ธนาธร แสดงวิสัยทัศน์ ชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ด้านนอกสภา

5 มิ.ย. 2562 'ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ' หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ แสดงวิสัยทัศน์แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี นอกห้องประชุมสภาฯ 

โดยนายธนาธรกล่าวตอนหนึ่งว่า ตนพร้อมเป็นนายกฯ ที่เป็นนายกฯ จริงๆ พร้อมที่จะเปลี่ยนแปลงประเทศเดินไปข้างหน้าสู่ระดับสังคมโลก ยกเกาหลีใต้ที่เมื่อก่อนเป็นประเทศที่ไม่มีใครอยากมาเที่ยว ไม่มีใครอยากจะมาซื้อของ รวมถึงอาหารไม่มีใครอยากกิน และซี่รีย์ไม่มีใครอยากดู

แต่ทุกวันนี้ กลายเป็นประเทศที่ทุกคนอยากไป และกลายเป็นประเทศที่ทุกคนพูดถึง สินค้าของเกาหลีใต้กลายเป็นสินค้าที่หลายๆคนอยากได้ ซี่รีย์โด่งดังไปทั่วโลก

ขณะที่ประเทศไทยตอนนี้ยังคงอยู่ที่เดิม และก็จะก้าวถอยหลังไปเรื่อยๆ และประเทศเพื่อนบ้านที่อยู่รอบๆเรา ที่เมื่อก่อนจะเห็นว่าประเทศเหล่านั้นพยายามที่จะตามเรา แต่ทุกวันนี้ ประเทศเหล่านั้นกำลังแซงประเทศไทย

ส่วนประเทศไทยไม่ใช่แค่อยู่ที่เดิม กลับถอยหลัง ดังนั้น ตนเองจึงพร้อมที่จะเป็นนายกรัฐมนตรี  ที่จะพาประเทศไทย  เดินไปข้างหน้าอย่างแท้จริง ไม่เพียงเท่านั้นพร้อมที่จะพาประเทศไทยไปสู่ประชาคมโลกให้ได้ 

"ธนาธร” เดินเข้ามาขอบคุณ 7 พรรค ที่มีมติส่งชื่อตัวเองชิงเก้าอี้นายกรัฐมนตรี ขณะประชุมวิป 7 พรรคร่วม” หารือปม โหวตนายกฯ pic.twitter.com/5MYxM1w5u4

— thapanee eadsrichai (@thapanee3miti) 5 มิถุนายน 2562

 " ผมได้ยินตั้งแต่เล็กจนโตว่า ประเทศไทยเป็นประเทศที่กำลังพัฒนา ถึงเวลาที่ไทยจะเป็นประเทศโลกที่ 1 กระจายความมั่งคั่ง มีเทคโนโลยีเป็นของตัวเอง และปรับแต่งเอกลักษณ์ของไทยให้เป็นสากล"

“ผมจะเป็นนายกรัฐมนตรีแห่งความเปลี่ยนแปลง กล้าฝัน กล้าเผชิญความเป็นจริง สิ่งที่เราเผชิญอยู่ไม่ใช่สงคราม แต่เรากำลังเหมือนกบที่ถูกต้มอยู่ในน้ำที่ค่อย ๆ ร้อนขึ้น กว่าจะรู้ว่าโลกเปลี่ยนแปลงแค่ไหนก็สายไปแล้ว หนี้สินครัวเรือนขยับสูงขึ้น มีความเหลื่อมล้ำมากขึ้น แม้ว่าตอนนี้น้ำจะยังไม่เดือดแต่น้ำก็ร้อนขึ้นทุกที หากรอน้ำเดือดเสียก่อนก็สายไปแล้ว”

“ยืนยันจะทำงานภายใต้หลักการประชาธิปไตย เปลี่ยนแปลงผ่านกลไกรัฐสภา การที่ประเทศไทยมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขควบคู่ระบอบประชาธิปไตยอย่างยั่งยืน ผมจะทำให้รัฐสภาได้รับความศรัทธาจากประชาชนอีกครั้ง ผมพร้อมเป็นนายกฯ แห่งความเป็นจริง ที่นำประเทศไทยไปข้างหน้า”

ทั้งนี้ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ถูกศาลรัฐธรรมนูญสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ จึงไม่สามารถเข้าไปร่วมในห้องประชุมสภาได้

 ถ่ายทอดสดการประชุมรัฐสภา โดยมีระเบียบวาระสำคัญคือ การเลือก "นายกรัฐมนตรี" คนที่ 30