ก่อนนี้ "สวัสดิกะ" เคยเป็นสัญลักษณ์แห่งความโชคดี จนกระทั่งฮิตเลอร์ผู้นำนาซีนำไปใช้
เมื่อหนึ่งในสมาชิกวงไอดอล BNK 48 สวมใส่เสื้อยืดที่มีสัญลักษณ์สวัสดิกะของพรรคนาซีเยอรมนี ในการซ้อมใหญ่คอนเสิร์ตเมื่อวันที่ 25 ม.ค. จนกลายเป็นประเด็นที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ ซึ่งทำให้สถานเอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำประเทศไทย ออกมาแสดงความกังวลผ่านเฟซบุ๊กของสถานเอกอัครราชทูตฯ ที่ใช้ชื่อว่า Israel in Thailand โดยระบุว่า รู้สึกตกใจและกังวลใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้เห็นหนึ่งในสมาชิกของวง BNK48 สวมชุดที่มีสัญลักษณ์นาซี
ซึ่งนี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่เครื่องหมายสวัสดิกะของพรรคนาซีเยอรมนี ถูกวิจารณ์ว่านำมาใช้โดยไม่เข้าใจประวัติศาสตร์ความเจ็บปวดของชาวยิวในเหตุการณ์ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์เมื่อครั้งสงครามโลกครั้งที่ 2
"การสวมชุดสัญลักษณ์นาซีของนักร้อง BNK48 เป็นการทำร้ายจิตใจคนนับล้านทั่วโลก ที่ญาติพี่น้องของพวกเขาถูกสังหารด้วยน้ำมือของนาซี"
ทุกวันที่ 27 มกราคม เป็นวันรำลึกถึงเหตุการณ์ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิวสากลหรือฮอโลคอสต์ ซึ่งประชากรโลกจะร่วมไว้อาลัยให้ชาวยิว 6 ล้านคนที่ถูกสังหาร
เหตุใดสัญลักษณ์นี้ถึงกลายเป็นเครื่องหมายแห่งความชิงชัง
เครื่องหมาย "สวัสดิกะ หรือสวัสติกะ" รูปกากบาทปลายหัก เคยเป็นสัญลักษณ์แห่งความโชคดี ความดีงามและความอุดมสมบูรณ์ กระทั่งฮิตเลอร์ ผู้นำพรรคนาซีเยอรมนี นำไปใช้เป็นสัญลักษณ์ ตั้งแต่นั้นมา สวัสติกะได้กลายมาเป็นสัญลักษณ์ของเผด็จการ ความเหี้ยมโหด และระบบฟาสซิสต์
คำว่าสวัสติกะ (Swastika) มีรากฐานมาจากภาษาสันสกฤต หมายถึงความมั่งคั่งอุดมสมบูรณ์ เป็นสัญลักษณ์อันเป็นมงคลของศาสนาฮินดู พุทธ และเชน มาหลายพันปี จึงสรุปกันว่าสัญลักษณ์นี้มาจากอินเดีย ต่อมาเมื่อชาวยุโรปเริ่มเดินทางเข้าไปในเอเชียกันมากขึ้น ก็ได้เอาสัญลักษณ์นี้กลับไปใช้ในประเทศของตน กระทั่งต้นศตวรรษที่ 20 สวัสติกะก็ได้กลายมาเป็นสัญลักษณ์แห่งความโชคดีที่ใช้กันอย่างกว้างขวาง
ในหนังสือเรื่อง The Swastika: Symbol Beyond Redemption? (สวัสติกะ มลทินที่มิอาจไถ่ถอน) สตีเวน เฮลเลอร์ ผู้แต่งบอกว่า คนตะวันตกคลั่งไคล้เครื่องหมายนี้มาก ดังจะเห็นได้จากอิทธิพลของมันในงานด้านสถาปัตยกรรม การโฆษณาและการออกแบบ บริษัทชั้นนำ ไม่ว่าจะเป็นโคคา-โคล่า เบียร์คาร์ลสเบิร์ก ก็เคยใช้เป็นสัญลักษณ์ส่งเสริมการค้ามาแล้ว
นอกจากนั้น มันยังเป็นเครื่องหมายประจำของลูกเสือ และเหล่าทัพสหรัฐในช่วงสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง แต่ความนิยมในโลกตะวันตกของสวัสติกะ เดินมาถึงจุดจบในช่วงทศวรรษที่ 1930 เมื่อพรรคนาซีก้าวขึ้นสู่อำนาจในเยอรมนี
พรรคนาซีได้แรงบันดาลใจมาจากงานแปลของนักวิชาการชาวเยอรมันในช่วงศตวรรษที่ 19 เขาตั้งข้อสังเกตว่าภาษาสันสกฤตมีส่วนคล้ายกับภาษาเยอรมัน และสรุปว่าอินเดียกับเยอรมนีคงมีพื้นเพมาจากบรรพบุรุษเดียวกัน ดังนั้นนาซีจึงจินตนาการถึงเผ่าพันธุ์นักรบผิวขาวอันสูงส่งเหมือนพระเจ้า และเชื่อกันว่าสายเลือดอารยันเป็นสายเลือดบริสุทธิ์ของคนเยอรมันที่เหนือกว่ามนุษย์ทุกเผ่าพันธุ์ในโลก และสวัสติกะก็ถูกใช้เป็นเครื่องหมายของเชื้อชาติอารยันนับแต่นั้นมา
เป็นที่ทราบกันว่าพรรคนาซีเกลียดชังชาติยิว และเป้าหมายของฮิตเลอร์คือการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิว ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ประเมินกันว่ามีผู้เสียชีวิตที่ค่ายกักกันนาซี 11 ล้านคน ในจำนวนนี้ เป็นชาวยิวถึง 6 ล้านคน ดังนั้นจึงไม่แปลกที่เครื่องหมายสวัสติกะได้กลายมาเป็นสัญลักษณ์แห่งความเคียดแค้น ชิงชังและความโหดร้ายที่ยังคงฝังรากลึกอยู่ในความทรงจำของผู้คนในยุโรป และอเมริกา โดยเฉพาะอย่างยิ่งชาวยิวอย่างไม่เสื่อมคลาย
แหล่งที่มา: https://variety.thaiza.com