ทางสามแพร่งทำให้ราคาบ้านตก?: กรณีศึกษาฆ่าหั่นศพยัดตู้เย็น
เมื่อเร็วๆ นี้มีข่าวการฆ่าหั่นศพยัดตู้เย็นในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง มีบางคนบอกว่าเป็นอาถรรพ์ทางสามแพร่ง ความจริงเป็นเช่นนั้นหรือไม่
ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธานกรรมการบริหาร ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส (www.area.co.th) ในฐานะผู้เชี่ยวชาญการประเมินค่าทรัพย์สิน มาไขข้อข้องใจในกรณีนี้ โดยมีข่าวว่า “หลอนทั้งหมู่บ้าน แฉอาถรรพ์บ้านฆ่ายัดตู้เย็น ตั้งทางสามแพร่ง เคยมีคนตาย” <1> ดร.โสภณ กล่าวว่าขนาดมีคนตาย 2 ครั้ง บ้านหลังดังกล่าวยังขายออกมาแล้ว แสดงว่ากรณีนี้ไม่น่าจะมีปัญหาแต่อย่างใด อย่างไรก็ตามการตายแบบผิดปกติ 2 ศพ (แม่ลูก) ในกรณีล่าสุดอาจเป็นอีกเรื่องหนึ่ง ทางสามแพร่งอาจไม่เป็นปัญหาเพราะ
1. ในกรณีบ้านที่เกิดเหตุ บ้านที่อยู่ในแนวทางสามแพร่งนั้นมีอยู่ 2 หลัง ไม่ใช่หลังเดียว ดังนั้นการเกิดเหตุเพียงหลังเดียว ไม่ได้เป็นเพราะบ้าน แต่เป็นเพราะผู้อยู่อาศัย
2. จากการตรวจสอบดูบ้านทาวน์เฮาส์ในละแวกบ้านแถวนั้น มีอีกหลายหลังที่มีลักษณะเป็นทางสามแพร่ง แต่ก็ไม่มีปัญหาอะไรเกิดขึ้น
ในกรณีศึกษาฮวงจุ้ยทางสามแพร่งและการตีมูลค่านั้น บ้านและที่ดินทำนองนี้มักจะมีมูลค่าต่ำกว่าท้องตลาดทั่วไป เพราะการใช้สอยที่จำกัดกว่านั่นเอง สำหรับแนวทางการตีค่าทรัพย์สินก็มาจากการสำรวจตลาด ก็จะทำให้เห็นได้ว่าราคาต่ำกว่ากันเท่าไหร่ อย่างไรก็ตามในบางกรณีอาจมีราคาที่พอ ๆ กัน แต่ระยะเวลาการรับรู้รายได้อาจแตกต่างกัน กล่าวคือ แปลงอื่นๆ ที่ไม่ได้ตั้งอยู่ตรงทางแยกอาจขายได้ในเวลาเฉลี่ย 3 เดือน แต่แปลงตรงทางแยกอาจต้องใช้เวลานานกว่าเช่น 20 เดือน เพราะอุปสงค์มีจำกัด ดังนั้นการรับรู้มูลค่าจึงช้ากว่า 17 เดือน หากสมมติให้เดือนหนึ่งมีอัตราดอกเบี้ย 1% ก็เท่ากับมูลค่าลดลงไป 15.6%
= 1 หาร (1+ ดอกเบี้ย) ยกกำลัง เดือน
= 1 / (1 + i) ^ n
= 1 / (1.01^17)
= 0.844 หรือ 84.4%
= ลดราคาลง 15.6% นั่นเอง
อย่างไรก็ตามหากเป็นอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์ เช่น อาคารสำนักงาน ป้ายโฆษณา การที่ตั้งอยู่บริเวณสามแยกเช่นนี้ อาจกลายเป็นทำเลโดดเด่น มองเห็นได้ชัดเจนกว่า ทำให้มูลค่าเพิ่มมากกว่า ไม่ได้ทำให้มูลค่าลดลงแต่อย่างใด มูลค่าจะลดลงก็คงเฉพาะในกรณีอาคารที่อยู่อาศัยนั่นเอง
สำหรับกรณีบ้านที่มีผู้เสียชีวิตแบบผิดปกติ อาจทำให้มีคนกล้าที่จะซื้อน้อยลงไปอีก แม้อุปทานบ้านจะมีมากพอสมควรในหมู่บ้านเหล่านี้ แต่อุปสงค์สำหรับบ้านที่มีคนตายแบบผิดปกตินี้อาจน้อยลง แทนที่จะขายได้ภายในเวลา 20 เดือนข้างต้น ก็อาจขายได้ในเวลา 48 เดือน หรืออีก 4 ปีข้างหน้า ดังนั้นมูลค่าก็จะลดลงไปอีกตามสูตรนี้
= 1 / (1.01^45)
= 0.639055 หรือ 63.9%
ถ้าบ้านแถวนั้นขายในราคาหน่วยละ 1 ล้านบาท บ้านที่มีคนตายแบบผิดปกติ 2 ราย (แม่ลูก) นี้จึงอาจมีราคาลดลงเหลือเพียง 639,055 บาท เท่านั้นนั่นเอง
อ้างอิง
<1> ข่าวสด 26 พฤศจิกายน 2562 https://www.khaosod.co.th/special-stories/news_3089479