ยังเอาอยู่! ไทยยังสามารถควบคุม-ป้องกันโรค'อหิวาต์แอฟริกาในสุกร'
ยังเอาอยู่! ไทยยังสามารถควบคุม-ป้องกันโรค'อหิวาต์แอฟริกาในสุกร' เล็งคว้าโอกาสส่งออกสุกรเสียบตลาดต่างประเทศ
*หมายเหตุ แก้ไขชื่อโรคไข้หวัดหมูแอฟริกา เป็น "โรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร"
จนถึงตอนนี้ การระบาดที่รุนแรงที่สุดเกิดขึ้นที่จีน แต่มีความกังวลว่า อาจเกิดการแพร่ระบาดไปทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยจุดที่พบการระบาดที่รุนแรงที่สุดบางส่วนในภูมิภาคนี้อยู่ที่เวียดนาม ลาว และฟิลิปปินส์ และล่าสุดเกิดแล้วที่อินโดนีเซียเมื่อวันพุธที่ผ่านมา (18 ธ.ค.)
ในขณะที่ประเทศไทย จากการตื่นตัวของหน่วยงานรัฐและเอกชน ทำให้ประเทศไทยตอนนี้ยังสามารถป้องกันเอาไว้ได้
โดยที่ผ่านมา กรมควบคุมโรค(คร.) กระทรวงสาธารณสุข(สธ.) ได้กล่าวว่า
"ปัจจุบันยังไม่พบรายงานการติดต่อของโรคจากสัตว์สู่คน จึงสามารถบริโภคเนื้อสุกรปรุงสุกได้อย่างปลอดภัย อย่างไรก็ตาม คนสามารถเป็นพาหะในการนำโรคได้ ผ่านเสื้อผ้าที่ปนเปื้อนเชื้อ รวมถึงยานพาหนะ เครื่องมือและเครื่องใช้ที่ปนเปื้อน
แต่ก็ขอความร่วมมือประชาชน ห้ามไม่ให้นำสุกรที่ป่วยตายหรือสงสัยว่าติดเชื้อ รวมถึงสุกรรวมฝูงนั้น มาชำแหละเพื่อปรุงเป็นอาหาร เนื่องจากขั้นตอนการปรุงอาหารอาจทำให้ผู้ชำแหละได้รับเชื้อ และอาจเป็นพาหะนำเชื้อไปสู่สุกรตัวอื่นได้"
ที่ผ่านมาไทยได้ดำเนินมาตราการป้องกันกวดขันอย่างเข้มงวดมากตั้งแต่ปี2561 คร่าวๆดังนี้
- กรมปศุสัตว์ออกมาตรการให้กองสารวัตรและกักกัน เข้มงวดการตรวจค้นและปราบปรามการลักลอบการนำเข้าหมูเถื่อนจากประเทศเพื่อนบ้าน ตามแนวชายแดนและด่านพรมแดนทั้ง 89 ช่องทางใน 25 จังหวัด
- ชะลอการนำเข้าสุกรมีชีวิตและผลิตภัณฑ์สุกรจากจีนและประเทศที่มีการระบาดของโรค ควบคู่กับมาตรการป้องกันและกำจัดเชื้อโรคที่ทำอยู่แล้วให้เข้มข้นขึ้น
- เพิ่มการตรวจสอบในพื้นที่เสี่ยงต่อการติดโรคระบาด ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมเกษตรกร เร่งให้คำแนะนำและความรู้ด้านการป้องกันโรค และเพิ่มการตรวจสอบแหล่งปศุสัตว์ที่ไม่ได้มาตรฐานตามหลักอนามัย GAP และGFM
- ให้เกษตรกรสังเกตอาการสุกรอย่างใกล้ชิด หากพบสุกรแสดงอาการป่วย เช่น มีไข้สูง เบื่ออาหาร ผิวหนังเป็นปื้นแดงและต่อมาเป็นสีเขียวคล้ำ พบภาวะแท้งในแม่สุกรและมีจำนวนสุกรตายผิดปกติให้แจ้งเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ในพื้นที่ทันที พร้อมแนะนำการตรวจสอบแหล่งที่มาของสุกรก่อนเข้าฟาร์ม
- เพิ่มความเข้มงวดด่านกักกันท่าอากาศยานต่างๆ จัดชุดปฏิบัติการสุนัขดมกลิ่นตรวจสอบการลักลอบเคลื่อนย้ายชิ้นส่วนซากสุกรและผลิตภัณฑ์จากสุกรที่มีต้นทางจากประเทศจีน พร้อมเที่ยวบินที่มาจากสาธารณรัฐประชาชนจีนเนื่องจากความเสี่ยงของการระบาดอาจจะมาจากเที่ยวบินที่มากับอาหาร เศษซากอาหารจากสุกร ผลิตภัณฑ์จากสุกร
(ที่ผ่านมาได้คุมเข้มการนำอาหารหรือซากที่อาจแพร่เชื้อเข้ามาตามจุดต่างๆ เช่น สนามบินที่มีการตรวจกว่า 100 ครั้ง ผลออกมาว่า พบเชื้อในอาหารที่นำมาด้วยถึง 30 ครั้งซึ่งถือว่าสูงทีเดียว)
- ห้ามเคลื่อนย้ายสัตว์หรือซากสัตว์สุกรและหมูป่า เข้า ออก ผ่าน หรือภายในเขตเฝ้าระวังโรคระบาด เว้นแต่ได้รับอนุญาตเป็นหนังสือจากสัตวแพทย์ผู้มีหน้าที่รับผิดชอบประจำเขตนั้นทุกครั้งที่มีการเคลื่อนย้าย หากฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามมาตรา 65 แห่งพระราชบัญญัติโรคสัตว์ระบาด พ.ศ.2558
- ทำงานเชิงรุก เดินหน้าหารือกับกรมปศุสัตว์กัมพูชาและ สปป.ลาว ให้ร่วมด้วยช่วยกันป้องกันการลักลอบนำเข้าสุกรและผลิตภัณฑ์โดยเฉพาะจากจีน เพื่อบูรณาการความร่วมมือระหว่างประเทศ สร้างปราการในการป้องกันโรคนี้จากภายนอกอย่างเร่งด่วน
ทั้งนี้ หากยังพบว่า มีการระบาดเข้าสู่ประเทศไทยอีก ทางการก็ได้เตรียมแผนเร่งด่วนเสนอต่อรัฐมนตรีและนายกรัฐมนตรีเพื่อดำเนินการแล้ว
** ถือเป็นความโชคดีที่ไทยเป็นหนึ่งในประเทศผู้นำด้านการเลี้ยงหมูในภูมิภาคเอเชีย จึงมีองค์ความรู้ทั้งด้านสัตวแพทย์และสัตวศาสตร์สั่งสมมาในระดับที่พร้อมรับมือกับเรื่องนี้ได้อย่างเต็มกำลัง **
จากกรณีนี้ ประเทศไทยได้รับเสียงชื่นชมจากนานาชาติ ว่าสามารถป้องกันโรคระบาดได้อย่างรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ
และ การป้องกันที่ยังสามารถควบคุมโรคเหล่านี้ได้ ก็เป็นโอกาสให้ไทยเราส่งออกเนื้อสุกรเหล่านี้ไปยังประเทศที่ประสบปัญหาจนขาดตลาดได้ อย่างเช่น จีน ที่ตอนนี้จัดการกับสุกรที่มีความเสี่ยงติดโรคระบาดไปแล้วหลายล้านตัว โดยคาดว่าปีนี้ ผลผลิตเนื้อหมูของเวียดนามจะลดลง 21% และปีหน้าจะลดลงเพิ่มอีก 8%
ส่วน ฟิลิปปินส์อาจมีประชากรสุกรลดลง 13% ในปีหน้า ส่วนจำนวนหมูในจีนลดลงไปกว่า 55% ในปีนี้
ที่ผ่านมา รัฐบาลฮ่องกงได้ติดต่อกับทางการไทย ในการนำเข้าเนื้อสุกร หลังจากที่จีนมีคำสั่งกำจัดสุกรไปกว่าครึ่ง
และคาดว่า จะมีการติดต่อขอนำเข้าเนื้อสุกรจากไทยอีก ในอนาคต
นับว่าเป็นการสร้างโอกาส ชื่อเสียง และความท้าทายอย่างยิ่งของ
การปศุสัตว์ของไทย ที่จะสร้างมาตราฐานและการยอมรับ ในสถานการณ์ที่มีความเสี่ยงอย่างมากในขณะนี้
อ้างอิงจาก: https://www.facebook.com/1233859410089681/photos/a.1289629471179341/1648577975284487/?type=3&__xts__[0]=68.ARDbpO3EUXhOwWWyf6BIceV09C11QJ39KHLhLlFR-c5yU4oeAAbRsgF4bFf5oDA_Xc_gjAt4g2sWfKL7qjU7q5StiRDLlA4lSrLQuY61k4_CJua7SkmBLYXuHhPZdwbrX1JlIo3Z7BSQd-ueOmzm45fkZrsiyGYsYE_p5G4aRTDClBCsHo5lO4eAsamb-nN--s35cjWk45_UtpsuRubrxyVZ3V5AOkHaF5sZ7teecwFSjaWNulGSLogN4CBrLPeflvavQsEz9hPk8HArQx8hvoWVjtmmZGGxucsybC-tUA_V3cbe6rOeUyD5VdBlWGymP_cAj-mSzgvyS576BGEjg7jV70fh82Qgr2HsrphgjyNo0B1RAs92smQ51gvyvietL-REbInD2JgGhpN6UuEGKe6HJTrdhrEN_w6STL-jITu_ROmDKJnugPLkBRqcTxyiz4p94LA1B9S20f7uFXenHKLsCcnEpZIA5GF5T42wMOnulVEc&__tn__=H-R
https://www.facebook.com/DramaAdd/
https://en.wikipedia.org/wiki/Swine_influenza