เจอดีที่โรงพยาบาล
จ๋าเป็นแม่ค้าขายขนมหวาน ซึ่งจะห่อเป็นถุงเล็กๆ ไปเดินขายในโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ขนมที่ขายมีทั้งบัวลอย ข้าวเหนียวถั่วดำ กล้วยบวชชีและอีกหลายอย่าง ซึ่งทำสลับกันไปทุกวันเพื่อไม่ให้ ซ้ำกัน โดยจ๋าจะเดินขายไปเรื่อยๆ ตั้งแต่บริเวณทางเข้า จุดนั่งรอตรวจและหน้าห้องผู้ป่วย บางทีก็นั่งตั้งหลักที่โต๊ะหินอ่อนหน้าโรงพยาบาลไม่ก็ตรงเก้าอี้รอตรวจ แล้วพวกพยาบาลและญาติคนไข้ก็จะเดินมาเลือกซื้อกันเอง แต่การค้าขายจะรอให้ลูกค้าเดินมาหาอย่างเดียวก็ไม่ได้ ดังนั้นส่วนใหญ่จ๋ามักจะเดินไปหาลูกค้าเองมากกว่าและการไปขายของในโรงพยาบาลนี้เองที่ทำให้จ๋าได้เจอกับเรื่องขนหัวลุก
ครั้งแรกที่เจอตอนนั้นจ๋านั่งอยู่ที่โต๊ะหินอ่อน ซึ่งด้านข้างเป็นโรงจอดรถฉุกเฉินของโรงพยาบาลขณะที่นั่งรอคนมาซื้อขนมอยู่นั้น สาก็คุยโทรศัพท์ไปด้วย ยิ่งคุยก็ยิ่งเพลิน มีทั้งเสียงหัวเราะและเสียงตบโต๊ะ แต่ขณะที่คุยเพลินๆ เธอก็ได้ยินเสียงคนแก่ถอนหายใจแรงมาก “เฮ้อ” ซึ่งดังมาจากแถวๆ รถฉุกเฉินจ๋าหันไปดูแล้วแต่ตรงนั้นไม่มีใครอยู่เลย ก็คิดว่าคงหูแว่วไปเองเลยหันกลับมาคุยโทรศัพท์ต่อ พอคุยต่อได้ไม่ถึงนาทีเอาอีกแล้วเสียงถอนหายใจดังขึ้นอีก “เฮ้อ” จ๋ารีบหันไปดูและตัดสินใจเดินไปที่รถฉุกเฉินซึ่งจอดอยู่สามคัน จ๋าเดินดูทีละคัน เอามือป้องกระจกส่องดูข้างในก็ไม่มีใครเลยสักคน จนสาหันหลังกลับจะเดินไปที่โต๊ะ ก็มีเสียงถอนหายใจดังขึ้นชัดเจน มาจากท้ายรถของคันแรก จ๋าไม่กล้าหันไปดูอีกแล้วเพราะตอนแรก ดูทั่วหมดก็ไม่เจอใคร คิดว่าต้องมีอะไรแปลกๆ แน่ จ๋ารีบวางโทรศัพท์เพราะคิดว่าคุยโทรศัพท์ดังไปหรือเปล่าเลยไปรบกวนใครเข้า
หลังจากเหตุการณ์ครั้งนั้นจ๋าก็เจอดีอีกครั้ง วันนั้นเดินขายขนมอยู่ที่ตึกหน้าซึ่งเป็นอาคารสองชั้น สักพักก็เจอพี่ที่รู้จักกันเดินมาถามว่า จะขึ้นไปขายชั้นบนด้วยเปล่า จ๋าบอกว่าเดี๋ยวขึ้นไป พี่คนนั้นเลยเลือกซื้อขนมและฝากให้จ๋าเอาไปส่งให้เมียแกที่ห้องวีไอพีสองพอขายที่ชั้นล่างเสร็จจ๋าก็เดินขึ้นบันไดไปชั้นสอง แล้วก็เดินเลยห้องวีไอพีไปขายที่ห้องผู้ป่วยรวม พอจ๋ามองในตะกร้าก็นึกขึ้นได้ว่าต้องเอาขนมในถุงหิ้ว ไปให้ห้องวีไอพี แต่เพราะตอนนั้นญาติคนไข้มารุมเลือกซื้อขนมอยู่จ๋าเลยกะว่าขายให้เสร็จก่อนค่อยไปห้องวีไอพี พอเสร็จจากตรงนั้นจ๋าก็เดินไปเปิดห้องวีไอพี เมื่อเปิดเข้าไปก็ได้ยินเสียงคนฉีดน้ำอยู่ในห้องน้ำ จ๋าเลยเข้าไปนั่งรอ กะว่าจะถามไถ่ว่าเป็นยังไงบ้าง แต่นั่งรออยู่เกือบห้านาที เสียงฉีดน้ำก็ยังดังอยู่อย่างนั้น จ๋าเลยตะโกนถามว่า “เป็นไงมั่งพี่” เสียงฉีดน้ำในห้องน้ำหยุด แล้วมีเสียงตอบกลับแค่คำว่า “อืม” แต่เสียงนั้นทุ้มมาก มันน่าจะเป็นเสียงผู้ชายมากกว่า แต่อีกใจก็คิดว่าอาจเป็นหวัดพี่เขาเลยเสียงเปลี่ยน จ๋านั่งรออีกห้านาทีได้ แต่เพราะต้องไปขายขนมต่ออีกเลยเดินไปดูที่ระเบียงด้านหลังห้อง ซึ่งจะมอง เห็นลานจอดรถ มีคนขับเข้ามากันเยอะ จ๋าอยากลงไปขายของต่อเลยพูดขึ้นว่า “พี่เดี๋ยวจ๋าวางขนมไว้ บนโต๊ะนะ จ๋าไปขายขนมก่อน” เสียงในห้องน้ำดังก้องออกมาว่า “เออ” จ๋างงมากว่าทำไมเมียพี่ข้างบ้าน ถึงพูดจาห้วนขนาดนี้ แล้วเสียงก็ทุ้มห้าวอย่างกับเสียงผู้ชาย เลยถามไปว่าเป็นอะไรไหมเห็นเข้าห้องน้ำ นานแล้ว แต่ทุกอย่างเงียบกริบ ทั้งเสียงฉีดน้ำและเสียงคน
จ๋ารู้สึกแปลก ๆ เลยเอามือเคาะประตูเรียก แต่ปรากฏว่าประตูไม่ได้ล็อก มันเปิดออก ในห้องน้ำไม่มีใครเลยสักคน จ๋าก้าวขาไม่ออก ยืนขาตาย ขนลุกซู่ไปทั้งตัว จนพี่ศรี แม่บ้านเข้ามาพอดี เห็นจ๋ายืนหน้าซีด เหมือนคนจะเป็นลม จึงเรียกพยาบาลมาช่วย จ๋าบอกว่าไม่ได้เป็นอะไรมาก แค่จะแวะเอาขนมมาให้เมียพี่สัน” พยาบาลจึงบอกว่า “อยู่ห้องถัดไป เขาอยู่ห้อง วีไอพีสอง ส่วนห้องนี้วีไอพีหนึ่งคนไข้เพิ่งเสียไม่มีใครอยู่แล้ว” จ๋ารู้สึกหลังเย็นวาบอีกครั้ง มือไม้อ่อน ไปหมดเหมือนจะเป็นลม ไม่คิดว่าจะเจอเรื่องหลอนในโรงพยาบาลซ้ำสองแต่ว่ายังดีที่ยังไม่ได้เห็นตัวเป็นๆ ถ้าเจอแบบนั้นจ๋าคงต้องเลิกขายของที่โรงพยาบาลอย่างแน่นอน