คาถาเรียกทรัพย์ เรียกเงินทอง โชคลาภ ร่ำรวยและเคล็ดลับการท่องคาถา (ตอนที่ 2)
คาถาเรียกทรัพย์ เรียกเงินทอง โชคลาภ ร่ำรวยและเคล็ดลับการท่องคาถา (ตอนที่ 2)
กล่าวได้ว่า กิจใดๆ ก็ตามทั้งทางโลกและทางธรรม คงหนีไม่พ้นการสวดมนต์และสวดพระคาถามาประกอบกิจนั้น เช่น การตั้งศาลพระภูมิเจ้าที่ การลงนะ การรักษาโรคตามโบราณหรือภูมิปัญญาชาวบ้าน เป็นต้น เพราะการสวดมนต์นั้นเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการทำกรรมดี เป็นการเพิ่มฤทธิ์ทางใจ น้อมนำพลังฝ่ายดีเข้าสู่ตัวด้วยอำนาจแห่งอักขระ อำนาจของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่บรรจุอยู่ในบทสวดมนต์นั้น
ก่อนสวดมนต์หรือสวดคาถาศักดิ์สิทธิ์ทุกบท ต้องรู้เคล็ด
- ต้องเป็นคนดีมีศีลธรรม และมีบุญเป็นของตนเอง
สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ไม่ต้องสงสัยในกรรมที่เป็นอุปสรรคชีวิตของตนเอง แต่ขอให้หมั่นทำความดีสร้างบุญให้มากขึ้นเพื่อไม่ให้กรรมชั่วส่งผลตามทัน ด้วยกรรมชั่วที่สะสมมาหลายภพชาติเราจึงต้องทำบุญที่หลากหลายกิจกรรมมากขึ้นด้วย ใครไม่เคยสาธุเสียงดังๆ ก็ลองทำดู ใครไม่เคยภาวนาก็ลองภาวนาดู (ฟังมาก รู้มาก ปฏิบัติได้ผลมาก) ทำอะไรต้องอดทน บางคนทำบุญขึ้นเพราะกรรมดีส่งผลมากกว่ากรรมชั่ว ที่ว่าต้องอดทนเพราะกรรมชั่วจะสกัดกั้นไม่ให้กรรมดีเข้าตัว บางคนจึงต้องใช้เวลาสะสมกรรมดี รอผลบุญรวมตัวเพื่อเอาชนะกรรมชั่ว เปรียบเสมือนร่างกายที่ได้รับสารพิษหรือเจ็บป่วยเรื้อรัง ย่อมต้องใช้เวลาในการฟื้นฟู
- หมั่นทำบุญ และอุทิศบุญเพื่อให้เหล่าองค์เทพและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เจ้าของคาถาคุ้มครองอวยพร
ชีวิตจะดีขึ้นมาได้นั้น ต้องมีบุญเก่าเป็นตัวหนุนไปรวมกับบุญใหม่เพื่อเป็นทุน ก่อนจะไปขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ท่านช่วยหรือไปพึ่งบุญของคนอื่น เปรียบเหมือนการประกอบการงาน เรายังต้องมีต้นทุนในการเริ่มต้น ไม่ว่าจะเป็นแรงกาย เงินทุน เงินหมุนเวียนในแต่ละเดือน
รูปจาก https://gramha.net/media/2069865697791712692
เคล็ดลับ (1) คือ การให้ทานแบบทันที ให้ไปตามที่ร้องขอ ให้ตรงตามเวลา ตรงประโยชน์ที่คนมาขอความช่วยเหลือต้องการ อย่าขี้เหนียว อย่าไปกังวลว่าให้ไปแล้วเขาจะเอาไปทำอะไร ครูบอาจารย์ท่านบอกว่า ใครทำทานแบบนี้ได้ จะเกิดโชคลาภมากมายแบบไม่คาดฝันขึ้นบ่อย จับอะไรก็เป็นเงินเป็นทองหมด เพราะกระแสบุญนั้นสูงและมาสนองตอบเร็ว
เคล็ดลับ (2) คือ เมื่อเราสร้างบุญแล้ว เราต้องอุทิศถวายบุญกุศลนั้น เป็นพุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา ถวายแด่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ตั้งแต่องค์ปฐม พระพุทธเจ้าทุกพระองค์ จนถึงองค์ปัจจุบันและอุทิศโมทนาพระคุณความดีของครูบาอาจารย์ท่านที่เป็นเจ้าของคาถา อุทิศแด่เทวดาประจำตัว พรหมเทพเทวดาทั้งหลาย และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย ให้ท่านช่วยเมตตาดลจิตดลใจ เราได้มีโอกาส สร้างพลังบุญมากขึ้นไปอีกและทำเหตุให้ตรงกับผลที่เราปรารถนาอยากได้
เช่น ขออุทิศถวายเป็นพุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา นั้นสำหรับพระพุทธมนต์ที่มาจากพระโอษฐ์ของพระพุทธเจ้า เพื่อแสดงความนอบน้อมบูชาพระพุทธองค์
ขออุทิศโมทนาพระคุณความดีนั้นใช้กับพระอรหันต์ พระโพธิสัตว์ พระอริยสงฆ์ ที่เป็นเจ้าของพระคาถาหรือคาถา
สำหรับครูบาอาจารย์ที่เป็นฆราวาสที่เป็นผู้ค้นคิดนั้นใช้คำว่า อุทิศบุญแด่…(บอกชื่อท่านไป) แต่ถ้าไม่รู้ ให้กล่าวถึงว่า อุทิศถึงครูบาอาจารย์ผู้เป็นคนแต่งพระคาถาหรือคาถาที่เรามาใช้สวด
หมายเหตุ การใช้คำให้ถูกนั้น เป็นการแสดงเจตนาในความเคารพ เหมือนกับการจัดหิ้งพระ ที่ต้องรู้ว่าชั้นที่หนึ่งควรจัดพระพุทธรูปเป็นประธาน ชั้นที่สองเป็นพระอรหันต์ ชั้นที่สามเป็นพระโพธิสัตว์หรือพระอริยสงฆ์ ครูบาอาจารย์
ส่วนการอุทิศโมทนาพระคุณความดีหรือการอุทิศบุญนั้น เป็นการเชื่อมบุญกับท่านเจ้าของคาถา และเป็นการขอให้ตัวเรานั้นมีส่วนร่วมในบุญของท่านที่มีมากมายมหาศาล จนประมาณไม่ได้ตั้งแต่ในอดีตจนถึงปัจจุบันและที่จะมีต่อไปในอนาคต เป็นการเพิ่มบุญให้กับตัวเราเองด้วย
การเชื่อมบุญนั้น เป็นเคล็ดวิธีโบราณ เป็นการอุทิศบุญใหม่ที่เราทำเพื่อไปกระตุ้นบุญเก่าที่เราอาจจะมีร่วมกับครูบาอาจารย์ ซึ่งต้องบอกว่ามีแน่นอนแต่จะมีน้อยหรือมากแค่ไหนไม่ทราบ ที่บอกว่ามีเพราะแม้ว่าเราจะไม่เคยพบ ไม่เคยได้รับคำสั่งสอน หรือได้รับคาถาโดยตรงจากท่าน แต่ทำไมเราถึงเลื่อมใส และมีจิตผูกพันกับท่านและอยากให้ท่านได้ช่วยเหลือ หรืออยากให้คาถาของท่าน บันดาลให้เกิดผลดีต่อตนเอง
เหตุที่เป็นเช่นนี้ เพราะในอดีตชาติต้องมีความผูกพันกับท่านแน่นอน อาจจะเป็นคนรับใช้ เป็นญาติ เป็นลูกศิษย์ของท่านหรือเคนร่วมสร้างบุญกับท่าน เป็นไปได้ทั้งนั้น
และการเชื่อมบุญนี้ ถือว่าเป็นบุญใหม่ที่เราอุทิศไปมีส่วนร่วมบุญกับท่าน เพื่อให้ท่านรู้จักเรา เมตตาเรา เหมือนกับญาติผู้ใหญ่ของเรา ที่เรานานๆ ไปหาท่านสักครั้งหนึ่ง กับญาติผู้ใหญ่ที่เราหมั่นไปเยี่ยมเยียนมีอะไรไปฝากไปไหว้ท่านเสมอ เวลาที่เรามีเรื่องเดือดร้อน ท่านผู้อ่านคิดว่าญาติผู้ใหญ่ท่านไหนจะช่วยเราแบบเต็มใจ เต็มที่
การเชื่อมบุญนั้น เราเองต้องมีบุญของตนไปเชื่อมด้วย ถ้าไม่สร้างบุญขึ้นมาที่เป็นของตนจะเอาบุญที่ไหนไปเชื่อมบุญกับท่านได้ สำหรับการสร้างบุญกุศลนั้น เป็นเรื่องที่ทำได้ง่าย ไม่ยุ่งยาก ขอให้ยึดหลักการทำบุญแห่งบุญกิริยาวัตถุ 10 ประการไว้ เพราะเป็นการสร้างบุญบารมีที่ถูกต้องหลักพระพุทธศาสนา อันได้แก่
- การบริจาคทาน (ทานมัย)
- รักษาศีล (สีลมัย)
- การภาวนา (ภาวนามัย)
- การประพฤติอ่อนน้อมถ่อมตนต่อผู้ใหญ่ (อปจายนมัย)
- การทำงานในกิจการที่ชอบ (เวยยาวัจจมัย)
- การให้ส่วนบุญแก่ผู้อื่น (ปัตติทานมัย)
- การอนุโมทนาบุญ (ปัตตานุโมทนามัย)
- การฟังธรรม (ธัมมัสสวนมัย)
- การแสดงธรรม (ธัมมเทสนามัย)
- การทำความเห็นให้ตรง (ทิฏฐชุกัมม์)
ขอให้ทุกท่านพบแต่ความมหัศจรรย์ ทำการค้าขายเจริญรุ่งเรือง เงินไหลมาเทมา ครอบครัวอยู่เย็นเป็นสุข ชีวิตรุ่งเรือง ร่ำรวย วิบากกรรมคลี่คลาย
(ท่านสามารถย้อนดู ตอนที่ 1 ได้ที่ https://board.postjung.com/1161076 )
อ้างอิง: https://www.buddhist.egat.co.th ชมรมพุทธศาสน์ กฟผ. (เกร็ดประวัติและปกิณกธรรมของหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ๑ จากหนังสือ "รำลึกวันวาน" โดย หลวงตาทองคำ จารุวัณโณ)