ต้นกำเนิดราชกิจจานุเบกษา
หลาย ๆ ท่านคงเคยได้ยินคำว่าราชกิจจานุเบกษา กันจนคุ้นหู แต่หลายคนอาจยังไม่เข้าใจความหมายและที่มาของคำ ๆ นี้ วันนี้เรย์ด้ามีโอกาศค้นข้อมูลจากหอจดหมายเหตุแห่งชาติเลยขอนำความรู้นี้มาแบ่งปันเพื่อน ๆ นะคะ
ราชกิจจานุเบกษา คือ หนังสือที่รวบรวมคำประกาศของทางราชการ เป็นเอกสารหลักในการแจ้งประกาศ กฎหมาย และคำสั่งทางราชการให้ประชาชนทราบอย่างเป็นทางการ ราชกิจจานุเบกษาจึงเป็นสิ่งพิมพ์ของไทยที่มีอายุยาวนานที่สุด ซึ่งสำนักพิมพ์คณะรัฐมนตรีและราชกิจจานุเบกษา สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี เป็นผู้รับผิดชอบจัดพิมพ์และเผยแพร่
ประวัติ
ตามพระราชหัตถเลขาและประกาศต่าง ๆ ในรัชกาลที่ 4 ปี จ.ศ.1223 – 1242 (ร.ศ. 80 – 99) มีเรื่อง ทรงปรารพทำนุบำรุงแผ่นดิน โดยพระราชดำริว่าการทำนุบำรุงแผ่นดินให้เรียบร้อยนั้น หนังสือราชการที่ส่งและประกาศออกไปยังที่ต่าง ๆ ควรจะได้ทราบอย่างทั่วถึงกัน จึงโปรดเกล้าฯ ให้ตีพิมพ์หนังสือ ราชกิจจานุเบกษา ตามความในประกาศ ดังนี้
พระบาทสมเด็จ ฯลฯ มกุฎ ฯลฯ สังกาษพระจอมเกล้าเจ้าแผ่นดินสยาม ทรงพระราชดำริหตริตรอง ในการจะทนุบำรุงแผ่นดินให้เรียบร้อยสำเร็จประโยชน์ถั้วถึงแลแน่นอนให้ดีขึ้นไปกว่าแต่ก่อน จึงทรงพระราชวิตกว่าราชการต่าง ๆ ซึ่งสั่งด้วยบาดหมายแต่กรมวังให้สัศดีแลหลวงฟันเดินบอก ตามหมู่ตามกรมต่าง ๆ นั้นก็ดี การที่บังคับให้นายอำเภอมีหมายประกาศแก่ราษฎรในกรุงก็ดี
การมีท้องตราไปให้เจ้าเมืองกรมการ หัวเมืองปากใต้ฝ่ายเหนือมีหมายให้กำนัน รั้วแขวงอำเภอประกาศแก่ราษฎรในแขวงนั้น ๆ ก็ดี พระราชบัญญัติใหม่ ๆ ตั้งขึ้นเพื่อจะห้ามการที่มิควร แลบังคับการที่ควรก็ดี การเตือนสติให้ระฦกแลถือพระราชกำหนดกฎหมายเก่าก็ดี ตั้งแต่เลิกอากรภาษีต่าง ๆ แลพิกัดภาษีนั้น ๆ แลลดหย่อนลงฤาเพิ่มขึ้นของพิกัดนั้น ๆ ก็ดี การกะเกณฑ์แลขอแรงแลบอกบุญก็ดี ว่าโดยสั้นโดยอเหตุใด ๆ การใดใด ที่ควรข้าราชการทั้งปวงฤาราษฎรทั้งปวงจะพึงรทั่งกันนั้น
แต่ก่อนเปนแต่บาดหมาย แลทำคำประกาศเขียนเส้นดินสอลงกระดาษส่งกันไปส่งกันมา แลให้ลอกต่อกันไปผิดผิดถูกถูก เพราะฉบับหนังสือนั้นน้อย ผู้ที่จะได้อ่านก็น้อยไม่รู้ทั่วถึงกันว่าการพระราชประสงค์ แลประสงค์ของผู้ใหญ่ในแผ่นดินจะบังคับมาแลตกลงประการใด ข้าราชการทั้งปวงแลราษฎรทั้งปวงก็ไม่ทราบทั่วกัน ได้ยินแต่ว่ามีหมายว่าเกณฑว่าประกาศว่าบังคับมาเมื่อการนั้นเกี่ยวข้อง กับตัวใครก็เปนแต่ถามกันต่อไป ผู้ที่จะได้อ่านต้นหมายนั้นน้อยตัว ถึงจะได้อ่านก็ไม่ใคร่เข้าใจ เพราะราษฎรเมืองไทย ผู้ที่รู้หนังสือนั้นน้อยกว่าผู้ที่ไม่รู้ คนไพร่ ๆ ในประเทศบ้านนอกหนังสือกอ่านไม่ออกดวงตราของขุนนางในตำแหน่งซึ่งจะบังคับราชการเรื่องไรจะเปนอย่างไรก็ไม่รู้จักดูสัก แต่ว่าเหนดวงตราที่ตีมาด้วยชาดแลเส้นแดง ๆ แล้ว ผู้ที่ถือมาว่ากะไรก็เชื่อหมด เพราะฉนั้นจึ่งมีคนโกง ๆ คด ๆ แต่งหนังสือเปนดังท้องตราบาดหมายอ้างรับสั่งวังหลวงแลวังน่าแลเจ้านายแลเสนาบดีที่เปนที่ราษฎรนับถือยาเยงแล้วก็ว่าการ บังคับไปต่าง ๆ ตามใจตัวปราถนา ด้วยการที่มิได้เปนธรรม แลทำให้ราษฎรเดือดร้อน แลเสียพระเกียรติยศ ของพระเจ้าแผ่นดินแลเจ้านายแลชื่อของขุนนาง
เพราะฉนั้น บัดนี้ทรงพระราชดำริหจะบำบัดโทษต่าง ๆ ดังว่ามาแล้วนั้นทุกประการ จึงโปรดให้ตั้งการตีพิมพ์หนังสือมีชื่อโดยภาษาสังสกฤษฎ ว่าหนังสือราชกิจจานุเบกษา แปลว่าหนังสือเปนที่เพ่งดูราชกิจ มีตรารูปพระมหามงกุฎแลฉตระหนาบข้างดวงใหญ่ ตีในเส้นดำเหมือนกับตัวหนังสือนำน่าแลมีตัวใหญ่ว่าราชกิจจานุเบกษา อยู่เบื้องบนบันทัดทุกฉบับเปนสำคัญแจกมาแก่คนตาง ๆ ที่ควรจะรู้ทุกเดือนทุกปักษ ตั้งแต่เดือนห้า ปีมะเมียเปนปีที่แปดในรัชกาลอันเปนปัจุบันนี้ไป
ในหนังสือราชกิจจานุเบกษานี้คือการใด ๆ ซึ่งได้มีท้องบัดใบตราแลบาดหมายแลประกาศด้วยหนังสือเขียนเส้นดินสอดำ ประทับตราตำแหน่งตามธรรมเนียมเก่านั้น ซึ่งได้มีแล้วไปในปักษ์นั้น ฤาปักษที่ล่วงแล้ว ในเดือนนั้นฤาเดือนที่ล่วงแล้ว ก็จะเก็บเอาความมาว่าแต่ย่อ ๆ ในสิ่งซึ่งเปนสำคัญ เพื่อจะให้เปนพยานแก่ท้องบัดใบตราแลบาดหมายคำประกาศซึ่งมีมาในปักษนั้นฤาปักษก่อนเดือนนั้นฤาเดือนก่อน เพื่อจะให้คนที่ได้อ่านหนังสือก่อนเชื่อแท้แน่ใจไมสงไสย ที่ไม่เข้าใจความจะได้เข้าใจ ผู้ใดไม่รู้ความในหนังสือท้องบัดใบตราบาดหมายก่อนก็จะได้รู้ถนัด
อนึ่งแลการในกราชการแผ่นดิน ประการใด ๆ เกิดขึ้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าแผ่นดินแลเสนาบดีพร้อมกันบังคับอย่างไร บางทีก็จะเล่าความนั้นใส่มาในหนังสือราชกิจจานุเบกษานี้บ้าง เพื่อจะให้รู้ทั่วกันมิให้เล่าฤาผิด ๆ ไปต่าง ๆ ขาด ๆ เกิน ๆ เปนเหตุให้เสียราชการ แลเสียพระเกรียติยศแผ่นดินได้ หนังสือราชกิจจานุเบกษานี้ เมื่อตกไปอยู่กับผู้ใดขอให้เก็บไว้ อย่าให้ฉิกทำลายล้างเสีย เมื่อได้ฉบับอื่นต่อไปก็ให้เย็บต่อต่อกันเปนสมุดเหมือนสมุดจีนตามลำดับ ตัวเลขที่หมายหนึ่งสองสามสี่ต่อต่อไปนั้นเถิด ให้มีหนังสือราชกิจจานุเบกษานี้เก็บไว้สำหรับจะได้ค้นดูข้อราชการต่างต่าง ทุกหมู่ทุกกรมข้าราชการแลทุกหัวเมืองโดยประกาศนี้เทอญ
ประกาศมาณวัน ๒ฯ ๕ (ขึ้น ๑) ค่ำปีมะเมียยังเปนนพศก เปนวันที่ ๒๔๙๖ ในราชกาลปัจจุบันนี้
ขุนปฏิภาณพิจิตร ขุนมหาสิทธิโวหาร กรมพระอาลักษณเปนผู้รับสั่ง
หมายเหตุ คงเขียนและสะกดคำตามแบบในเอกสารจดหมายเหตุ
ที่มา: ร.4.1ก/8 พระราชหัตถเลขาและประกาศต่าง ๆ ในรัชกาลที่ ๔ ปี จ.ศ. ๑๒๒๓ – ๑๒๔๒ (ร.ศ. ๘๐ – ๙๙)
อ้างอิงจากหอจดหมายเหตุแห่งชาติ