ผู้หญิงคนนี้ไม่ได้เกิดมาเพื่อเป็นนางงามอย่างเดียว แต่เธอเกิดมาเพื่อเป็นนักสู้
“ฟ้าใส” ปวีณสุดา ดรูอิ้น Miss Universe Thailand 2019
ผู้หญิงคนนี้ไม่ได้เกิดมาเพื่อเป็นนางงามอย่างเดียว แต่เธอเกิดมาเพื่อเป็นนักสู้
ประวัติ ฟ้าใส ปวีณสุดา
ฟ้าใส มีชื่อจริงว่า เจนนิเฟอร์ ปวีณสุดา แซ่ตั่น ดรูอิ้น
ชื่อภาษาอังกฤษคือ Jennifer Paweensuda Saetan-Drouin
เป็นที่รู้จักในชื่อ ปวีณสุดา ดรูอิ้น
ฟ้าใส ปวีณสุดา เกิดเมื่อวันที่12 ตุลาคม 2536
ฟ้าใส ปวีณสุดา เป็นลูกครึ่งชาวไทยเชื้อสายจีน-แคนาดา
การศึกษา ฟ้าใส ปวีณสุดา
จบการศึกษาปริญญาตรี จาก University Of Calgary สาขาวิทยาศาสตร์การเคลื่อนไหว (เกียรตินิยมอันดับ 1) จากประเทศแคนาดา
(Highest Latin Honour – Summa Cum Laude Distinction, Bachelor of Science in Kinesiology, University of Calgary, Canada)
ไม่ใช่แค่สวย แต่ยังเรียนเก่งและฉลาดมากๆ
ฟ้าใส ปวีณสุดา ศึกษาระดับปริญญาตรีที่ มหาวิทยาลัย University Of Calgary ประเทศแคนาดา เรียนในสาขา วิทยาศาสตร์การเคลื่อนไหว โดยสาขาวิทยาศาสตร์การเคลื่อนไหว นั้นภาษาอังกฤษเรียกว่า Kinesiology เป็นวิทยาศาสตร์การศึกษาเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวของมนุษย์และสัตว์ วิทยาศาสตร์การเคลื่อนไหวว่าด้วยเรื่องสรีรวิทยา การเสนอวิธีรักษาด้านชีวภาพ หลักการจิตวิทยาพลวัตและกลไกการเคลื่อนไหว การประยุกต์วิทยาศาสตร์การเคลื่อนไหวสำหรับสุขภาพของมนุษย์นั้น รวมไปถึงเรื่องชีวกลศาสตร์ และการศัลยกรรมกระดูก อย่างความแข็งแกร่งและการเรียนรู้โดยการฝึก จิตวิทยาการกีฬา วิถีการฟื้นฟู อย่างเช่น การบำบัดทางร่างกายและกิจกรรมบำบัด และการกีฬาและการออกกำลังกาย การศึกษาการเคลื่อนไหวในของมนุษย์และสัตว์ อย่างรวมถึงการวัดระบบติดตามการเคลื่อนไหว, สรีรวิทยาไฟฟ้าของกิจกรรมกล้ามเนื้อและสมอง วิถีความหลากหลายของการดูแลสรีรวิทยาปกติ และพฤติกรรมต่าง ๆ รวมถึงเทคนิคการวิจัยด้านความรู้ ซึ่งไม่ใช่การเรียนที่จะสามารถเรียนจบได้ง่ายๆ และที่สำคัญเธอก็สามารถคว้า เกียรตินิยมอันดับ 1 มาได้อีกด้วย
และนอกจากนั้นเธอยังเคยประกวดนางงามมาแล้วหลายเวที ไม่ว่าจะเป็น มิสไทยแลนด์ไชนิส คอสมอส 2013, นางสาวไทย 2013, มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2017 และได้รับตำแหน่งรองอันดับ 2 และในที่สุดเธอก็สามารถคว้าตำแหน่ง มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2019 มาได้
ไม่ว่าจะผิดหวังกี่ครั้ง จะพลาดโอกาสในการเป็นผู้ชนะสักกี่ครั้ง ฟ้าใสไม่เคยให้ความพ่ายแพ้มาสร้างความบั่นทอนให้กับตัวเธอเลย แต่เธอกลับเอามันมาสร้างเป็นพลังและแรงบันดาลใจที่จะพัฒนาตัวเองให้พร้อมที่สุด เพื่อรอคอยวันสำคัญที่จะเป็นของเธอ #และวันนั้นมันก็มาถึง
ฟ้าใสเริ่มประกวดนางงามในเวทีใหญ่มาตั้งแต่ปี 2013 แล้วก็ได้ตำแหน่งรองมาโดยตลอด ซึ่งหากคุณติดตามเด็กคนนี้มาตั้งแต่ต้นจะเห็นพัฒนาการที่ก้าวกระโดดอย่างชัดเจนในตัวของฟ้าใส ทั้งสเตปการเดิน รูปร่าง หรือแม้แต่วิธียิ้ม
ฟ้าใสไม่เคยหยุดพัฒนาตัวเองเลยเพราะคำว่า “ตำแหน่งนางรอง” มันทำให้เธอต้องเอาชนะคำๆ นี้ให้ได้ ความมุ่งมั่นของฟ้าใสทำให้ดิฉันอดคิดถึงนางงามนักสู้อีกท่านหนึ่งไม่ได้จริงๆค่ะ
นั่นก็คือ Pia Alonzo Wurtzbach , Miss Universe 2015 ชาวฟิลิปปินส์ เปียเองก็มีสายเลือดนักสู้ที่เต็มเปี่ยมไม่แพ้ฟ้าใส เธอผ่านความพ่ายแพ้มาหลายครั้งนับตั้งแต่การประกวดมิสฟิลิปปินส์ในปี 2013 เธอได้ตำแหน่งรองอันดับ 1 และอีกครั้งในปี 2014 ที่ไปไกลแค่เพียงรอบ 15 คนสุดท้ายเท่านั้น แต่เธอก็ไม่ละทิ้งความพยายามและความฝัน จนกลับมาประกวดอีกครั้งในปี 2015 ซึ่งทำให้เธอคว้ามงกุฏ และเป็นตัวแทนฟิลิปปินส์ไปประกวด Miss Universe และสามารถคว้ามงกุฏจักรวาลที่ 3 มาให้ชาติของเธอได้สำเร็จหลังจากรอคอยมายาวนานถึง 42 ปี
จากตำแหน่งรอง 1 ในปี 2013 แล้วมาได้แค่ Top 15 ในปี 2014 ถ้าเป็นเรา เรายังจะมีความกล้าที่จะกลับมาประกวดอีกครั้งในปี 2015 ไหม? แต่เปียเชื่อมั่นและศรัทธาในตัวเองเธอรู้ดีว่าเธอพยายามอย่างหนักมากในการดูแลรูปร่างหน้าตา การเดิน การตอบคำถาม และเธอมั่นใจว่าปี 2015 จะต้องเป็นปีของเธอ และเธอก็ทำได้จริงๆ นั่นเพราะเปียมีความกระหายมงมากเหมือนกับที่ฟ้าใสกระหายมงเหลือเกินในปีนี้
ชัยชนะของฟ้าใสในวันนี้ ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยจริงๆ ค่ะ เพราะผู้เข้าประกวดในปีนี้ล้วนมีศักยภาพที่สูงมากและสามารถส่งออกไปประกวดนางงามจักรวาลกันได้ทุกคน ดังนั้น ฟ้าใสจะต้องพยายามเพิ่มขึ้นอีกเป็นเท่าตัวเพื่อทำให้ทุกคนเห็นว่าเธอพร้อมที่สุดสำหรับการเป็นผู้ชนะอย่างแท้จริงในค่ำคืนนี้ และฟ้าใสก็ได้ลบบาดแผลในใจกับคำว่า #ตำแหน่งนางรองได้ อย่างราบคาบ และงดงามที่สุด
มีคนเคยถามว่าทำไมฟ้าใสถึงไม่เลือกไปประกวด Miss Universe Canada เธอตอบอย่างชัดเจนว่า
“หนูอยากสวมสายสะพายที่มีคำว่าไทยแลนด์ไปประกวดนางงามจักรวาลค่ะ”
และหากฟ้าใสสามารถนำมงกุฏจักรวาลที่ 3 กลับมาให้คนไทยและประเทศไทยได้ เธอจะถูกบันทึกลงในประวัติศาตร์ของนางงามนักสู้ เฉกเช่นเดียวกับ Pia Alonzo Wurtzbach เลยทีเดียว
CR: เพจหนูน้อยบนยอดเขาอันหนาวเหน็บ