โครงการนำร่องเพื่อความปลอดภัยสำหรับเด็ก เตรียมเปิดตัวร่วมกับโรงเรียนเทศบาล สุราษฎร์ธานี
กรุงเทพฯ/ 3 กรกฎาคม 2562 – หัวเว่ย ผู้จัดหาโซลูชั่นเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารชั้นนำระดับโลก ประกาศโครงการความร่วมมือกับเอชไอพี โกลบอล และ แอ็กซิส (ประเทศไทย) เปิดตัวโซลูชั่นดูแลความปลอดภัยแก่เด็กนักเรียน ด้วยระบบ NB-IoT Tracker นวัตกรรมโซลูชั่นที่เชื่อมโยงระบบ GPS Tracking บนเครือข่าย NB-IoT เพื่อติดตามและดูแลความปลอดภัยให้แก่เด็กนักเรียน โรงเรียนเทศบาล 1, 3, 4 และ 5 ในจังหวัดสุราษฎร์ธานี
NB-IoT เป็นเทคโนโลยีกึ่ง 5G ที่ครอบคลุมทั่วทั้งประเทศ อุปกรณ์ Tracker สามารถติดตามตำแหน่งที่อยู่ของเด็กนักเรียนในบริเวณโรงเรียน หรือระหว่างบ้านและโรงเรียน ณ เวลาหนึ่ง ๆ ได้อย่างแม่นยำ และยังสามารถใช้เป็นเครื่องบันทึกการเข้าเรียนอัตโนมัติ ช่วยให้ครูสามารถระบุตำแหน่งของเด็ก ที่อยู่ในโรงเรียน แต่ยังไม่เข้าห้องเรียน นอกจากนี้ ระบบยังสามารถจะบอกได้ว่ารถโรงเรียนได้รับหรือส่งเด็กนักเรียนไปถึงจุดหมายได้เรียบร้อยหรือไม่ ด้วยการเปรียบเทียบข้อมูลตำแหน่งที่อยู่แบบเรียลไทม์ของเด็กนักเรียนและรถโรงเรียน ในกรณีที่เกิดเหตุการณ์ผิดปกติ หรือมีความคลาดเคลื่อนของตำแหน่งและเวลาที่ตั้งไว้ พ่อแม่ ผู้ปกครอง คนขับรถโรงเรียนหรือรถตู้ และเจ้าหน้าที่ของโรงเรียนจะได้รับสัญญาณเตือนในทันที
“ในฐานะบริษัทข้ามชาติที่ดำเนินตามเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนของสหประชาชาติ (SDGs) หัวเว่ยต้องการตอบแทนคืนสู่สังคมด้วยการจัดโครงการเพื่อสังคมที่เป็นประโยชน์ เราจึงได้ร่วมมือกับเอชไอพี โกลบอล และแอ็กซิส ในการพัฒนาและโปรโมทโซลูชั่น NB-IoT ชั้นนำ เพื่อรับมือกับปัญหาด้านความปลอดภัย สุขภาพ และความเป็นอยู่ของเด็กนักเรียน” มร. โทมัส โจว เจิ้น ผู้อำนวยการฝ่ายประชาสัมพันธ์ ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของหัวเว่ย กล่าว “นี่เป็นเรื่องสำคัญสำหรับเราที่จะนำโซลูชั่นใหม่ ๆ มาสร้างชีวิตที่ดีกว่าให้กับเด็กที่ขาดแคลนในสังคม ผมขอขอบคุณพันธมิตรของเราทั้งสองรายที่ได้ร่วมกันทำงานในโครงการนี้ และหวังว่าจะได้มีการแนะนำโครงการนี้ในระดับประเทศต่อไปในอนาคตอันใกล้”
จากสถิติในระหว่างปี พ.ศ. 2555 – 2559 มีเหตุการณ์ที่เด็กเล็กถูกลืมทิ้งไว้ในรถยนต์หรือรถโรงเรียนถึง14 ครั้ง ซึ่งบางครั้งอาจนำมาซึ่งเหตุสลดใจ โซลูชั่นที่เราพัฒนาขึ้นมาร่วมกันจะช่วยให้มั่นใจได้ว่าเหตุการณ์เช่นนี้จะไม่เกิดขึ้นอีก
นางพิพิศน์ วัฒนาวีรชัย รองนายกเทศมนตรีนครสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า “เราภูมิใจเป็นอย่างมากที่ได้มีส่วนร่วมในโครงการนำร่องนี้ที่สามารถช่วยชีวิตคน แพลตฟอร์มการติดตามเพื่อสร้างความปลอดภัยที่ใช้เทคโนโลยีของหัวเว่ยเป็นการส่งเสริมให้จังหวัดของเราเป็นส่วนหนึ่งของนโยบายประเทศไทย 4.0 และโครงการสมาร์ทซิตี้”
โครงการนำร่องนี้จะมีเด็กนักเรียนระดับชั้นประถม 120 คน ซึ่งปัจจุบันเป็นเด็กของโรงเรียนเทศบาล 1,3, 4 และ 5 ในจังหวัดสุราษฎร์ธานี เข้าร่วมโครงการ โดยเด็กนักเรียนแต่ละคนจะได้มีชิป ที่ทำหน้าที่ส่งพิกัดที่อยู่ไปยังเครื่อง GPS Tracker ที่พัฒนาขึ้นโดยแอ็กซิส และอุปกรณ์ดีไวซ์ที่พัฒนาขึ้นโดยเอชไอพี โกลบอล ระบบนี้จะเชื่อมต่อผ่านแพลตฟอร์ม NB-IoT ของหัวเว่ย เพื่อให้สามารถติดตามตัวได้ตลอดเวลา ระบบ Axis iCare สามารถช่วยชีวิต ลดความเสี่ยงจากอันตราย และความเครียดที่เกิดขึ้นกับผู้ปกครองและเจ้าหน้าที่ของโรงเรียน ที่ต้องดูแลเรื่องความปลอดภัยของเด็กนักเรียน