หลงรักสาวนวดกระปู๋ เรื่องเล่าชีวิตพ่อบ้านใจกล้า เปย์หลายแสนแต่ยังโดนบล็อกโดนอันเฟรนด์
เรื่องมีอยูว่า ผมมีครอบครัวแล้ว มีลูกแล้ว ภรรยาก็สวย ครอบครัวก็มีความสุขดี แต่ก็แอบไปนวดแบบคนขี้เมื่อยติดใจนวดกระปู่ เพราะสบายดี เด็กน่ารัก นวดไปทั่วประมาณปีกว่าก็เริ่มเบื่อๆ จะเลิกเที่ยวแล้ว ก็ไปเจอกับน้อง น. น้อง น. ไม่ใช่คนสวย เป็นเด็ก ตจว. อายุ 26 กว่าๆ คุยสนุก ไม่สวยเว่อร์ แต่ก็ชวนให้คิดถึงตลอด จนต้องหาเวลาแวะเวียนไปหาบ่อยๆ จาก เดือนละ ครั้ง เป็น 2 ครั้ง 3 คร้ัง จนพอเริ่มจะคุยเรื่องทั่วๆ ไป จากนวดอย่างเดียวก็เริ่มมีอะไรกันในช่วงหลังๆ ประมาณครั้งที่สิบกว่าๆ แต่ก็ไม่ใช่มีอะไรกันทุกครั้งนะ เดือนนึงอาจจะ 2 หรือ 3 ครั้งแล้วแต่ความพร้อมของน้องทุกครั้งที่มีอะไรกันผมก็จ่ายพิเศษให้ต่างหาก 2,000 บาท
พอประมาณ พฤษภา 57 ก็ไปนวดอีกคุยไปคุยมา คุยเรื่องนาฬิกาข้อมือซึ่งที่น้องเค้าใช้ก็ราคาไม่แพงไม่เกิน 5,000 ก็เลยบอกว่า เดี๋ยวซื้อให้ ไปเจอกันดิ วันอาทิตย์นะลูกผมเรียนพิเศษที่ห้างฯ ผมว่าง มาเจอกันตอนเที่ยงนะ ขอเบอร์โทรหน่อยสิ น.ก็ไม่ได้ให้เบอร์โทร แต่นัดหมายเวลาและสถานที่กันไว้เรียบร้อย หลังจากเจอกันผมก็กล้าๆ กลัวๆ กลัวคนอื่นมาเห็น ก็เลยเดินดูไม่นานก็รีบให้ตังส์น้องเค้า บอกเค้าว่า น้องดูเองแล้วกันนะครับ เลือกแบบที่ชอบเลย ซึ่งวันนั้นก็จบไปไม่มีอะไร
ช่วงซัก มิถุนา 57 น้องเค้ารับงานพิเศษเป็นพีซีขายแลคตาซิค ทุกศุกร์เสาร์อาทิตย์ต้นและปลายเดือน เราก็แอบไปวนเวียนหาน้องเค้าที่บูธ ส่วนวันทั่วๆ ไปน้องเค้าก็มานวดตามปกติ ผมก็ไปใช้บริการสม่ำเสมอ ก็ไปนวดแล้วคุยกัน น้องเค้าก็บอกว่าไปทำงานแล้วหนาวเพราะไม่มีเสื้อคลุม ผมก็เลยนัดไปซื้อเสื้อคลุมของ CC OO (เห็นร้านมาหลายปีแล้วเพิ่งรู้ว่ามันยี่ห้อนี้) ก็นัดเจอกันที่ห้างฯ อีก แต่คราวนี้ได้เฟสน้องเค้ามา แต่ก็ยังไม่ได้เบอร์โทรอยู่ดี ก็คุยข้อความกันไปๆ มาๆ
ช่วง กรกฎา 57 ก็ไปนวดอีก น้องเค้าก็บอกว่าขอยืมตังหน่อยได้ป่าว ผมก็บอกว่า ได้แต่ไม่เยอะนะ แล้วก็ไม่ได้คุยเรื่องจำนวนเงินกัน จนถึงวันที่น้องเค้าไปทำที่ห้างฯ ผมก็แวะไปหาแล้วเอาเงินไปให้ 5,000 บอกว่าให้ยืมนะ น้องเค้าก็ขอบคุณผม แล้วก็ไม่ได้ว่าอะไร ก็ยังคุยๆ ผ่านเฟสกันอยู่ แต่ก็เริ่มเข้าใจว่านิสัยเจ้าหล่อนขี้โมโหและค่อนข้างมีความลับสูง ผมบอกว่าเงิน 5,000 นั่นไมต้องคืนนะ ให้เลย เธอก็โมโห แล้วบอกว่าจะหาเงินคืนให้ ไม่ต้องกลัว
ช่วง สิงหา 57 โทรศัพท์น้องเค้าเสีย ปุ่มกดมันไม่ติดแล้วลำโพงกระดิ่งเสีย ผมก็เลยอาสาเอาไปซ่อมให้ แล้วก็ตกลงกันว่าจะไม่แอบดูข้อมูลในมือถือ ผมก็โอเค แต่ผมก็แอบเปิดดูเหมือนกัน ก็เห็นหล่อนคุยกับคนอื่นอยู่ 2 คน แล้วผมก็เลยถามน้องเค้าไปตรงๆ น้องเค้าก็โมโห บอกให้ผมเอาโทรศัพท์ไปเลยไม่ต้องเอามาคืนให้ แล้วก็โกรธงอนกันยกใหญ่คุยไปก็ไม่ตอบ ผมก็เลยนัดเจอน้องที่บูธตอนทำงานพิเศษ แล้วก็เอารูปที่นำออกจากไอโฟนที่แอบทำเป็นอัลบั้มไว้ให้ส่งให้เธอไป ซึ่ง น. ก็ดูหายโกรธแล้ว และ ผมก็ซื้อน้ำหอมยิปแซงฝากเธอเป็นการไถ่โทษ และเราก็เริ่มคุยกันดีๆ
ช่วงกันยา เธอครบกำหนดทำงานห้างฯ ก็เลยว่างเธอจึงนัดเพื่อนๆ เธอที่ไม่ได้ทำงานนวด ไปเที่ยวซานโตรินี่ เธอถามผมว่าให้ไปป่าว ผมก็เลยบอกว่าไปดิสนุกๆ กับเพื่อน เธอก็บอกว่าดีแล้วกลัวผมงี่เง่า ขี้เกียจมานั่งอารมณ์เสีย แล้ววันก่อนเดินทางผมก็แวะไปหาแล้วให้เงินค่าท่องเที่ยวไป 4,000 เราก็คุยกันดีๆ จนถึงคืนก่อนเธอกลับ เธอบอกว่าแค่นี้นะจะนอนแล้ว ผมก็ราตรีสวัสดิ์กับเธอ แต่ก็ยังเห็นเธอออนอยู่อีกซัก 5 นาทีได้มั๊ง ก็เลยส่งไปหาว่า นอนได้แล้วคุยกับใครอยู่ เธอก็ไม่ตอบและหายไปทั้งวันจนถึงวันจันทร์ถึงได้คุยกัน เธอโมโหที่ผมไม่เชื่อว่าเธอนอนแล้ว คุยไปคุยมาก็เริ่มโอเคหายโกรธ แต่ยังมีตุ่ยๆ อยู่ ผมคุยกับเธอเรื่องโทรศัพท์พ่อเธอพัง ผมบอกว่ามีเครื่องเหลือเดี๋ยวส่งไปให้ ก็เลยได้ที่อยู่บ้านที่ ตจว. ของเธอมา แต่ผมไปซื้อเครื่องใหม่แบบพื้นฐานสุดๆ เพราะคนแก่ใช้ไม่เป็น ราคาสองพันกว่าๆ ตอนนั้นเธอน่าจะเริ่มรู้สึุกดีๆ กับผม เพราะผมเหมือนทำเพื่อเธอหลายๆ อย่าง แต่ติดที่ผมมีครอบครัวแล้ว เราเลยตกลงกันว่าก็คบกันแบบนี้ ไม่เดินหน้า ไม่ถอยหลัง แต่น้องเค้าก็บอกว่าไปนวดกับคนอื่นบ้างก็ได้นะ หนูขี้เกียจนวดให้พี่ พี่เสร็จยาก หนูเมื่อย
ช่วงตุลา ไปนวดก็ถามไถ่สารทุกข์สุขดิบ คุยไปคุยมาก็รู้ว่ายังไม่ได้ซื้อนาฬิกา ก็เลยแอบซื้อให้เห็นว่าชอบ Playboy ก็เลยซื้อนาฬิกา Playboy หน้าปัดใหญ่สีชมพูให้ วินาทีแรกที่เห็นนาฬิกา เธอก็บ่นว่าซื้อมาทำไม ไม่ชอบนาฬิกาใหญ่ เพราะเป็นคนข้อมือเล็ก เธอก็ส่งรูปนาฬิกา Playboy ที่อยากได้มาให้ ผมก็หาโอกาสซื้อให้เธอจนได้ เธอชอบมาก แต่ก็ยังมีงอนบ้างตลอดไม่มากก็น้อย ส่วนใหญ่เธอจะงอน หาว่าผมไปจับผิดเธอ พูดอะไรไม่เข้าหูนิดก็ออกอาการแล้ว ผมก็ช่วยเธอออกค่าประกันรถประมาณ หมื่นต้นๆ พอจ่ายให้ก่อนเธอก็มาบ่นผมว่าชอบทำอะไรไม่ถามเธอ ตอนปลายเดือนเธอขอเงินจะไปเปลี่ยนทองของเธอจาก 50 สต. เป็น 1 บาท ผมก็ให้เงินช่วยเธอไปประมาณ 14,000 เธอบอกว่าขอครั้งเดียวและจะไม่ขออะไรอีกแล้ว
ช่วงพฤศจิกา เธอก็งอนผมด้วยเรื่องเดิมๆ คือชอบหาว่าผมไม่เชื่อเธอ อะไรทำนองเนีย แต่ทุกๆ เดือนผมก็ช่วยเหลือการเงินเธอบ้างนิดๆ หน่อยๆ เดือนนึงก็ หมื่นกว่าๆ แล้วแต่เหตุการณ์ เช่นพาเธอไปซื้อของพวกกระเป๋า เสื้อผ้า ชุดชั้นใน (ชุดชั้นในเธอเลือกเองผมจ่าย) แล้วผมก็ชวนเธอไปแพลทตินัม เธอก็บอกว่าพาเพื่อนๆ ไปด้วยได้มั๊ย ผมก็ไม่ปฏิเสธ อะไรที่เธอเอ่ยปากมาผมไม่เคยปฏิเสธ ยกเว้นเรื่องทำศัลยกรรม หลังๆ มานี่เวลาไปนวดถ้ามีอะไรกันเธอก็บอกผมว่าพี่ไม่ต้องจ่ายเพิ่มแล้วนะ แต่ผมก็ให้เธอทุกครั้ง เพราะผมถือว่า เงินที่ให้เพราะห่วง กับเงินที่ให้เพราะหื่น มันคนละส่วนกัน
ช่วงพฤศจิกา - ธันวา เป็นช่วงที่ลูกค้านวดมีน้อย ทุกที่ก็ซบเซาผมก็คอยช่วยเธอบ้างเป็นระยะ เดือนนึงก็ประมาณ 2 หมื่นกว่าๆ เธอจะไปเที่ยวกับเพื่อนที่ทำงานนวด เธอถามผม ผมก็บ่นๆ ว่าแหมไปตั้งนาน ผมคิดถึงแย่ เธอก็เลยตัดบทว่าไม่ไปแล้ว แต่มีอาการงอนๆ ผมก็เลยยอมให้เธอไป เราก็มีคุยกันถึงเรื่องอนาคตว่าอยากให้เธอหาอาชีพอื่น แต่ยังไม่ตกผลึกว่าจะทำอะไร เพราะเงินทุน เงินสะสมก็มีน้อย ผมเองก็พอมีแต่ติดตรงที่ครอบครัวจะรู้ว่าเงินหายไป แต่ผมก็ยังคงให้เงินเธอใช้ โดยที่เธอไม่เคยเอ่ยปากขอ
ธันวาคม มีของเซลหลายยี่ห้อ เราเดินซื้อของกัน ซื้อเสื้อผ้าฝากพ่อแม่เธอ ช่วงปีใหม่เธอกลับบ้านผมก็ให้เงินเธอไป 3 หมืน ไว้ให้ไปทำบ้านให้เรียบร้อยติดตั้งปั๊มน้ำติดมุ้งลวด เราคุยกันตลอด ผมก็หาเรื่องแอบถามเลขบัตรประชาชนเธอประมาณว่าบริษัทผมจะเอาไปทำเรื่องภาษีเธอก็หลงกลส่งมาให้ผม ผมจึงโอนเงินให้เธอผ่าน 7-11 แล้วให้เธอไปรับ 5,000 x 2 = 10,000 เธอก็บ่นผมอีก แล้วก็ขอบคุณที่ช่วยเรื่องค่าใช้จ่าย แล้วหลายวันต่อมาเธอก็ส่งรูปมาให้ดูว่าเธอไปทำธุระที่ธนาคารนะ และส่งบัตรคิวซึ่งมันติดหน้าบัญชีอยู่หลังบัตรคิว ซึ่งเธอไม่รู้ตัว ผมจึงได้เลขที่บัญชีเธอมา ก่อนไปเที่ยวปีใหม่กับครอบครัว ผมก็โอนเงินไปให้เธอไว้เที่ยวปีใหม่อีก 10,000 บาท
ช่วงกลับจากไปเที่ยว ผมซื้อแป้งของ Channel มาฝากเธอ โดยนัดเจอกันที่ข้างนอก และเราก็มีอะไรกัน แต่ดูเธอไม่ค่อยพอใจที่เจอหน้ากันผมก็หื่นทันที เลยเหมือนทำให้มันเสร็จๆ จบๆ ไป เธอลองแป้งแล้วก็บ่นว่าซื้อมาดำไป ผิดเบอร์ ผมรู้สึกว่าเธอไม่ได้สนใจอะไรผมเลย ผมบอกเธอว่าขอโทษที่ผมหื่นอย่างเดียวเลย และก็ขอกลับก่อนโดยเธอทิ้งไว้ที่ห้องที่เปิดไว้ (ไม่ใช่ม่านรูดนะ) และทิ้งเงินไว้ให้เธอเคลียค่าใช้จ่าย 5,000 แล้วผมก็ไปเดินห้างฯ และก็แวะซื้อแป้งตลับใหม่ให้เธอ และส่งรูปไปให้เธอดู เธอก็ตอบกลับมาว่า ต่อไปนี้ไม่ต้องมาทำอะไรเพื่อ น. อีก ไม่อยากได้ ผมก็ง้อๆ เธอไป แต่อะไรๆ มันก็ไม่เหมือนเดิม เราเจอกันน้อยลงเพราะเธอย้ายไปทำร้านอื่น แต่ก็ยังไม่ได้ลูกค้าอยู่ดี ผมยังคงส่งเงินให้เธอใช้เป็นระยะโดยโอนผ่านบัญชี เธอก็บ่นตลอดว่าไม่อยากได้ เพราะไม่ได้ทำอะไรให้พี่เป็นการตอบแทนเลย ผู้ชายยอมทำแบบนี้เพราะหวังเรื่องเซ็กส์เท่านั้นแหล่ะ ผมก็บอกว่าที่ผ่านมาเธออาจเจอแต่ผู้ชายแบบนั้น แต่กับผมไม่ใช่ เรามาดูกันยาวๆ แล้วกัน
เมื่อปลายเดือนที่แล้วเป็นวันเกิดเธอ ผมซื้อกำไลข้อมือทองคำให้ 2 บาท (วงละบาท 2 วง) ซึ่งวันที่นัดให้ของขวัญกันเรานัดทานข้าวกันที่เอ็มเค แต่เป็นวันที่ร้านสปาทั่ว กทม. เกิดเหตุการณ์ถูกตำรวจมาตรวจบ่อยจึงพากันปิดไปหลายร้าน เธอเองก็ตกงานด้วย เลยต้องหาที่ทำงานใหม่ ตอนที่ผมให้ของขวัญเธอ เธอดูเฉยๆ ไม่ยินดียินร้าย แต่เราก็ได้คุยกันผ่านเฟส เธอชอบมาก เธอบอกว่าในชีวิตไม่เคยมีใครดีกับเธอขนาดนี้มาก่อน
ช่วงต้นกุมภา 58 เธอก็ยังคุยดีๆ กับผมอยู่ ผมโอนเงินให้เธอ 10,000 เพื่อให้ไปฉลองวันเกิดกับเพื่อนๆ เธอก็ยังบอกว่าไม่ต้องโอนแล้ว น. ยังไม่ได้ทำอะไรให้พี่เลย พอคืนถัดมา เธอราตรีสวัสดิ์แบบรีบมาก แล้วหายไปเลยผมก็บ่นๆ ไปว่าจะรีบไปไหน พอวันต่อมาเรานัดเจอกันอีกแต่พอดีภรรยาผมโทรมานัดเจอกัน ผมจึงบอก น. ว่าคงไปไม่ได้ แต่ขอเจอกันก่อนแป๊ปนึง จะฝากขนมไปให้กิน แต่ดูเหมือนเธอโมโหอะไรค้างๆ อยู่ ผมนัดเธอเจอหน้าธนาคาร แต่พอดีเราจอดรถใกล้กัน ก็เลยเจอกันก่อน เธอถามว่า พี่อยากให้เจอกันหน้าธนาคารใช่มั๊ย แล้วเธอก็เดินตรงไปที่ธนาคาร จากนั้นเธอก็บอกว่าทำตามที่บอกแล้ว เอาอะไรอีกมั๊ย ถ้าไม่มีก็กลับแล้วนะ ผมชวนเธอไปโน่นไปนั่นไปนี่ เธอก็ไม่ไป แล้วเธอก็กลับ
พอตกลางคืนผมก็รู้สึกเหมือนว่าทุกอย่างที่เธอทำเพียงเพราะต้องการตอบแทน เหมือนบังคับกัน ผมจึงบอกเธอไปว่า ถ้ากลางคืนไม่จำเป็นต้องราตรีสวัสดิ์กันทุกคืนก็ได้นะ ถ้าบังคับกัน ไม่ชอบบังคับใคร เธอก็ตอบกลับมาว่าไม่ได้บังคับ ไม่ได้ฝืนใจทำ ก็ถ้าไม่อยากคุยก็ไม่ต้องคุยกันเลยตลอดก็ได้นะ
แล้ววันจันทร์ที่ 3 กุมภา ผมก็กล่าวทักทายอรุณสวัสดิ์เธอตามปกติ แต่เธออ่านแล้วก็ไม่ตอบอะไร ผมก็ส่งไปคุยแบบมีอารมณ์น้อยใจนิดๆ เธอก็อ่าน แต่ไม่ตอบ พอช่วงบ่ายก็รู้ว่าเธออันเฟรนด์ผมไปแล้ว ผมก็ส่งข้อความไปบอกเธอว่าเอาอีกแล้วนะ (เธอเคยอันเฟรนด์ผมทีนึงแล้ว) เธอก็ตอบกลับมาว่า พี่ไปคิดเองแล้วกันว่าเพราะอะไร ผมก็พยายามถามไปว่าเพราะอะไร เธอก็กดแต่ยกนิ้วให้ตลอด แล้วเธอก็ถามว่า อยากให้บล็อคเลยใช่มั๊ย ผมก็พยายามถามเหตุผลต่อไป จนเธอก็บอกว่า ปัญหาเดิมๆ นิสัยพี่เป็นผู้หญิง ผมก็ถามต่อ เธอก็บล็อคผมไปเลย
ผมคว้าง โหวงเหวง ทำอะไรไม่ถูก ทั้งๆ ที่เตรียมใจมาตั้งนานแล้ว วันอังคาร ผมโอนเงินไปให้เธออีก 10,000 เพราะกลัวว่าเธอจะไม่มีเงินใช้เนื่องจากไปทำงานนวดก็ไม่ได้งาน แถมตำรวจก็ตรวจบ่อย หลังจากนั้นวันอาทิตย์ที่ 9 ผมก็โอนไปให้เธออีก 10,000 ผมตามดูเธอในเฟสด้วยแอคเค้าอื่น ส่งข้อความหาเธอทุกวันเหมือนเดิมแต่เธอไม่เคยอ่านหรือตอบกลับมาเลย ผมขอเธอเป็นเพื่อน เธอก็ไม่รับ และก็ลบคำขอไป แล้วก็บล็อคผม ผมก็เปลี่ยนแอคเคาท์ เธอก็บล็อคอีก ผมโอนเงินให้เธออีก 10,000 เมื่อวันพุธที่ผ่านมา เพราะไม่อยากให้เธอหมดหนทาง เพราะค่าใช้จ่ายรายเดือนเธอก็มีอยู่ ทั้งค่าเช่าบ้าน ค่าผ่อนรถ ค่าเงินส่งทางบ้าน ค่าน้ำค่าไฟ และเธอเพิ่งเปิดบัญชีเงินฝากประจำทุกเดือน เดือนละ 5,000 ผมกลัวเธอลำบาก จึงพยายามโอนไปเท่าที่ผมทำได้ จนเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา เธอบล็อคผมทุกทาง จนผมหมดความพยายามจะง้อเธอแล้ว ผมคงต้องตัดใจ ในเมื่ออีกฝ่ายไม่ได้คิดอะไรกับเราเลย และเราก็มีครอบครัวแล้ว คงไม่ดันทุรังไปต่อในเมื่อรู้จุดหมายปลายทางแล้ว ข้างหน้ามีแต่เหว ถึงไม่ไปต่อแต่ก็ทำให้อีกฝ่ายไปไหนไม่ได้ ผมเคยคุยกับน้อง น. ไว้ว่า มีแฟนได้นะไม่ว่ากัน แต่ถ้าน้องเค้ามีแล้วผมจะทนได้เหรอ
นี่ก็ผ่านมาอาทิตย์กว่าๆ แล้ว ยังเจ็บไม่หายเลย ผมว่าวันพุธหน้าผมจะโอนเงินให้น้องเค้า 200,000 เพื่อให้น้องเค้าได้มีช่องทางในการไปหาอาชีพอื่นทำ ตามที่เคยได้คุยกันไว้ก่อนหน้านี้ อย่างน้อยผมก็จะหมดห่วงเรื่องอนาคตของน้องเค้า ถ้าน้องเค้าลำบาก ผมก็ไม่สบายใจ ความรักที่เกิดขึ้นฝ่ายเดียว คนที่รักเค้าก็ต้องเจ็บ แต่คนที่ทิ้งเราไปจะรู้สึกอะไรบ้างมั๊ย ที่ผมยกตัวเงินขึ้นมาบอกให้ทราบ ก็อยากจะบอกว่า เงินซื้อความรักไม่ได้นะ มันแค่ทำให้คนที่เรารักไม่ลำบากแค่นั้น ระหว่างที่ผมเป็นบ้าอยู่คนเดียวตั้งแต่อาทิตย์ที่แล้ว เธอยังคงมีชีวิตปกติ มีเลี้ยงวันเกิด ไปทานข้าวฟังเพลงกับเพื่อนๆ ของเธอ (เพื่อนผู้หญิง) รับแอดเฟรนด์ในเฟส ดูมีความสุขดีนะ ผมก็คงจบกับเธอเพียงเท่านี้
วันนี้เป็นวันแห่งความรัก ผมส่งข้อความหาเธอด้วยเฟสบุ๊คแอคเค้าใหม่ ซึ่งไม่รู้ว่าเธอจะเห็นหรือเปล่า หรือ เธอจะบล็อคเมื่อไหร่ ผมส่งไปบอกรักเธอ เพราะผมรักเธอ ห่วงเธอจริงๆ
หลังจากโอนเงินในวันพุธหน้า (18 กุมภา) ถ้าเธอไม่ติดต่อกลับมา ผมก็คงโอนเงินให้เธอใช้อาทิตย์ละ 5,000 ซึ่งเธอคงพอใช้ ผมห่วงเธอมากจริงๆ ถ้าหากเธอติดต่อกลับมาหล่ะผมจะทำยังไงดี จะอยู่เพื่อรอวันเจ็บครั้งใหม่ หรือจะลาเพื่อเจ็บให้มันจบ หรือควรทำความเข้าใจกันก่อนดี ถ้าได้เรื่องอย่างไร ผมก็จะมาแจ้งให้ทราบอีกที
แหล่งที่มา: https://pantip.com/topic/38245148