ซื้อของ "ไม่รับถุง" นางแบบหน้าชาเมื่อถูกพนักงานตรวจนึกว่าเป็นขโมย
ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Hongpapat Hongsachum ซึ่งเป็นนางแบบอิสระ ได้ออกมาแชร์ประสบการณ์เสียความรู้สึก หลังไปซื้อของที่ห้างแห่งหนึ่งใน จ.นนทบุรี ด้วยอยากช่วยลดโลกร้อน ก็เลยไม่รับถุงพลาสติก แต่กลับถูกพนักงานขอตรวจสอบ เพราะเข้าใจผิดว่าไม่ได้ชำระเงิน ระบุข้อความว่า
"เราซื้อกระเป๋าจากบูธด้านหน้าของห้างแห่งหนึ่ง ซื้อแล้วพนักงานแคชเชียร์ถามว่า ใส่ถุงไหม นี่ก็หวังดีต่อโลกร้อน ไม่ใส่ถุงค่ะ จ่ายเงินเสร็จ เราอยากได้รองเท้าผ้าใบใหม่ เลยเดินไปดูรองเท้าที่ช็อปด้านในห้าง จู่ๆ พนักงานช็อปเดินมาดึงกระเป๋าในมือเรา แล้วขอดึงแท็กบาร์โค้ดเรา เราตกใจและงงมาก
พนักงาน : ไม่ทราบว่าคุณผู้หญิงชำระเงินกระเป๋านี้หรือยังคะ
เม : ชำระแล้วค่ะ
พนักงาน : ไม่ทราบว่าคุณผู้หญิง ซื้อกระเป๋าใบนี้มาจากไหนคะ
เม : บูธด้านหน้าค่ะ ทำไมคะ
พนักงาน : ขออนุญาตเอาแท็กกระเป๋า ไปเช็คนะคะ แล้วก็เอาแท็กกระเป๋าเราไปเช็กกับแคชเชียร์ด้านหน้า
นี่ก็งงกับเหตุการณ์ แต่ก็เดินตามนางไป
เม : สรุปมีปัญหาอะไรหรือป่าวคะ
พนักงาน : ปกติถ้าลูกค้าซื้อของจากเรา เราจะใส่ถุงหิ้วให้ทุกครั้ง แต่นี่พนักงานไม่ได้ใส่ถุงหิ้วให้ เราจึงต้องขอเช็กบาร์โค้ดค่ะ รบกวนขอสลิปกระเป๋าใบนี้จากคุณลูกค้าด้วยนะคะ (ด้วยน้ำเสียงข่มเรา)
เม: เห้ยยยคุณ ถ้าคุณพูดแบบนี้เท่ากับบอกว่าเราขโมยของคุณ 100% เลยนะ แล้วคุณมีสิทธิ์อะไรมาดึงแท็กกระเป๋าจากในมือเรา
พนักงาน : ไม่ได้บอกว่าคุณลูกค้าขโมยค่ะ แต่เราทำตามหน้าที่ เรามีสิทธิ์ในการเช็คสินค้าค่ะ
เม : แต่คุณไม่มีสิทธิ์มาดึงแท็กสินค้าจากมือเราแบบนี้นะ แล้วถ้าเราพิสูจน์ได้ว่าเราไม่ได้ขโมยสินค้าคุณ ใครรับผิดชอบ ?
พนักงานเงียบ ไม่มีใครตอบ ตอนแรกยืนล้อมเรา พอเราถามหาความรับผิดชอบ วงแตกเลย ระหว่างนั้นเราก็โทรให้น้องชาย วิ่งเอาสลิปที่ซื้อไปมาให้ที่บูธ พนักงานก็ก้มดูสลิป แล้วพูดว่า ขอโทษค่ะ ด้วยน้ำเสียงไม่ได้รู้สึกผิดอะไรแม้แต่นิดเดียว
เราเลยจัดการตักเตือนพนักงานคนนี้ไปหนึ่งกระบวน ว่าถ้าเกิดข้อผิดพลาดการทำงานแบบนี้ให้คุณไปเรียบเรียงความผิดพลาดนี้จากพนักงานของคุณก่อน ไม่ใช่ มาดึงแท็กกระเป๋าจากมือลูกค้า และมาขอตรวจขอเช็กด้วยน้ำเสียงและท่าทางที่จงใจบอกว่าลูกค้าขโมยแบบนี้ แล้วผลสุดท้ายเราไม่ได้เอาไป แต่กลับไม่มีใครรับผิดชอบอะไรได้เลยสักคน
ความรู้สึกเราตอนนั้นเราเสียหน้า เสียความรู้สึกมาก ที่ต้องมานั่งกลางวงพนักงานล้อมรอบ เสมือนว่าเราเป็นขโมย...
“เราเข้าใจว่าจากการแต่งตัวไปเดินห้างใกล้บ้านของเรา เสื้อยืด กางเกงขาสั้น รองเท้าแตะ หน้าผมไม่แต่ง บวกกับเราซื้อของ ถือของโดยที่ไม่ได้ใส่ถุงของสินค้า อาจทำให้พนักงานสันนิษฐานผิด
แต่ก็คงไม่ใช่ประเด็น ประเด็นคือเป็นเรื่องของ "มารยาท" ตอนนี้ยังไม่ได้คอมเพลนนาง แต่กลับมานั่งที่บ้านแล้วชั่งใจตัวเองดูก่อนว่าจะคอมเพลนพนักงานคนนี้ดีไหม ขอบคุณทุกความคิดเห็น ตอนนี้เมกำลังจะส่งเรื่องให้ศูนย์บริการลูกค้า จัดการต่อถึงปัญหาตรงนี้แล้วค่ะ”
ประเด็นดังกล่าวกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ในสังคมออนไลน์ ด้านหนึ่งก็มองว่า ทางห้างหรือร้านค้าควรจะมีมาตรการเพื่อแยกลูกค้าที่ไม่รับถุง และคนที่ขโมยของออกจากกันให้ชัดเจน เพื่อสนองนโยบายไม่รับถุงพลาสติกที่กำลังรณรงค์อยู่ในตอนนี้ หรือพนักงานก็ควรที่จะขออนุญาตจากลูกค้าดีๆ ไม่ใช่แย่งของจากมือลูกค้า เพราะมารยาท น้ำเสียง ท่าทางมีผลต่อจิตใจลูกค้าที่ถูกตรวจสอบ เพราะคงไม่มีใครรู้สึกดีกับการถูกกล่าวหาหรือสงสัยว่าเป็นขโมย ขณะเดียวกัน ชาวเน็ตบางส่วนก็แนะนำว่า หากซื้อของไม่รับถุง ก็ให้พกใบเสร็จติดตัวเพื่อป้องกันปัญหา
ล่าสุด......นางแบบสาวได้อัปเดตเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยระบุว่า ได้รับการติดต่อขอโทษจากห้างสรรพสินค้าและต้นสังกัดพนักงานแล้ว เบื้องต้นทางห้างชี้แจงว่า เกิดจากความผิดพลาดที่พนักงานแคชเชียร์ลืมติดสติ๊กเกอร์ PAID เลยทำให้พนักงานเข้าใจผิด และเกิดการสื่อสารผิดพลาดในการอธิบายลูกค้าเรื่องการใส่ถุงสินค้า และการบริการของพนักงานที่เกิดขึ้น ด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของสถานการณ์ในตอนนั้น ซึ่งทั้ง 2 บริษัท ได้ขอโทษและแสดงความเสียใจถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และได้รับปากแล้วว่า จะอบรมการให้บริการ และมาตรฐานการให้บริการให้ดีกว่านี้ ส่วนพนักงานได้มาไหว้ขอโทษแล้ว ตนจึงไม่ได้ติดใจเอาผิดแต่อย่างใด