รีวิวเซรั่ม พิชิตปัญหาสิว ผิวหมองคล้ำในช่วงซัมเมอร์
เริ่มเข้าหน้าร้อนอย่างเต็มตัว นับวันแดดก็ยิ่งแรงขึ้นเรื่อยๆ ขนาดแค่เพิ่งเข้าฤดูกาลยังขนาดนี้ ช่วงเมษาหรือสงการนต์ยิ่งไม่ต้องพูดถึง ชีวิตเพิ่งรอดพ้นจากฝุ่นควันมาได้ไม่นาน ก็ต้องมาเผชิญกับปัญหาแดดแรงชนิดที่ว่าแทบจะย่างกันให้สุกเลยทีเดียว เรื่องผิวเลยไม่ต้องพูดถึง ทั้งคล้ำลง ทั้งเป็นสิว ทุกวันนี้เวลาจะออกไปข้างนอกทีต้องพึ่งทั้งครีมกันแดด เสื้อแขนยาว แล้วก็ร่ม เอาไว้บังหน้าอันบอบบาง
เพราะฉะนั้น การดูแลผิวจึงเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างยิ่ง (ไม่ว่าจะฤดูกาลไหนก็เถอะ) ช่วงสองสามสัปดาห์ที่ผ่านมา เราจึงได้เฟ้นหาสกินแคร์คุณภาพดีและไว้ใจได้มาประโคมลงบนผิวหน้าเพื่อบำรุงและป้องกันสิ่งต่างๆที่อาจเกิดกับผิว และบังเอิญเราได้ไปต้องชะตาเข้ากับผลิตภัณฑ์ตัวหนึ่ง ซึ่งจากที่เคยเคยเห็นรีวิวและได้ยินได้ฟังจากคนรอบข้างมา ส่วนใหญ่บอกว่าดีทีเดียว
ก่อนเข้าประเด็นขอมาให้เห็นหน้าค่าตากันสักนิด นี่ขนาดแต่งหน้าลงรองพื้น ตบแป้งอะไรเรียบร้อย ก็ยังเอาไม่อยู่ ซึ่งจริงๆเราเป็นคนที่ผิวค่อนข้างมัน ทำให้เป็นสิวง่าย พอหายแล้วก็มักจะทิ้งร่องรอยเอาไว้ให้รำคาญตาเล่นๆ
นี่ไงหน้าสดของฉัน ซึ่งคล้ำลงไปจากเดิมมากขอบอกกก… ส่วนที่ถืออยู่ในมือก็คือสกินแคร์ที่เราจะมาลองใช้กัน
โดยเจ้าสกินแคร์ตัวนี้เป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ของ ชาเม่ มีชื่อว่า CEENA Hokkido Wild Grape Serum หรือที่รู้จักกันในนาม “เซรั่มองุ่นป่าฮอกไกโด” ที่อัดแน่นไปด้วยสารสกัดจากองุ่นป่าถึง 1,000 กว่าลูก !! ซึ่งจากการทดสอบผู้ใช้จริงจำนวน 20 คน ยังไม่มีผู้ใดเกิดอาการแพ้หรือระคายเคืองใดๆทั้งสิ้น
นอกจากเรื่องของความอ่อนโยนต่อผิวที่พอจะทราบมาเป็นนัยๆแล้ว สรรพคุณของนางยังเป็นอะไรที่ตอบโจทย์เราอย่างมาก คือนางเกิดมาเพื่อช่วยในเรื่องของความขาวกระจ่างใส ทั้งในเรื่องของการลดรอยสิว ปัญหาฝ้า กระ จุดด่างดำ และลดเลือนริ้วรอย เหมาะสำหรับทุกสภาพผิว โดยนางจะช่วยทำให้ผิวดูนุ่มชุ่มชื่น เป็นการเติมน้ำให้กับผิว ทำให้ผิวดูฟู ปราศจากน้ำมันซึ่งป็นสาเหตุของความมันส่วนเกินบนใบหน้า
ในหนึ่งขวดจะอุดมไปด้วย Vitamin B3, Lumiskin, B-White, Resver Aqua, Go-VC, Regu-Rade และ Licorice ซึ่งล้วนแต่เป็นสารสกัดที่ช่วยให้ผิวขาวกระจ่างใส เปล่งปลั่ง อมชมพูอย่างเป็นธรรมชาติ โดยเฉพาะ Resver Aque สารสกัดจากสเตมป์เซลล์ที่สกัดจากองุ่นฮอกไกโด มีอนุภาพในการต่อต่านอนุมูลอิสระได้มากกว่า Vitamin C หรือแม้แต่ กลูต้าไธโอน และยังมีสารสกัดที่ช่วยฟื้นฟูซ่อมแซมผิว ได้แก่ Plankton GPAC, Micro-Collagen, Betaglucan และสารสกัดที่ช่วยมอบความชุ่มชื้นอย่าง Witch Hazel ที่น่าสนใจที่สุดคือสกัดจากแพลงก์ตอนทะเล ซึ่งเราจะเห็นแบรนด์ดังๆมากมายใส่ส่วนผสมของเจ้านี่มา ซึ่งนางช่วยทั้งในเรื่องฟื้นฟูและมอบความยืดหยุ่นให้กับผิว ทำให้ผิวเราแข็งแรงยิ่งขึ้น
ในส่วนของเนื้อสัมผัส ค่อนข้างตรงตามมาตรฐานเซรั่มที่วาดหวังไว้ คือ ไม่หนืด ไม่ข้น และไม่เหลวจนเกินไป มีกลิ่นหอมกำลังดี ไม่ฉุนเหมือนทำน้ำหอมหกลงไปทั้งขวด แพ็คเกจใช้งานง่าย มีหัวดรอปซึ่งเซฟในเรื่องของความสะอาดและกันสิ่งแปลกปลอมได้ดี
สำหรับตัวนี้นางปราศจากแอลกฮอล์นะจ๊ะ เพราะฉะนั้นคนเป็นสิว ผิวแพ้ง่าย หายห่วง !
ขั้นตอนการใช้ เราใช้ทั้ง เช้า และ เย็น โดยใช้หลังจากที่ปรับสภาพผิวด้วยโทนเนอร์เสร็จ โดยตัวนี้เราว่านางสามารถลงเป็นพรีเซรั่มได้เลย ด้วยเนื้อที่ค่อนข้างบางเบา เกลี่ยง่าย ซึ่มไว แต่ไม่ใช่ฟิลแบบระเหยออกไปหมด เพราะในขณะที่ทาเสร็จ เรามีความรู้สึกว่าเหมือนมีฟิลม์บางๆเคลือบอยู่บนใบหน้า เมื่อลองศึกษาแบรนด์ดูให้แน่ใจ จึงทราบว่าฟิลม์บางๆนั้นเป็นนวัตกรรมที่กักเก็บความชุ่มชื้นไว้ในผิวของเรานั่นเอง (แต่ขอบอกก่อนว่านางไม่ได้ทำให้หน้ามันแต่อย่างใดนะ ซึ่งถ้าใช้ตอนกลางวันก็ไม่ต้องกลัวว่าหน้าจะมันเยิ้ม)
ความรู้สึกหลังจากที่ใช้ เราให้ในเรื่องขาวกระจ่างใส 8.5/10 ไม่ก่อให้เกิดสิวและอาการระคายเคือง 10/10 ลดเลือนรอยสิว จุดด่างดำ 7.5/10 ความชุ่มชื้น 10/10 ซึ่งโดยรวมแล้วถือว่าผ่าน ผ่าน ผ่าน !! หมดแล้วซื้อต่อแน่นอน
และนี้คือโมเมนต์เปรียบเทียบให้เห็นกันจะๆ ระหว่าง ก่อน-หลัง การใช้เซรั่มองุ่นป่าฮอกไกโดตัวนี้ (รูปซ้ายคือก่อน รูปขวาคือหลังใช้) ผลลัพธ์ที่ไดจากตรงนี้อันดับแรก ผิวดูเนียนกระชับขึ้น หน้าดูขาวสว่าง รอยสิวต่างเริ่มหายไป นับว่าปังจริงๆสำหรับแบนด์นี้ คือใช้ไปได้แค่ 2 สัปดาห์ รอยสิวที่ตรงคางจางลงอย่างเห็นได้ชัด รูขุมขนบนหน้าก็เล็กลง ความมันส่วนเกินลดน้อยลงไปมาก ไม่เยิ้มเป็นกระทะทอดไข่เหมือนเมื่อก่อน เป็นโมเมนต์ที่ไม่เคยคิดว่าจะได้จากสกินแคร์ตัวไหนเลยจริงๆ เพราะโดยส่วนตัวแล้วเวลาใช้อะไร เราก็หวังเพียงแค่ความชุ่มชื้น และไม่มีอาการแพ้แต่อย่างใดก็เพียงพอ แต่มาเจอเจ้าซีน่าตัวนี้เรารู้สึกว่านางใช่เลย นอกจากไม่แพ้แล้วยังเห็นผลในการบำรุงอีกด้วย เลิฟสุดๆไปเลย