จะหนีไปไหนได้ จับแล้ว แก๊งค์ขนยาบ้ากว่า 4 ล้านเม็ด ยาบ้า 41 กก.
วันที่ 23 พฤศจิกายน 2562 ณ. สภ.เมืองสระบุรี จ.สระบุรี จากกรณี ตำรวจ ฝ่ายปกครองล้อมจับผู้สงสัย บนเขา จับยาบ้า 4 ล้านเม็ด ไอซ์41กก เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 2562 เวลา 06.00น. เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง 2 กองกำกับการ 1 กองบังคับการตำรวจทางหลวงหินกองได้รับแจ้งจากสายข่าวว่ามีการขนยาเสพติดจาก จ. มุกดาหาร ภาคอีสานเข้ากรุงเทพฯจึงได้ทำการสกัดจับ บริเวณ ถนนพหลโยธินกมที่ 91หมู่14 ตำบล ห้วยขมิ้นอำเภอหนองแค จังหวัดสระบุรีจนตำรวจทางหลวงพบรถมิตซูบิชิ รุ่นปาเจโร่ สีขาว ทะเบียน กฒ 7 8 97 กรุงเทพฯสีขาวตามที่สายข่าวแจ้งมา มีพิรุธจึงเรียกให้เข้าข้างทางเพื่อ ตรวจสอบ คนขับรถคันดังกล่าวได้ขับรถเบียด รถตำรวจทางหลวงเปิดทางหนี ซึ่งเป็นรถปิคอัพสายตรวจตำรวทางหลวง1221และรถเก๋ง1206 หมายเลขทะเบียน 5 กย 615 1 กรุงเทพ เสียหายไฟท้ายด้านซ้ายแตกเสียหาย
จากนั้น ร้อยตำรวจเอกธนพล ยอดกันหา รองสารวัตรตำรวจทางหลวงสถานีตำรวจทางหลวง 2 กองกำกับการ 1 กองบังคับการตำรวจทางหลวงหินกอง พร้อมร้อยตำรวจเอก พลัฏฐ์ชัย หลุ่มขำ รองสารวัตรสถานีตำรวจทางหลวง2กองกำกับการ1กองบังคับการตำรวจทางหลวง ได้สั่งให้ตำรวจทางหลวงทุกหน่วยร่วมสกัดจับจนติดตามรถคนร้ายซึ่งวิ่งขึ้นทางยูเทิร์นรถกลับไปทางภาชีแล้วก็สั่งกำลังให้เฝ้าติดตามเพื่อที่จะสกัดจับต่อมาเวลาประมาณ 09.30 น เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงได้พบรถต้องสงสัยคันดังกล่าวบริเวณ โรงเหล็กเลยสี่แยกไฟแดงพระฉาย หมู่ที่3 ตำบลหนองปลาไหล อำเภอเมือง จังหวัดสระบุรี จึงเข้าสกัดจับคนร้าย 2 คนวิ่งหนีขึ้นเขาพระฉาย ในพื้นที่ติดเขาพระฉาย จึงทำการยึดรถและนำยาเสพติด มาตรวจสอบที่สถานีตำรวจทางหลวง 2 กองกำกับการ 1 กองบังคับการตำรวจทางหลวงหินกองจากการตรวจพบยาไอซ์จำนวน41กิโลกรัมและยาบ้า393มัดละ10, 000เม็ดและเศษ6, 000เม็ด ซึ่งอยู่ในกระสอบ38กระสอบส่วนตัวคนร้ายเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงานร่วมปิดล้อมไว้แล้วอยู่ระหว่างตรวจค้นคนร้ายบริเวณเขาพระฉายหมู่ที่3เพื่อที่จะนำมาดำเนินคดีต่อไป ซึ่งตอนนั้น ยังไม่สามารถติดตามผู้ร้ายได้
จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองสระบุรี ฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่มูลนิธิ ต่างๆได้ระดม กัน เพื่อติดตามผู้ต้องสงสัยจำนวน 2 คน ที่โดนลงรถมิตซูบิชิ ปาเจโร่ สีขาว ที่ใช้หลบหนี
จนวันนี้จะครบ 1 เดือนเต็ม ชุดปฎิษัติการการป้องกันปราบปรามยาเสพติดตำรวจภูธรภาค 1 นำโดย พันตำรวจเอกชยานนท์ มีสติ รอง ผบก. ฯ พันตำรวจเอกศุภากร จันทาบุตร รอง ผบก. ฯ และพันตำรวจเอกจิรัฏฐ์ ดอกไม้ ผกก. สส.ภ.จว.สระบุรี พันตำรวจโท สัญญา อุบลวิรัตนา รอง ผกก.สส. และ พันตำรวจเอก ธนินนท์รัฐ วิชทิพยนานนท์ ผกก. สภ. เมืองสระบุรี ได้ร่วมจับกุม ตามหมายจับของศาลจังหวัดสระบุรี เลขที่ 271 / 2562 วันที่ 22 พฤศจิกายน 2562 ได้แก่
1 ) นายไพบูลย์ หรืออ้วน วงษ์คำ อายุ 35 ปี ที่อยู่ 222 ม. 12 ต. หนามแท่ง อ. ศรีเชียงใหม่ จ.อุบลราชธานี
2 ) นายทองจันทร์ หรือ เตี่ย วงษ์คำ อายุ 33 ปี ที่อยู่ 115 ม. 3 ต. หนามแท่ง อ. ศรีเชียงใหม่ จ. อุบลราชธานี
3 ) นายทศพล หรือต้า เหมือนจันทร์ อายุ 28 ปี ที่อยู่ 1 ม. 5 ต. รัตนวารี อ. หัวตะพาน จ. อำนาจเจริญ
จับกุมในข้อหากระทำผิดฐาน
1 ) ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 ( ยาบ้า )
มีปริมาณ คำนวณเป็นสารบริสุทธิ์สามร้อยเจ็ดสิบห้ามิลลิกรัม ขึ้นไปในการครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต
2 ) ร่วมกันมีวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท ประเภท 2 ( คีตามีน ) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต
โดยการจับกุม สามารถจับกุมได้ที่จังหวัดอุบลราชธานี 3 คน ส่วน นายทองจันทร์ หรือ เตี่ย วงษ์คำ ( คนขับรถ ) เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ทำการจับกุมก่อนหน้านี้แล้ว โดย เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนภาค 1 ได้แบ่งกำลังเข้าจับกุม เป็น 2 ชุด
โดยจับกุม นายทศพล เหมือนจันทร์ และสามารถจับกุมนายไพบูลย์ วงษ์คำ
จากนั้นในเวลา 03.20 น. ได้นำตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 คน นำส่ง สภ. เมืองสระบุรี เพื่อทำการสอบสวนเพิ่มเติม เวลา 11.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ. เมืองสระบุรี ได้นำตัวชายทั้ง 3 ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ณ. ที่เกิดเหตุ ที่บริเวณถนนบายพาสเลี่ยงเมืองสระบุรี ซึ่งเป็นผู้ต้องหาทั้ง 2 จอดรถปาเจโร่สีขาวจอดทิ้งไว้ ณ.หน้าบริเวณบ้านเลขที่ 5/2 ม. 1 ต. หนองปลาไหล อ. เมือง จ.สระบุรี จากนั้นก็พากันแยกยายหลบหนี จุดที่ 2 เป็นจุดที่ผู้ต้องใช้หลบซ่อนตัวคือโรงแรมแห่งหนึ่ง ใน อ. เมือง จ.สระบุรี จากนั้น เป็นแคมป์คนงานของบริษัทผลิตปูนสำเร็จใช้เป็นที่หลบซ่อนอีกแห่งหนึ่ง
จากการเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เจ้าหน้าที่ตำรวจเมืองสระบุรี และตำรวจสืบภาค 1 ได้ทำการหาหลักฐานในการจับกุมบุคคลทั้ง 3 ที่ขนยาบ้ากว่า 4 ล้านเม็ด และไอซ์อีก 41 กก. ตำรวจลงพื้นที่ อย่างหนัก จนสามารถจับกุมได้ จากผลการจับกุม พันตำรวจเอกอมร ศรีทุนะโยธิน รอง ผบก. จว.สระบุรีกล่าวว่า จากคำให้การของผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ทราบว่า) นายไพบูลย์ หรืออ้วน วงษ์คำ เป็นคนขับรถดูต้นทาง แล้วนายทองจันทร์ หรือ เตี่ย วงษ์คำ นายทศพล หรือต้า เหมือนจันทร์ เป็นคนขับรถยี้ห้อมิตซูบิชิ รุ่นปาเจโร่ สีขาว ทะเบียน กฒ 7 8 97 กรุงเทพฯ ขนยาบ้า และยาไอช์ จากภาคอิสาน เพื่อจะไปส่งยัง อ. บางบัวทอง จ.นนทบุรี แต่ก็มาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงจับกุมเสียก่อน โดยนายทองจันทร์ นายทศพล ได้จอดรถหลหนีขึ้นไปยังเขาพระฉาย จากนั้นนายทองจันทร์ก็โทรหานายไพบูลย์ หรืออ้วน วงษ์คำ เป็นคนขับรถดูต้นทาง มารับบริเวณหน้าวัดพระพุทธฉาย แล้วไปหลบตัวซ่อนอยู่ในโรงแรมแห่งหนึ่งในจังหวัดสระบุรี แต่เหลือแต่นายทศพล หรือต้า ยังคงหลบหนีอยู่บนเขาพระฉาย จนเวลา 19.00 น. ของวันนั้น ก็ให้ นายไพบูลย์ หรืออ้วน วงษ์คำ มารับบริเวณถนนพหลโยธิน ใกล้ ๆๆ ที่เกิดเหตุ แล้วก็ส่งตัวไปหลบซ่อนอยู่ในแคมป์คนงาน จากนั้น นายทองจันทร์ และนายไพบูลย์ ได้ทำการขับรถเก่ง ขับหลบหนียังจ. อุบลราชธานี และในรุ่งเช้า นายทศพล หรือต้า ได้เดินทางด้วยรถไฟ หลบหนีไปยังอุบลราชธานี จากการแกะรอยจากเลขซิมโทรศัพท์ซึ่งตกอยู่ในรถขนยาบ้า และยาไอช์ ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจแกะรอย ทราบว่าเป็นชื่อของผู้ต้องหาขนยาบ้า จึงทำการสืบสวนและหาแหล่งกบดานของทั้ง 3 คน จนเป็นที่มาของการจับกุม
วันชัย หวังดีวีระ รายงาน