หน่วยกู้ภัย
เรื่องที่ดิฉันจะมาเล่าให้ฟังต่อไปนี้
เป็นภัยที่เกิดขึ้นกับดิฉันแบบไม่ทันตั้งตัว จนเกือบจะเอาชีวิตไม่รอด
จึงอยากจะเอามาเล่าให้เพื่อนๆได้ฟัง เผื่อถ้าใครได้เจอเหตุการณ์แบบนี้ จะได้มีสติตั้งหลักได้ทันท่วงที
เรื่องราวมันเริ่มขึ้นจากที่ ช่วงวันหยุดยาว
ดิฉันกับแฟนได้เดินทางไปงานศพญาติของแฟนที่จังหวัดแห่งหนึ่งทางภาคอีสาน
เราค้างคืนกันที่บ้านญาติแฟนอยู่คืนหนึ่ง
หลังจากตื่นเช้าแล้ว ช่วยงานเล็กๆน้อยๆเสร็จ ช่วงบ่ายๆ เราก็พากันเดินทางกลับ
ระหว่างเดินทางกลับ แฟนพาอ้อมไปอีกเส้นทางหนึ่ง ที่ไม่ใช่เส้นทางที่มากันตอนแรก
ซึ่งมันจะผ่านจังหวัดใหญ่ จังหวัดหนึ่ง
ระหว่างขับรถ เรียบแม่น้ำไป อยู่ๆแฟนก็ชวนดิฉันหาที่พักแถวนั้น พักกันสักคืนก่อน
เพราะอากาศมันดี วิวก็สวย
อารมณ์แบบว่า อยากจะ พักผ่อนกับธรรมชาติบ้าง
ดิฉันก็ไม่ได้ขัดอะไร
เราก็เลยแวะหาที่พักกันแถวนั้น
มาได้ ที่พักคล้ายๆรีสอร์ทหลังเล็กๆ
ดัานหลังมีลำธาร และมองไปทางลำธาร ฝั่งด้านหลังก็เหมือนเป็นเนินขึ้นไปคล้ายๆภูเขา แต่ไม่สูงมาก
บรรยากาศก็ดูดี พอสมควรค่ะ
ที่พักแต่ละหลังจะ อยู่ห่างกัน เป็นระยะ ระยะ พอประมาณ
แต่รู้สึกว่าจะมีคนมาพักไม่กี่หลังเอง
หลังจากเข้าที่พักได้
แฟนก็บอกว่า
อยากจะอยู่ต่ออีกคืนหนึ่ง
เอาไว้พรุ้งนี้เช้า เราก็ขับรถหาที่เที่ยวกันแถวๆนี้ แล้วก็กลับมาพักกันที่นี่อีกคืนหนึ่ง
ค่อยกลับ กรุงเทพ
ดิฉันก็ว่าตาม นั้นค่ะ
ช่วงเย็นๆแฟนขับรถไปแวะตลาดนัด หาซื้ออะไรมากินกัน
บรรยากาศก็ยังคงปกติค่ะ
จนตอนขากลับ ช่วงที่นั่งอยู่ในรถ มองออกไปตรงหน้าต่างรถด้านหน้า
ก็เริ่มเห็นเมฆฝน ดำทมึนตั้งเค้า มาแต่ไกล
พอขับไปถึงรีสอร์ท ฝนก็เริ่มตกลงมาแล้วค่ะ
เราก็เลยอดไปเดินเล่นตรงริมรำธาร อย่างที่ตั้งใจกันไว้
พอทานมื้อค่ำกันเสร็จ ฝนถึงหยุดตก
หลังจากอาบน้ำเข้านอนกันได้สักพัก ช่วงสลึมสลือกำลังจะหลับ
ดิฉันก็ได้ยินเสียงฝนตกลงมาอีก แต่ก็ไม่ได้คิดอะไรอะ
นอนฟังเสียงฝนได้อยู่พักหนึ่ง ดิฉันก็ เผลอหลับไป
มารู้สึกตัวอีกที กลางดึก ตอนได้ยินเสียงแฟนเรียก
ดิฉันลืมตาขึ้นมาก็เห็นในห้องเปิดไฟไว้แล้ว
ได้ยินเสียงแฟนบอกว่า รีบๆเปลี่ยนชุดเร็ว น้ำเต็มไปหมดเลย
ดิฉันรีบมองไปดูที่พื้น ตรงบริเวณที่แฟนยืนอยู่
เห็นน้ำนองพื้นสูงขึ้นมาเกือบเท่าตาตุ่มแฟนแล้ว
ดิฉันเลยรีบลุกจากเตียง ไปคว้าชุดเดินทางมาเปลี่ยน
ช่วงที่กำลังเก็บกระเป๋าอยู่ เห็นแฟนพยายามเปิดประตู
เห็นเขาดันประตูให้เปิดออก อยู่ไปมาพักหนึ่ง
พอออกแรงผลักจนสุดแรง ประตูก็เปิดอ้าออกตามแรงผลัก
เท่านั้นแหละ น้ำก็ทะลักเข้ามา สูงเกือบเท่าหัวเข่า
ดิฉันเห็นก็ตกใจมาก
ข้างนอกมันท่วมขนาดนั้นแล้วหรือ
แฟนผลักประตูออกไปจนเปิดออกทั้งบาน
น้ำก็ท่วมเข้ามาในห้อง อย่างเร็ว
แป๊บเดียว น้ำก็ขึ้นมาถึงหัวเข่าดิฉันแล้วค่ะ
จนทำให้ดิฉัน หิ้วกระเป๋าเดินไปหาแฟนอย่างยากลำบาก
พอเดินไปถึงแฟน แฟนก็รีบคว้ามือดิฉันไว้
ไฟก็ดับพรึ๊บลง ดิฉันก็เผลอตัวร้องว้าย ออกมาอย่างลืมตัว
พอทุกอย่างมืดลง ก็ยิ่งทำให้ดิฉัน กลัวมากขึ้น
พอมาถึงตรงขอบประตู สายฝนก็พัดกระหน่ำมาโดนตัวดิฉัน
พร้อมๆกับลมแรงปะทะเข้ากับหน้าดิฉัน จนรู้สึกหนาวสะท้านขึ้นมาทันที
ที่ขารู้สึกถึงมวลน้ำที่พัดผ่านหัวเข่าดิฉันอยู่ตลอดเวลา
ดิฉันตัวสั่นไปหมด ได้แต่เกาะ ตัวแฟนไว้ติดๆ
เขาพาดิฉันเดินไปที่รถที่จอดอยู่ตรงข้ามกับบ้าน
ช่วงที่กำลังเดินผ่านน้ำไป ดิฉันมองไปทางด้านหน้ารีสอร์ท
เห็นแต่ไฟท้ายรถคันหนึ่งกำลังขับออกจากรีสอร์ทขึ้นเนินถนนด้านหน้าไป
แล้วก็มีรถอีกคันกำลังขับไปตรงทางออก ตรงนั้น
พอดิฉันกับแฟนมาถึงรถ รีบขึ้นรถได้ แฟนก็สตาร์ทรถทันที
แฟนรีบถอยรถ แล้วขับตรงไปตรงทางออก ถนนใหญ่
ช่วงที่กำลังขับรถออกไป รู้สึกน้ำเริ่มพัดแรง จนแฟนบอกว่า
รู้สึกรถมันอืดมาก
ค่อยๆขับไปจนถึง รถคันข้างหน้า ที่กำลังจะขับขึ้นเนินออกไปตรงถนนใหญ่
ดิฉันก็ได้แต่ ภาวนา ให้รถคันนั้นมันขับออกไปได้ทีเถอะ
เพราะมองไปก็เห็นน้ำที่ล้นลงมาจากถนน จะท่วมรถคันนั้นครึ่งคันอยู่แล้ว
แฟนรีบ ขับรถไปจ่อท้ายคันข้างหน้านั้น
ดิฉันก็ใจเต้นตุ๋มๆต๋อมๆ
พอยิ่งขับไปใกล้ๆ น้ำตรงนั้นก็ยิ่งทะลักเข้ามาในรถ
พอรถคันข้างหน้าเขาขับขึ้นเนินตรงถนนนั้นได้ หัวรถก็เชิดขึ้น
ท้ายรถคันนั้นก็จมลงไปในน้ำ เกือบถึงกระโปรงท้าย
ดิฉันได้แต่ลุ้น เร็วๆ เร็วๆ
แต่พอแฟนกำลังจะเร่งเครื่องตาม อยู่ๆก็มีแรงกระแทกของน้ำ
ฟาดเข้ามาตรงหน้ารถคันนั้น จนดูเหมือนเป็นคลื่นใหญ่
แล้วรถคันหน้าก็ไหลถอยหลังมาทางรถเรา
ดิฉันตกใจ ร้องว้าย อย่างไม่ทันตั้งตัว
มองไปรอบตัวก็เห็นแต่มวลน้ำไหลเชี่ยวอยู่ข้างๆตัวรถ
ได้ยินแต่เสียงแฟน ร้องออกมา
ระวัง
แล้ว ดิฉันก็รู้สึกถึงแรงกระแทกเกิดขึ้นตรงข้างหน้าดิฉัน
มองไปอีกทีก็เห็นท้ายรถคันนั้น ชนด้านหน้ารถเราอยู่
แล้วดิฉันก็รู้สึกว่ารถมันเบาๆ แล้วลอยอยู่ในน้ำ
รู้สึกรถมันถอยหลังได้เอง
แฟนบอกว่า รีบลงจากรถเร็ว
ดิฉันทำอะไรไม่ถูก มองไปข้างหน้า เห็นแต่รถคันข้างหน้า
ถูกน้ำพัด จนมันหันมาขวางหน้ารถเราไว้
รถรื่นไถลย้อนกลับไปตามทางที่เราขับออกมา
แฟนก็ร้องบอกว่า เบรคไม่ได้
ดิฉันตกใจมาก ใจสั่นไปหมด
แล้วรถมันก็ไหลไปตามน้ำเร็วมาก
วินาทีนั้น คือ คิดอะไรไม่ออกเลย
มองไปข้างหน้าก็เห็นรถคันหน้ามันพลิกตะแคงข้างแล้วค่ะ
แฟนรีบเอากระจกข้างลงทั้งสองข้าง
แล้วก็บอกว่า ปีนออกมา
ดิฉันตัวเกร็ง สั่นไปหมด จับขอบหน้าต่างรถ มองออกไปข้างๆ
เห็นแต่รถไหลไปกับน้ำ น่ากลัวมาก
แล้วก็เลยร้องบอกแฟนไปว่า ไม่กล้า
ตอนนั้นรถมันไหลมาจนถึง บ้านหลังที่เราพัก
ได้ยินแต่เสียง คนตกน้ำ ตูม
มองไปอีกทีก็ไม่เห็นแฟนในรถแล้ว
ดิฉันตกใจ พยายามมองหาแฟน ว่าเขาปลอดภัยหรือเปล่า
แต่ปากได้แต่ร้องเสียงดังออกมา อย่างลืมตัว
จนรู้สึกท้ายรถมันกระแทกอะไรสักอย่าง แล้วก็หยุดชะงักลง
พอหันไปดู ด้านหลังมันเป็นต้นไม้ใหญ่ค่ะ
สักพักแฟนก็มาถึงตัวดิฉัน ถามว่าเป็นอะไรหรือเปล่า
ดิฉันบอกว่าไม่เป็นไร
พอเขาดึงดิฉันออกมาจากหน้าต่างได้
น้ำก็พัดเอาทั้งดิฉันทั้งแฟนกลิ้งลงไปตามทาง
จนไปหยุดอยู่แถวๆข้างๆลำธาร
พอมองไปฝังตรงข้าม แฟนก็พูดขึ้นว่า
ตรงนั้นมันเหมือนเนินนะ น้ำน่าจะท่วมไม่ถึง
แล้วแฟนก็รีบดึงตัวดิฉันให้ข้ามลำธารไป
ตอนนั้นน้ำท่วมมาถึงเอวแล้วค่ะ
พอดิฉันก้าวตามแฟนไปได้ไม่กี่ก้าว น้ำก็ขึ้นมาเกือบถึงหน้าอกดิฉันแล้ว
จนทำให้ดิฉันไม่กล้าเดินต่อไป ด้วยความกลัว
แฟนบอกว่า เร็วๆเดี๋ยวไม่ทัน
ดิฉันก็ได้แต่ร้องไห้ แล้วก็บอกว่า กลัว กลัว
เขาก็มาจับตัวดิฉัน แล้วก็ให้ดิฉันขี่หลังเขา
พอพาดิฉันข้ามลำธารมาได้เกือบจะถึงครึ่งทาง
น้ำก็ท่วมมาถึงหน้าอกแฟนแล้วค่ะ
พอดิฉันหันกลับไปดูว่า เรามาไกลแค่ไหนแล้ว
อยู่ๆดิฉันก็เห็นเงาตะคุ่มตะคุ่ม กลิ้งตกลงมาจากตรงข้างๆลำธาร
มองดูอีกทีเหมือนเป็นคนรูปร่างอ้วนๆ
พอฟ้าแลบมาที ถึงเห็นว่าเป็นผู้ชาย
ดิฉันก็เลยบอกแฟนไปว่า มีคนตามเรามาด้วย
แฟนก็บอกว่า สงสัยคงเป็นคนในรถคันนั้นแหละ
พอหันไปอีกที ก็เห็นผู้ชายคนนั้นเดินตามหลังเราลงมาในลำธารแล้ว
พอแฟนพาดิฉันเดินมาเกือบๆใกล้จะถึงอีกฝั่ง
อยู่ๆก็รู้สึกน้ำกระเพื่อมวูบขึ้นจนตัวเราสองคนลอยไปตามแรงกระเพื่อม
พอน้ำกระเพื่อมนั้นพัดหายไป แฟนก็จมพรวดลงไปอย่างเร็ว
จนดิฉันตกใจ
เป็นอะไร
แฟนก็บอกว่า น้ำขึ้นเร็วมาก
ดิฉันมองไปเห็นแต่น้ำอยู่ระดับปากแฟนแล้วค่ะ
แล้วแฟนก็รีบพาดิฉันข้ามไปจนขึ้นอีกฝั่งได้
พอขึ้นไปยืนบนฝั่งได้
มองไปดูผู้ชายคนนั้นอีกที
เขาข้ามมาถึงครึ่งทางแล้ว
แต่ว่า น้ำท่วมสูงขึ้นจนถึงคอเขาแล้ว
สักพักอยู่ๆก็ได้ยินเหมือนเสียงไม้หักดังมาจากตรงไหนไกลๆ
พอพากันหันไปดูทางต้นน้ำ
ก็เห็นเหมือนเป็น คล้ายๆกองผักตบ
แต่พอเพ่งมองดูดีๆอีกทีมันเป็นกอไม้ เศษต้นไม้ ที่ถูกน้ำพัดมา
พอเห็นดังนั้น ดิฉันกับแฟนก็ รีบตะโกนบอกชายคนนั้น
เร็วๆ เร็วๆ น้ำจะมาแล้ว
ไม่ทันขาดคำ น้ำก็กระเพื่อมขึ้นมาอีก
ร่างชายคนนั้นลอยขึ้นตามแรงกระเพื่อมของน้ำ
ก่อนจะจมหายวับไป
แล้วสักพักก็โผล่พรวดขึ้นมากลางลำธาร
ก่อนจะรีบว่ายน้ำเข้ามา
เหลืออีกไม่ถึงกี่ช่วงตัว ชายคนนั้นก็ร้องตะโกนมาทางดิฉันกับแฟน
ช่วยด้วย
ดิฉันมองไปเห็นแต่เขา เหมือนคนจะหมดแรงแล้วค่ะ
พยายามยื่นมือมาทางเรา
แฟนกำลังจะกระโดดลงไปช่วย
อยู่ๆ ก็ได้ยินเสียง ซู่ กับเสียงไม้ปริแตกดังสนั่นขึ้น
แล้วน้ำลูกใหญ่ก็พัดมาซัดเอาชายคนนั้นหายไปต่อหน้าต่อตาเราทั้งคู่
ไม่นานพวกเศษกิ่งไม้ ต้นไม้ที่หักก็ลอยเกลื่อนมาตามน้ำอย่างแรง
ระดับน้ำตรงขอบฝั่งที่เรายืนอยู่ก็เอ่อขึ้นมาอย่างรวดเร็ว
จนแฟนดิฉ้น รีบหันมาตะโกนบอกดิฉัน
วิ่ง
พอดิฉันกำลังจะหันไปวิ่ง รู้สึกน้ำก็แทรกมาดักหน้าดิฉันไว้แล้วค่ะ
ดิฉันกับแฟนเริ่มเดินลุยน้ำเท่าหัวเข่า รีบวิ่งขึ้นไปบนเนินให้มากที่สุด
แต่ข้างหน้ามืดมาก แล้วต้นไม้ก็เยอะ
น้ำที่พัดเข้ามาก็เริ่มไหลเชี่ยว แฟนวิ่งตามหลังดิฉันมา
สักพักก็ได้ยินเสียงแฟนร้อง โอ๊ย
พอหันไปก็เห็นแฟน ล้มลงไป
มือจับต้นไม้ไว้
ดิฉันถามว่าเป็นอะไร
แฟนก็บอกว่า ไม้ทิ่มขา
พอดิฉันกำลังจะเข้าไปดูใกล้ๆ
อยู่ๆน้ำก็พัดมาแรงมาก จนตัวแฟนหลุดจากต้นไม้ลอยไปตามน้ำเลยค่ะ
ดิฉันได้แต่ร้องลั่น พยายามเอื้อมมือไปคว้ามือแฟนไว้
เห็นแต่ร่างแฟนลอยไปติดอยู่ที่ต้นไม้อีกต้น ไม่ไกล
แล้วอยู่ๆตรง ที่ดิฉันยืนอยู่ น้ำก็พุ่งสูงขึ้นอย่างไม่ทันตั้งตัวเลยค่ะ
ได้ยินแต่แฟนตะโกนมาว่า
หนีขึ้นที่สูง
ตรงที่ดิฉันอยู่ตอนนั้น น้ำท่วมมาถึงอกแล้วค่ะ
มองไปตรงดัานหลังแฟน เห็นน้ำไหลเชี่ยวมาก
แล้วแฟนก็รีบว่ายน้ำมาหาดิฉัน
เส้นยาแดงผ่าแปดมาก พอแฟนกระโจนออกมาจาก ต้นไม้นั้นได้
เศษไม้ที่มากับน้ำก็ทะลักเข้ากระแทกกับต้นไม้ที่แฟนอยู่ทันที
แฟนตะโกนว่าไปก่อนไม่ต้องห่วง
ดิฉันรีบวิ่งลุยน้ำไปในความมืด
รู้สึกเหมือนมีอะไรเสียดสีกับผิวดิฉันอยู่ใต้ผิวน้ำเต็มไปหมด
พอวิ่งขึ้นที่สูงไปได้สักพัก แฟนก็ตามมาทัน
เราพากันมาหยุดอยู่ตรงที่น้ำท่วมไม่ถึง
ต่างคนต่างหนาวตัวสั่น แฟนกอดดิฉันไว้แน่น
ทุกๆสิบนาที น้ำจะขึ้นมาตลอด จนทำให้เราต้องขยับขึ้นไปในที่ที่สูงอีก
ตอนนั้นคือกลัวมาก ทั้งหนาว ทั้งตัวสั่นไปหมด
มองไปข้างหน้า ตรงฝั่งรีสอร์ท ท่วมจนไม่เห็นหลังคาเลย
ต้นไม้ที่เราวิ่งผ่านมาตรงทางขึ้นลำธารก็ ถูกน้ำท่วมจนมิด
กระแสน้ำไหลเชี่ยวน่ากลัวมาก
ไม่รู้ว่ารออยู่แบบนั้นนานแค่ไหน
แต่พักใหญ่ๆ ก็เห็นเป็นเหมือนไฟอะไรอยู่กลางน้ำ
พอมองดูดีๆอีกที มันเป็นไฟฉาย ที่ติดอยู่บนหัวคนที่มากับเรือลำเล็กๆค่ะ
พอเราเห็นทั้งดิฉันทั้งแฟนก็ตะโกนเรียกพวกเขา
ตอนแรกเขาไม่ได้ยินเสียงเรียก
ทำท่าเหมือนจะผ่านพวกเราไป
พอแฟนเป่าปากให้มีเสียงดังวี๊ด เขาก็เลยหันมา
พอฉายไฟมาก็เจอพวกเราพอดี
โห .. โชคดีมาก
พอมาถึงพวกเรา
ปรากฏว่ามันเป็นเรือที่ไม่ใช่เรือยางค่ะ
เป็นเรือไม้เก่าๆ แบบชาวบ้านชาวบ้าน
เป็นลุงแก่ๆผิวคล้ำสองคน
พอขึ้นเรือได้ เขาไม่ได้พาเราไปส่งฝั่งรีสอร์ท
เขาบอกว่าฝั่งโน้นน้ำท่วมหมด ไม่มีที่ลงได้เลย
เนื่องจากเรือมันเล็ก
เดี๋ยวเขาจะพาเราไปอยู่อีกที่ก่อน
รอเจ้าหน้าที่มาช่วยเหลืออีกที
แล้วเขาก็พายเรือพาเราอ้อมไปทางด้านหลังเนินที่เราอยู่ค่ะ
พอไปถึง
ดิฉันนั่งอยู่บนเรือ มองไปตรงฝั่ง
เห็นบ้านหลังหนึ่ง อยู่ห่างจากฝั่งไม่ไกล
เดินไปไม่น่าเกินสิบก้าว ก็น่าจะถึงตัวบ้าน
มองตามแสงไฟฉายที่หัวลุงส่องขึ้นไปที่ฝั่ง
ก็เห็นเป็นบ้านไม้เก่าๆที่มีใต้ถุนยกสูง
แล้วลุงสองคนนั้นก็บอกว่า
รออยู่ตรงนี้ก่อนนะ เดี๋ยวเขาตามคนมาช่วย
พอขึ้นฝั่งได้ ดิฉันกับแฟนก็พากันเดินตรงไปที่บ้านหลังนั้น
เดินเข้าไปใกล้ๆ มองไปรอบๆตัวบ้านมืดมาก ไม่มีไฟฟ้า
สายฝนยังคงโปรยปรายลงมาอย่างต่อเนื่อง แต่ไม่แรงมากนัก
สลับกับฟ้าร้อง ฟ้าแลบไปมาเป็นระยะระยะ
ขณะเดินเข้าไป ดิฉันมองขึ้นไปดูบ้านหลังนั้นดีๆอีกที แสงฟ้าก็แลบมาพอดี
เห็นตัวบ้านชั้นบนเป็นไม้เก่าๆ ผุๆพังๆ
ที่ด้านบนเกือบถึงหลังคา
มีป้ายไม้ผุๆ ตัวหนังสือจางๆเขียนว่า ศูนย์
แล้วก็มองไม่เห็นตัวต่อไป เพราะตัวหนังสือมันลอกไปจนหมด
มองเห็นแต่คำลงท้ายว่า อนามัย
แล้วฟ้าก็ร้องดังเปรี้ยงขึ้นจนดิฉันสะดุ้งโหยง
ก่อนที่แฟนจะรีบพาดิฉันวิ่งเข้าไปใต้ถุนบ้าน
โปรดติดตามตอนต่อไป