เรื่องหลอน ห้องน้ำหลัง 2 ทุ่ม
เรื่องนี้ส่งมาจากคุณโกะครับ คุณโกะเล่าว่า.. สมัยก่อนเราเคยทำงานโรงพยาบาลค่ะ คืนหนึ่งเราปวดท้องถ่ายหนัก เลยไปเข้าห้องน้ำที่ชั้น 3 ซึ่งเป็นห้องน้ำของแผนกที่ปิดทำการไปแล้วตอน 2 ทุ่ม ที่ต้องมาเข้าที่นี่ก็เพราะเราต้องการความสงบ ถึงแม้ว่าจะต้องแลกกับบรรยากาศที่มืดวังเวง เพราะไฟปิดหมดแล้วเหลือแค่ไฟทางเดิน
เราเปิดประตูห้องน้ำเข้าไป พร้อมกับเอื้อมมือเปิดไฟ ห้องน้ำมีอยู่ทั้งหมด 4 ห้อง แต่ที่แปลกคือห้องแรกมันปิดไว้อยู่เหมือนมีคนเข้า พยายามเอามือดันๆ ก็ไม่เปิด เราเลยเข้าห้องถัดไปทำธุระของเราไป.. สักพักหนึ่ง อยู่ๆ เราก็ขนลุกวาบขึ้นมา เพราะนึกขึ้นได้ว่า เอ้า! ถ้ามีคนอยู่ในห้องน้ำ แล้วทำไมเขาไม่เปิดไฟห้องน้ำไว้ล่ะ จะอยู่มืดๆ ทำไม? ด้วยความสงสัย เราเลยก้มลงมองตรงช่องว่างด้านล่าง ว่ามีใครอยู่ไหม ถ้ามีอย่างน้อยก็ต้องเห็นรองเท้าหรือขาบ้างล่ะ ซึ่งปรากฏว่ามีค่ะ เป็นขาผู้หญิงใส่รองเท้าคัดชูสีดำ เราก็งงๆ ว่าทำไมเค้าถึงไม่เปิดไฟ หรืออาจจะรีบจนแบบว่า ถ้าเปิดไฟก็อาจะไม่ทันแล้วก็เป็นได้ 55555
จนเราทำธุระของเราเสร็จ กดน้ำอะไรเรียบร้อย ก็ออกมายืนล้างมือ สายตาเราก็ยังมองสะท้อนกลับไปเห็นขาของเธอคนนั้นในห้องน้ำอยู่ แล้วเราก็ออกจากห้องน้ำไป โดยที่คิดในใจว่า ทำไมเค้านั่งนานจัง แถมตลอดเวลาที่เราทำธุระ ก็ไม่ได้ยินเสียงอะไรจากห้องนั้นเลย ในขณะที่เราเองก็ดัง $#^%#*! ใช้ได้ (พอดีว่าท้องเสีย) จนผ่านคืนนั้นไป เราออกกะช่วงเช้าก็กลับห้องไปนอน
แล้วความสยองมันอยู่ตรงนี้ค่ะ ..ช่วงสายๆ ของวันนั้นเอง เพื่อนที่แผนกเราโทรมาบอกว่า ‘อีโกะ มึงรู้ไหมว่าที่โรงพยาบาลเรามีคนฆ่าตัวตาย ตอนนี้กำลังเอาศพออกมาอยู่..’ เราได้ฟังแบบนั้นก็ตาสว่างเลยค่ะ รีบถามเพื่อนว่า ‘ใครฆ่าตัวตาย ที่ไหน?’ เพื่อนก็บอกว่า ‘น้องฝึกงานผู้หญิง กรีดข้อมือตายในห้องน้ำชั้น 3 เมื่อคืนนี้’ ถึงตรงนี้เราแบบว่าหน้าชาเลยค่ะ!! สรุปแล้ว เมื่อคืนนี้เรานั่งอยู่ห้องข้างๆ กับน้องคนนั้นนี่เอง แล้วตอนที่เราไปเข้าห้องน้ำคือน้องเขาเสียชีวิตไปแล้ว และที่เราไม่เห็นเลือดเลย ก็เพราะน้องเค้าเอาข้อมือทิ้งลงกลางหว่างขา ปล่อยให้เลือดไหลลงชักโครกไป สภาพศพได้ยินว่านั่งชักโครก แล้วเอาศีรษะพิงกำแพงฝั่งหนึ่งไว้ ตัวซีดจนเหมือนกระดาษทิชชูยังงั้นเลย
เหตุการณ์นี้ถึงจะไม่ใช่เรื่องผี หรือวิญญาณเหมือนเรื่องอื่นๆ แต่สำหรับเรา พอนึกถึงแล้วมันก็หลอนยิ่งกว่าเจอผีเสียอีกค่ะ พิมพ์ไปก็ยังขนลุกไป
อ้างอิงจาก: https://www.thehouse.online/story600/