจะออก ผมก็เลยมีความจำเป็นที่จะต้องหาห้องเช่าอยู่ไกล้ๆที่ทำงานจะได้ไปมาสะดวก ผมก็หามาหลายที่ครับในแถวรามอินทรา19ถึงรามอินทรา23 แต่บางที่ราคาแพงไปสู้ไม่ไหว เพราะตอนนั้นเงินเดือนแค่ 9,000 เกือบหมื่น เลยพยายามหาห้องที่ไม่แพงจนเกินไปพอรับได้ แล้วในที่สุดก็มาได้ห้องที่ซอย รามอินทรา23 ซึ่งเป็นสถานที่เกิดเรื่องทั้งหมด เดียวเข้ามาต่อให้นะครับ ขอไปนึกเรียงก่อนหลังนะครับว่าเจออะไรบ้าง

ห้องที่ผมอยู่เป็นชั้นบนสุดนะครับก็คือชั้นห้า ตอนที่ไปดูห้องครั้งแรกผมก็รู้สึกแปลกๆตั้งแต่เดินขึ้นไปเลยครับ เพราะว่าห้องที่อยู่ตรงกับบันไดทุกห้องตั้งแต่ชั้น2ขึ้นมาไม่มีคนเช่าเลย ประมาณว่าเดินขึ้นมาจากบันไดจะเจอประตูห้องเลย ซึ่งชั้น5ที่ผมอยู่ก็เช่นกัน เปิดประตูเข้าไปประตูห้องก็ตรงกับประตูห้องน้ำอีกข้างๆประตูห้องน้ำคือประตูระเบียงและมีหน้าต่างบานเกล็ดข้างประตูซึ่งสามารถมองเห็นดาดฟ้าตึกข้างๆได้ ตึกข้างๆมีแค่4ชั้นครับเลยมอบเห็นดาดฟ้าได้ ความรู้สึกแรกที่เดินเข้าไปดูห้องบอกได้เลยว่ารู้สึกแปลกๆตั้งแต่แรกมันดูอึมครึม มืดมัวบรรยากาศเฉยๆเงียบๆ และพอมองเข้าไปในห้องน้ำก็รู้สึกเหมือนมีอะไรไม่รู้บอกไม่ถูก

เข้าไปในห้องผมรู้สึกถึงอะไรแปลกๆได้สองจุดคือในห้องน้ำกับหลังประตูห้อง แต่ผมก็ไม่ได้คิดอะไรมากก็ตัดสินใจเอาห้องนี้แล้วก็ลงไปทำสัญญาเช่าตามปกติ ตอนแลกผมคิดว่าการที่ไม่มีคนอยู่ห้องระหว่างทางขึ้นบรรใดมันเกี่ยวกับ ทางผีผ่านหรือป่าว แต่ก็นะอยู่ๆไปเดียวก็รู้ผมคิดแบบนั้น ออห้องนี้ผมอยู่กับรุ่นน้องที่ทำงานนะครับสองคนผมช่วยกันจ่ายแต่ส่วนมากผมจะอยู่คนเดียวมากกว่าเพราะรุ่นน้องผมเค้าจะไปนอนกับแฟนถัดไปอีก6ห้อง นั่นละครับก็เหมือนอยู่คนเดียว ห้องที่นี่เงียบมากครับแค่ห้องข้างๆจามก็ได้ยินเสียงแล้ว ส่วนมากก็อยู่ใครอยู่มันเช้าทำงานเย็นก็กลับมาพักผ่อนหรือนอน จึงทำให้ทั้งตึกเงียบมาก

วันแรกที่เข้าไปผมก็กันก่อนเลยครับเอาผ้ายันไปติดไว้ที่ประตูไม่ประมาทครับต้องกันไว้ก่อน แต่ก็ไม่ได้ช่วยอะไรเลย มีวันนึงผมรู้สึกแปลกๆที่ห้องน้ำผมเลยหยิบมือถือมาถ่ายรูปห้องน้ำพอถ่ายเสร็จผมก็เอามาดูปรากดว่าผมเห็นเงาดำเหมือนผู้หญิงอยู่ในรูปที่ถ่ายนั้นซึ่งอยู่ในห้องน้ำ ผมถ่ายตอนที่ผมนั่งอยู่บนเตียงนะครับ ไม่ได้เดินไปถ่ายหน้าห้องน้ำ ตอนนั้นก็เย็นแล้วนะครับพอผมเห็นแบบนั้นเท่านั้นละผมเดินไปเปิดประตูห้องไว้เลยให้รู้สึกอุ่นใจ พอรุ่งเช้าอีกวันผมเอารูปนั้นไปให้คนที่ทำงานดูแล้วถามเค้าว่าเห็นอะไรใหม แต่ไม่บอกนะครับว่ามีอะไรให้เค้าดูเอง แต่ก็ไม่มีใครเห็นอะไรทุกคนบอกว่าไม่เห็นมีอะไรเลย หลังจากนั้นผมก็ลบรูปนั้นทิ้งครับกลัวตามเหมือนในหนังที่ดูมา

แล้วหลังจากนั้นผมก็อยู่มาเรื่อยๆโดยที่เปิดไฟนอนไม่กล้าปิดไฟครับถ้าปิดไฟนอนจะนอนหลับๆตื่นๆทุกครั้งไม่รู้เป็นเพราะอะไรเหมือนกัน โดยส่วนตัวนั้นผมสามารถรู้สึกรับรู้ได้นะครับว่ามีหรือไม่มีแต่ไม่ค่อยเห็นเป็นตัวๆ ส่วนมาจะเห็นเป็นเงาแวปๆซะมากกว่าตั้งแต่เด็กๆ แต่ก่อนตอนเด็กๆผมก็ไม่เคยเห็นนะครับแต่หลังจากที่ผมเคยไปท้าทายกับสิ่งที่มองไม่เห็น. จากนั้นผมก็รู้สึกได้มาตลอดจนถึงทุกวันนี้ แต่ก็ยังดีครับที่ไม่เห็นเป็นตัวๆมา ส่วนมากเป็นตัวๆจะเจอในฝันซะมากกว่า อยู่ห้องนี้ผมโดนผีอำบ่อยมากครับไม่ว่าจะอยู่คนเดียวหรือสองคนเปิดหรือปิดไฟยังไงก็โดนแต่การโดนแต่ละครั้งจะเหมือนไม่ใช่คนเดิม และตรงหลังประตูกับในห้องน้ำผมจะรู้สึกตลอดว่ามันจะต้องมีอะไรแน่ๆ ก็เลยไปถามเจ้าของหอว่ามีอะไรหรือป่าว แต่เจ้าของหอก็บอกว่าไม่มีอะไร ผมอยู่ที่นั้นได้สองปีกว่าผมก็มีแฟนและบางครั้งแฟมผมก็มาค้างที่ห้องด้วย ซึ้งผมก็โดนอำมาตลอดจนชินในที่สุด

ผมเคยถามแฟนว่าเคยเจออะไรในห้องนี้ไหมเคยโดนอำไหมแฟนผมก็บอกว่าไม่เคยเลย มีครั้งนึงผมเคยโดนอำเป็นผีผู้หญิงกับเด็กมาในชุดขาวทั้งคู่แต่ผมก็ไม่ได้กลัวอะไรแค่ตกใจว่าอะไรเอาอีกแล้วเหรอเจออีกแล้ว สองคนนี้ผมคิดว่า เป็นแม่ลูกกัน คิดได้ดังนั้น ผมก็เลยหรี่ตาดู ว่าเค้าจะทำอะไร แต่เค้าก็ไม่ได้ทำอะไร แค่ยืนมองแฟนผมเฉยๆ แต่ก็เหมือนเค้าจะรู้ว่าผมมองอยู่เค้ายืนๆเฉยครับไม่ได้ทำอะไรเลย ผมเลยนึกในในว่าไปเหอะผมจะนอนทำงานเช้าเดียวจะไปทำบุญให้ถ้าว่างแล้วเค้าก็ไปผมก็หลุด แล้วพอตอนเช้าผมก็ถามแฟนว่ามีอะไรใครตามมาหรือป่าว เค้าก็บอกว่าไม่มีแล้วผมก็เล่าให้แฟนฟังว่าผมเจออะไรเมื่อคืนพอเล่าจบเค้าก็บอกว่าไม่มีไม่รู้สึก วันหลังผมเลยไปทำบุญกันแล้วก็นึกถึงเค้าว่ามาทำให้แล้วนะ อย่ามากวนอีก

มีอีกครั้งนึงผมเห็นเป็นนักศึกษา เป็นชาย1หญิง2มาแบบปกติไม่หน้ากลัว มายืนดูแฟนผมยืนดูเฉยๆไม่ได้ทำอะไร ผมก็แอบมองเหมือนเดิมขยับตัวไม่ได้เหมือนเคยแล้วผมก็หลับไปตื่นเช้ามาผมก็เล่าให้แฟนฟังเหมือนเดิมแฟนผมก็ตอบเหมือนเดิมว่าไม่รู้ พักหลังๆผมเลยสงสัยว่าเค้ามาดูหรือป่าวว่าใครเพราะปกติผมอยู่คนเดียว ผมเคยจุดธูปบอกในห้องว่าจะอยู่ก็อยู่ไปอย่ามากวนอย่ามาหลอกดึกๆดื่นๆจะนอน แต่ก็นั่นละครับก็ยังมากวนตอนนอนอยู่ดี

สมัยก่อนผมทำงานในห้างครับ แล้วก็การทำงานในห้างจะเข้างานเป็นกะ มี2กะ คือ เข้าเช้า 8.00น. กับ เข้าบ่าย 14.00น. การนอนก็จะผิดแปลกกว่าชาวบ้านชาวเมืองเค้า บางวันตอนกลางคืนผมไม่ได้นอนเลยครับ คือ นอนไปก็จะสะดุ้งตื่น เวลาสะดุ้งตื่นก็จะมีเป็นเวลาประจำครับ คือ ช่วง 5ทุ่ม ตี2 แล้วก็ตี4 ส่วนมากจะสามเวลานี้เลยครับ พักหลังๆถ้าผมเข้างานเช้า ผมก็จะไม่นอนเลยครับ คือรอไปทำงานเช้าเลย แล้วค่อยกลับมานอนตอนเลิกงานแทน ตอนแรกๆก็สุขภาพจิตเสียเหมือนกันครับ แต่พอหลังๆก็ชินครับ ภาษาชาวบ้านเรียกดีด จากการที่อยู่ห้องนี้มานานก็เลยเข้าใจเลยครับว่า ทางผีผ่าน เป็นยังไง คือส่วนมากจะไม่มีขาประจำครับ มีแต่ขาจร มาไม่ค่อยซ้ำกัน บางทีผู้หญิงบางทีก็ผู้ชาย

พอผมเล่าให้แฟนฟัง แฟนผมก็กลัวซิครับทีนี้ ถึงขั้นว่าถ้าไม่อยู่ไม่กล้าไปห้องคนเดียวเลย แล้วทีนี้เค้าก็บอกให้ผมย้ายห้อง ผมก็เลยหาดูห้องไว้แล้วก็รอเจ้าของห้องเก่าย้ายออก ก็จะย้ายไปอยู่ห้องใหม่ แต่ก็นานครับกว่าจะได้ย้ายไปห้องใหม่ ซึ่งก็อยู่ชั้นเดียวกัน ห้อง 501 ครับที่ดูไว้ มีครั้งนึงครับที่ผมโดนหนักมากถึงขั้นลุกขึ้นมาด่าในห้องเลย เหตุการณ์ประมาณว่า วันพรุ่งนี้ผมต้องเข้างานเช้าผมก็นอนประมาณ 4ทุ่ม แล้วผมก็สะดุ้งตื่นตอน5ทุ่มครับ เพราะเหมือนมีอะไรมาสะกิดเท้าผมก็เลยสะดุ้งตื่น ผมก็คิดในใจว่า ไอ้…เอ๋ยเอาอีกละ ลุกขึ้นมามองซ้ายขวาแล้วก็นอนครับ พอนอนไปได้ซักพักเหมือนกำลังกึ่งหลับกึ่งตื่นก็ มีเสียงผู้ชายมา แฮ ข้างหู แฮแบบ ในหนังผีครับที่มีเสียง แฮๆๆ ผมก็สะดุ้งตื่น แล้วลุกขึ้นมานั่งอารมณ์ แบบว่าโมโหมากครับ ความที่วันนั้นทำงานมาเหนื่อยอยากจะนอนพักประกอบกับพรุ้งนี้ ต้องเข้างานเช้า เลยอยากนอนพัก เดียวจะทำงาน ไม่ไหว ประมาณนั้นครับ ผมก็เลยด่าออกเสีงแบบลั่นห้องเลยครับว่า ไอ้…คนจะนอนมืงจะอะไรนักหนาวะ ถ้าแน่จริงพรุ้งนี้มืงมาปลุกกูด้วยนะกูทำงาน8โมง. ไอ้สัxประมาณนี้ครับ หยาบคายหน่อยนะครับ

แล้วผมก็นอนครับ สรุปคือคืนนั้นหลังจากด่าไป หลับสบายมากเลยครับ ตื่นอีกที่ตอน…มาปลุกจริงๆครับ ประมาณ7โมงครับ ความรู้สึกเหมือนมีอะไรมาสะกิดเท้าครับ แล้วผมก็ตื่น แบบไม่มีงัวเงีย เลยครับ เหมือนแบบตกใจตื่น แล้วก็คิดในใจว่าเอาจริงดิ ดีมากขอบใจที่มาปลุก แล้วผมก็อาบน้ำไปทำงานครับ หลังจากวันนั้นก่อนนอนผมก็จะนึกในใจว่าอย่ามากวนนะ ถ้ามากวนกูแช่งนะ เหมือนที่เคยได้ยินมาครับว่า ให้แช่งแรงๆ ขอให้ไม่ได้ผุดไม่ได้เกิด ผมก็คิดในใจไปแบบนั้นครับ แล้วก็ต่อด้วยมาปลุกด้วยนะทำงานเช้า. นั่นละครับถ้อยทีถ้อยอาศัย ผมกับแฟนไปทำบุญกันบ่อยครับเวลาทำผมก็จะนึกถึงเค้า เหมือนแผ่บุญให้เค้าด้วย จะได้ไม่มากวนกัน พักหลังๆเลยดูไม่ค้อยเจอ อะไรแปลกๆ ๆ อยู่ต่อมาอีกซักพักผมก็ได้ ย้ายห้องไปอยู่ห้อง 501ครับ ความรู้สึกแตกต่างกันมาครับ ทั้งๆที่มีแค่ห้อง 502คั่นกลาง ห้อง501ความรู้สึกแบบว่า เย็นสบาย แล้วก็สงบ คนละคั่วกับห้อง503เลยครับ แล้วผมก็อยู่ต่ออีกไม่กี่เดือนครับที่หอนั้น ก็ลาออกจากงานแล้วกลับไปอยู่ที่บ้าน รวมระยะเวลาที่อยู่ที่นั้นก็เกือบ3ปีได้ครับ

จบละครับผม ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนะครับ เรื่องนี้เกิดขึ้นกับผมโดยครับ ไม่ใช่เรื่องที่แต่งขึ้นแต่อย่างใดนะครับ แล้วก็ต้องขอโทษด้วยครับ ที่ภาษาอาจจะผิดเยอะ อ่านไปแล้วอาจจะดูวกไปวนมาซักหน่อย ผมพยายามอธิบายให้เห็นภาพมากที่สุดครับจะได้เข้าใจความรู้สึกผม คนไม่เคยเจอก็จะไม่เข้าใจในจุดนี้ครับ ถ้าเพื่อนๆคนไหน จะติชมก็แสดงความคิดเห็นได้เลยนะครับ ไม่ว่ากันครับ ขอบคุณอีกครั้งครับ

ที่มา : สมาชิกหมายเลข 3310848