ตามล่า ปุ๊ วัดมอญ
หลังจากศึกสิบสามห้างผ่านไปไม่นานเท่าไหร่ ปุ๊ ตรอกสาเก เพื่อนซี้ของแดง ไปร์เล่ย์ก็ออกโรงตามคิดบัญชีกับปุ๊ วัดมอญ หรือปุ๊เจิด ที่อาหาญไปอาละวาดถึงในถิ่นบางลำภู ค่ำวันหนึ่ง ปุ๊ ตรอกสาเก ก็พา หล่อสะพานขาว นายรุ่นหน้าจือแต่หัวใจไม่เป็นรองใคร
พร้อมด้วยลิ่วล้ออีกสามสี่คน ข้ามสะพานพุทธไปยังฝั่งธนบุรี อันเป็นพื้นที่ของปุ๊เจิด จุดหมายของวัยรุ่นกลุ่มนี้ คือร้านสัมพันธ์ใกล้ๆ โรงเรียนศึกษานารี ซึ่งเป็นร้านที่ขายทั้งก๋วยเตี๋ยวลิ้นและไอศกรีม เพราะที่นั่น ปุ๊ วัดมอญ มักจะแวะเวียนไปนั่งบ่อยครั้ง จนเรียกได้ว่าเป็นขาประจำ เจ้าถิ่นบางลำภู พาพรรคพวกแวะเข้าร้านจูซึ่งอยู่ใกล้ๆกัน สั่งโอเลี้ยงมากลั้วคอแล้วใช้ลิ่วล้อคนหนึ่งไปดูลาดเลา
หมอนั่นหายไปพักเดียวก็กลับมารายงาน
ไม่เห็นมีนี่พี่ปุ๊เจิดไม่ได้อยู่ร้านสัมพันธ์
ขาใหญ่ จากตรอกสาเกทำหน้านิ่ว
เอ็งแน่ใจ?
ผมดูจนทั่วแล้ว ลิ่วล้อยืนยัน “…ในร้านมีแต่นายเบี๊ยกบ้านแขก นายไท กะเพื่อนอีกคนนึงนั่งอยู่ด้วยกัน”
ปุ๊หันไปทางหนุ่มหน้าจืด
รอมั๊ย?
หล่อสะพานขาวเลิกคิ้ว
เผื่อมันไม่โผล่มาทั้งคนล่ะ?
นั่นน่ะสิ”
เราว่าอย่าเสียเวลารอดีกว่า”
กลับกันเลยงั้นรึ”
ไม่หรอกอุตส่าห์ข้ามฝั่งมาทั้งที จะกลับเฉยๆก็เสียเที่ยวแย่”
ปุ๊ ตรอกสาเก กระพริบตางุนงง
เมื่อไม่รอแต่ก็ไม่กลับนายจะเอายังไง วัยรุ่นหน้าจืดเหยียดยิ้มเล็กๆ ก่อนเย็น
คนในถิ่นนี้ ก็เท่ากับพรรคพวกของปุ๊ วัด มอญ เมื่อไม่เจอตัวใหญ่ เล่นนายตัวเล็กฝากไว้มันก็ไม่เลวนี่นา”
นายคงหมายถึง...
พวกนายไทกะนายเปี๊ยก นายเห็นด้วยมั้ย?
เต็มร้อยเลยละ เป็นไอเดียที่เยี่ยมมาก
เจ้าถิ่นบางลำภูเอ่ยเสียงรื่น ควักเงินวางไว้เป็นค่าโอเลี้ยงแล้วลุกขึ้นพาพรรคพวกออกจากร้าน
แน่อน ที่หมายย่อมเป็น ร้านสัมพันธ ์ ซึ่งเหยื่อเคราะห์ร้ายกำลังนั่งรอโดยไม่สำเนียกถึงภยันตรายแม้แต่น้อยนิด
>ตอนที่2<{ปุ๊ ระเบิดขวด ฉายาที่ได้มาทั้ง ๆ ที่ไม่เคยใช้ระเบิดขวดเลยสักครั้งในชีวิต}
ไท ตรอกงิ้ว ปรายตาผ่านบุหรี่สี่มวนพร้อมทั้งกล่องไม้ขีดในจานสังกะสีใบเล็ก ที่เด็กเสริ์ฟยกมาวางลงบนโต๊ะอย่างไม่แยแส ขณะที่เปี๊ยกบ้านแขกกับเพื่อนหยิบไปจุดสูบโรยควันกรุ่น ช่วงเวลาเดียวกัน วัยรุ่นหนุ่มสาวหกเจ็ดคนที่เพิ่งเข้ามาในร้าน
และนั่งล้อมโต๊ะอยู่อีกมุมหนึ่งก็แย่งกันคุยเรื่องเพลงใหม่ของเฟเปี้ยนกับแฟรงกี้ อะวาล่อน ดังจ๊อกแจ๊กจอแจแซ่แซ่ว
ทันทำให้ไทออกจะหงุดหงิดรำคาญหูอยู่ไม่น้อย เขาขยับจะก้มลงดูดโอเลี้ยงในแก้วตรงหน้าตัวเองแก้เซ็งแต่ก็ต้องชะงักและ
สะดุ้งยึก เมื่อเหลือบเห็นหนุ่มทีนเอจอีกกลุ่มก้าวผ่านหน้าร้านเข้ามาโขยงบะเร่อ อะไรไม่ว่าคนนำหน้าเป็นหัวโจกคือ ปุ๊ ตรอกสาเก ตัวแสบที่ไม่มีใครอยากตอแย เพียงเห็นแว่บเดียวเขาก็รู้ได้ในฉับพลันด้วยสัญชาตญาณว่าคนกลุ่มนี้มาด้วยจุดประสงค์ใด
นายปุ๊….”
ไทหลุดอุทานตื่นเพริดได้คำเดียว เจ้าถิ่นบางลำภูกับคู่ซี้หล่อ สะพานขาว ก็ทะยานนำเหล่าลิ่วล้อพราดมาถึงโต๊ะ
เปี๊ยก บ้านแขก ซึ่งนั่งตรงข้ามกันเพียงแต่ทันได้หันขวับไปมองหลังมือขวาของปุ๊ก็ตะบันเข้าเต็มกราน
ผัว?…
เปี๊ยกถึงกับหน้าสะพัดหงายเริ่ด บุหรี่หลุดจากปากปลิวคว้างก่อนที่เจ้าตัวจะพลัดหล่นจากเก้าอี้เอียงสีข้างลงตบพื้นดังพลั่ก
กลุ่มวัยรุ่นหนุ่มสาวที่นั่งจ้อกันเรื่องเพลงอยู่อีกโต๊ะแตกฮือ และแล้วก็ตามด้วยเสียงผู้หญิงหวีดร้องกรี๊ดกร๊าดแสบแก้วหู
ไทย ตรอกงิ้ว เด้งผึงออกจากโต๊ะโดยมีเก้าอี้ตัวหนึ่งติดมือกระชับมั่น แต่เพื่อนที่เหลืออีกคนไม่ทันได้ไปไหนไกล
แค่ทะลี่งลุกขึ้นก็เจอกำปั้นของเจ้าถิ่น บางลำพู จ้วงเจ้าตรงปากครึ่งจมูกเต็มเงี่ยงเต็มงา
โชะ.....
บุหรี่ปลิวหวือพร้อมกับเลือดปนน้ำลายกระเซ็นว่อน
พี่แกโครนตึงลงไปหงายเก๋งกับพื้นใกล้ๆ เปี๊ยก บ้านแขก ก่อนที่ทั้งสองจะถูกรวบบาทารุมกระทืบเตะถีบอย่างเมามัน
ทว่า ทันได้ยำกันไม่กี่ตีน ไท ตรอกงิ้ว ก็โลดเข้าไปประเคนเก้าอี้ลงบนหลงไหล่หนึ่งในกลุ่มสุดแรง
โครม
หมอนั่นทำอาการกระตุกทะลึ่งพรวด หลังแอ้หลังแอ่นเซถลา ไทหมุนขวับไปหาอีกคนที่อยู่ใกล้สุด ไม่ใช่ใครอื่น
วัยรุ่นหน้าจืด หล่อ สะพานขาว เก้าอี้ทีเงือดเงื้อขึ้นสูง เหนี่ยวขวับลงไปสุดลิ่มทิ่มประตู
โครม
มันกระหน่ำลงบนท่อนแขนซ้ายของนายรุ่นหน้าจืดที่ตวัดขึ้นรับดังสนั่น เสี่ยววินาทีติดต่อกัน หล่อ สะพานขาว ก็ สะอีกสวนเข้าประชิดพร้อมด้วยมีดสั้น อาวุธประจำกายซึ่งฉกออกมาจากที่ซ่อนเขากระแทกปลายมีดแหลมเฉียบ
เข้าตรงชายโครงคนใช้เก้าอี้เป็นเครื่องทุ่นแรงอย่างดุดัน ไทย ตรอกงิ้ว สะดุ้ง เฮือก
โอ๊ยย์ ผมถูกแทง
เขาร้องลั่น ก่อนจะปล่อยเก้าอี้หลุดมือล้มลงไปนอนกุมชายโครงซ้ายดิ้นเร่า เลือดแดงฉาดที่ทะลักออกมาชุ่มโชก
ทำให้เสียงหวีดร้องกรี๊ดกร๊าดระเบ็งลั่นขึ้นอีกคำรบหนึ่ง หล่อ สะพานขาว ซึ่งยังกำมีดติดมือหมุนตัวเผ่นอ้าวออกจาก
ร้านสัมพันธ์อย่างไม่รอช้า และโดยมีปุ๊ ตรอกสาเกกับเหล่าลิ้วล้อกรูเกรียวตามหลังเป็นพรวนวัยรุ่นอันตรายทั้งกลุ่ม หายลับไปจากที่เกิดเหตุในชั่วพริบตา