รู้จัก "ทูตเยอรมันประจำประเทศไทย" ทูตหัวใจสีเขียว ขึ้นรถไฟฟ้า ขี่สกู๊ตเตอร์ไปทำงาน
โลกโซเชียลฮือฮา ภาพการเดินทางไปทำงานของ "เกออร์ค ชมิดท์" เอกอัครราชทูตเยอรมนี ประจำประเทศไทย ที่ไม่ได้นั่งรถหรูแต่เลือกขึ้นรถไฟฟ้าและขี่สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าแทน ทำให้ได้รับเสียงชื่นชมอย่างล้นหลาม
ปี 2006 กรุงเทพมหานคร ได้ตั้งสโลแกน “Bangkok…City of Life” หรือ “กรุงเทพฯชีวิตดีๆ … ที่ลงตัว” เพื่อกำหนดทิศทางให้เป็นเมืองที่น่าอยู่
ซึ่งตั้งแต่มีการประกาศ ก็มีเสียงวิจารณ์ดังกระหึ่ม กระทั่งมีคำคมเชิงเสียดสีผุดขึ้นมาอย่างแพร่หลาย และยิ่งนานวันความจริงยิ่งเปิดเผยว่า มันเป็นเรื่องยากที่ชีวิตดีๆ อย่างในสโลแกนว่าจะเกิดขึ้นได้จริง
นอกจากปัญหาเรื้อรังอย่าง ปัญหาการจราจร, ทางเดินที่มอเตอร์ไซค์เข้ามาวิ่งจนเฉี่ยวชน,ร้านค้าแผงลอยริมฟุตบาท ฯลฯ ตอนนี้ทั้งกรุงเทพฯ และทั่วประเทศไทยกำลังเจอกับ วิกฤตฝุ่นพิษขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมครอน ซึ่งกระทบต่อสุขภาพและการใช้ชีวิต
ซึ่งก่อนหน้านี้ภาครัฐได้พยายามแก้ไข้ปัญหา ด้วยการทำฝนเทียม, ฉีดน้ำขึ้นฟ้า, ตรวจรถควันดำ, ไม่เผาหญ้าในช่วงนี้ ฯลฯ รวมถึงรณรงค์ให้ผู้คนมาใช้รถสาธารณะแทนการใช้รถส่วนตัว
การพยายามแก้ไขปัญหาจะเป็นไปได้ราบรื่น แต่ดันมาสะดุดตรงที่ว่าสื่อมวลชนได้เปิดเผยว่าในขณะที่หลายฝ่ายกำลังรณรงค์เรื่องนี้ แต่บรรดารัฐมนตรีต่างๆ กลับละเลย ด้วยการให้คนขับรถสตาร์ทรถไว้ ซึ่งนอกจากจะสิ้นเปลืองน้ำมันแล้วก็ยังสร้างฝุ่นพิษอีกด้วย ทำให้ถูกกระแสสังคมวิพากษ์วิจารณ์เป็นอย่างมาก
ล่าสุดโลกโซเชียลได้ยกตัวอย่าง "เกออร์ค ชมิดท์" เอกอัครราชทูตเยอรมนี ประจำประเทศไทย เจ้าของฉายา “ท่านทูตหัวใจสีเขียว” ภายหลังได้มีการเปิดเผยภาพการเดินทางไปทำงานของท่าน ที่ไม่ได้นั่งรถหรู แต่กลับเลือกขึ้นรถไฟฟ้าและปั่นสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าเป็นพาหนะในการไปทำงานแทน จนได้รับเสียงชื่นชมเป็นอย่างมาก
ก่อนหน้าที่จะเกิดวิกฤตฝุ่นพิษท่านยังมีความสนใจในยานพาหนะระบบไฟฟ้าหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์, จักรยาน รวมถึงสกู๊ตเตอร์ ซึ่งทุกอย่างล้วนเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมทั้งสิ้น
สำหรับสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าที่เอกอัครราชทูตเยอรมนีใช้ คือ scoota XIAOMI MIJIA M365 ELECTRIC SCOOTER ใช้งานง่าย แบตเตอรี่ใช้งานได้ 30 กิโลเมตร หรือ 18.6 ไมล์ ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง มีระบบเบรกแบบ Double braking system น้ำหนัก 12.5 kg ราคาขายปัจจุบันอยู่ที่ 14,999 บาทแหล่งที่มา: http://www.liekr.com