รูปหลังธนบัตรมีใครพระองค์ใดบ้างและมีรูปสำคัญอะไรบ้าง มาจะเล่าให้ฟัง
ธนบัตรที่ใช้ในปัจจุบันเป็นรุ่นที่ 16 และ 17 นะคะ โดยรุ่นที่ออกใหม่ล่าสุดเป็นรุ่นที่ 17 ซึ่งเพิ่งออกใช้เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2561 (วันเฉลิมพระชนมพรรษาปีที่แล้วนี่เองค่ะ)
ด้านหนัาธนบัตรเป็นรูปพระสาทิสลักษณ์ของรัชกาลที่ 10 ฉลองพระองค์เครื่องแบบทหารอากาศ และตราประปรมาภิไธยประจำพระองค์
ด้านหลังเป็นพระสาทิสลักษณ์กษัตริย์อื่น ๆ ของราชวงศ์จักรี และตราประปรมาภิไธยประจำพระองค์ เพื่อเทิดพระเกียรติพระมหากษัตริย์ทุกพระองค์แห่งราชวงศ์จักรี
ธนบัตร 20 บาท
รูปด้านหลัง รัชกาลที่ 1 และ 2
รูปซ้าย วัดพระแก้ว
ในสมัยรัชกาลที่ 1 อัญเชิญพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร(พระแก้วมรกต) จากพระราชวังเดิมกรุงธนบุรี มาประดิษฐานในพระอุโบสถวัดพระแก้ว และทรงมีพระราชดำริให้สร้างวัดพระแก้วเพื่อเป็นพระบรมมหาราชวัง
รูปขวา ภาพจากละครเรื่องอิเหนา
ซึ่งเป็นวรรณกรรมในรัชกาลที่ 2 พระองค์ทรงพระปรีชาสามารถในศิลปกรรมด้านต่างๆ หลายสาขา โดยเรื่องอิเหนานี้ เรื่องเดิมที่แต่งในสมัยรัชกาลที่ 1 มีความยาวมาก พระองค์ทรงพระราชนิพนธ์ใหม่ตั้งแต่ต้นจนจบ เป็นเรื่องยาวที่สุดของพระองค์ ทรงได้รับการเทิดพระเกียรติจากองค์การการศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (UNESCO) ในฐานะบุคคลสำคัญของโลก
ธนบัตร 50 บาท
รูปด้านหลัง รัชกาลที่ 3 และ 4
รูปซ้าย เรือสำเภาสำหรับค้าขายกับจีน
ในสมัยรัชกาลที่ 3 ด้านเศรษฐกิจเด่นด้านการค้าขายกับจีนมากที่สุด ในรูปแบบบรรณาธิการ หรือ จิ้มก้อง ทุก 3 ปี ไทยจะส่งสิ่งของซึ่งส่วนใหญ่เป็นของป่าที่มีค่าไปบรรณาการจักรพรรดิจีน ซึ่งจีนจะตอบแทนกลับมามากกว่าที่ได้รับ จนพระองค์ได้ชื่อว่า เจ้าสัว ส่งผลให้พระคลังสินค้ามีรายได้เพิ่มมากขึ้น รวมถึงการเปิดค้าขายกับมหาอำนาจจะวันตกจนมีการลงนามในสนธิสัญญาระหว่างกันคือ สนธิสัญญาเบอร์นี และต่อมาได้มีการค้าขายกับอเมริกาตั้งแต่นั้น
รูปขวา หอชัชวาลเวียงชัย หรือหอตะเกียง จ.เพชรบุรี
รัชกาลที่ 4 ทรงเป็นนักดราราศาสตร์ และพระบิดาแห่งวิทยาศาสตร์ไทย วันที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2411 เกิดสุริยุปราคาเต็มดวงขึ้น ซึ่งพระองค์ทรงคำนวณพยากรณ์ไว้ล่วงหน้า 2 ปี ส่วนหอชัชวาลเวียงชัยนี้ ตั้งบนยอดเขาเขาสมณะ มีรูปทรงเป็นโดม มีกระจกโดยรอบ เป็นที่เสด็จทอดพระเนตรดวงดาวต่าง ๆ ในยามค่ำคืน
ธนบัตร 100 บาท
รูปด้านหลัง รัชกาลที่ 5 และ 6
รูปซ้าย การเสด็จประพาสยุโรป
รัชกาลที่ 5 เสด็จประพาสยุโรป 2 ครั้ง (ใน พ.ศ. 2440 และ พ.ศ. 2450) เพื่อการเจรจาทางการเมืองกับมหาอำนาจตะวันตก เพื่อแก้ปัญหาความขัดแย้งระหว่างกัน เพื่อศึกษาความเจริญก้าวหน้าด้านต่าง ๆ ของตะวันตก เพื่อให้ชาวต่างชาติได้รู้จักไทยดีขึ้นและเพื่อแสวงหามิตรประเทศ
รูปขวา ทรงฝึกกองเสือป่า
ใน พ.ศ. 2453 ทรงตั้งกองเสือป่าที่มีลักษณะคล้ายทหารรักษาดินแดนของอังกฤษ มีหน้าที่สนับสนุนการทำงานของทหารในยามศึกสงคราม ซึ่งจำเป็นต้องมีอาสาสมัครคอยป้องกันประเทศในขณะที่ทหารออกไปรบ ซึ่งกองเสือป่าขึ้นตรงกับพระองค์
ธนบัตร 500 บาท
รูปด้านหลัง รัชกาลที่ 7 และ 8
รูปซ้าย รัชกาลที่ 7 ทรงลงพระปรมาภิไธยในรัฐธรรมนูญถาวรฉบับแรกของสยาม
ในเหตุการณ์ การปฏิวัติสยาม พ.ศ. 2475 “คณะราษฎร" นำโดยพระยาพหลพลพยุหเสนา ข้าราชการและนักเรียนไทย 7 คนในฝรั่งเศสและยุโรปที่มีความคิดหัวสมัยใหม่ภายใต้การนำของนายปรีดี พนมยงค์ ประกาศยึดอำนาจการปกครองการปกครองจากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์มาเป็นระบอบประชาธิปไตย เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2475 ตั้งแต่เวลาตี 5 เป็นการตัดอำนาจของกษัตริย์ แต่ต่อมาในวันที่ 10 ธันวาคม 2475 มีการคืนอำนาจให้กษัตริย์อีกครั้งหนึ่งภายใต้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรสยาม
รูปขวา รัชกาลที่ 8 เสด็จพระราชดำเนินเยี่ยมเยียนสำเพ็ง พร้อมด้วยสมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอรัชกาลที่ 9
เมื่อวันที่ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2489 ทรงเยี่ยมชาวไทยเชื้อสายจีนเป็นครั้งแรก ณ สำเพ็ง พระนคร ซึ่งเป็นช่วงที่เกิดความขัดแย้งกันระหว่างชาวไทยและชาวไทยเชื้อสายจีนจนเกือบเกิดสงครามกลางเมืองเพือประสานรอยร้าว ระยะทางพระราชดำเนินด้วยพระบาท 3 กิโลเมตร
ธนบัตร 1000 บาท
รูปด้านหลัง รัชกาลที่ 9 และ 10
รูปซ้าย ภาพยายตุ้มรับเสด็จในหลวง ร.9 ที่สามแยกชยางกรู-เรณูนคร นครพนม
เหตุการณ์ครั้งนั้นเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2498 รัชกาลที่ 9 ทรงเสด็จเยี่ยมพสกนิกรภาคตะวันออกเฉียงเหนือครั้งแรก ซึ่งภาพนี้คุณอาณัติ บุนนาค หัวหน้าส่วนช่างภาพประจำพระองค์ ได้บันทึกภาพในวินาทีสำคัญนั้นไว้ เป็นรูปที่พระองค์ทรงก้มโน้มพระองค์ ใกล้ชิดกับคุณยายที่เตรียมถวายดอกบัว 3 ดอก ซึ่งปัจจุบันทราบว่าคุณยายตุ้มเสียอายุ เมื่อพ.ศ. 2501 ด้วยวัย 105 ปี
รูปขวา รัชกาลที่ 10 พระราชทานนโยบายในการจัดการระวังป้องกัน และปกป้องชีวิตชาวกัมพูชาที่อพยพเข้ามาในไทย
ปีพ.ศ.2522 เกิดสงครามกลางเมืองในประเทศกัมพูชา ทำให้มีผู้อพยพลี้ภัยเข้ามาทางชายแดนของประเทศไทยผ่านทางจังหวัดปราจีนบุรี จันทบุรี และตราด ซึ่งตอนนั้นทางจังหวัดตราดขาดแคลนทุนทรัพย์และบุคลากร ระหว่างนั้นยังมีการยิงข้ามเขตแดนมายังประเทศไทยทั้งที่ตั้งใจและยิงพลาดด้วย ทำให้มีชาวกัมพูชาได้รับบาดเจ็บหนัก และล้มตายเป็นจำนวนมาก รัชกาลที่ 9 และพระราชินีจึงจึงรับสั่งแก่ในหลวงรัชกาลที่ 10 จัดระเบียบค่ายต่างๆ และพัฒนาภูมิประเทศบริเวณนั้นให้มีความปลอดภัย และเหมาะกับการตั้งรับการถูกโจมตีมากขึ้น
ขอบคุณรูปจาก ธนาคารแห่งประเทศไทย