น่าเห็นใจลุงกำนัน!!หัวเรือใหญ่ของมวลมหาประชาชนที่สู้สุดใจ ที่ต้องจารึกไว้ในประวัติศาสตร์ชาติไทย
น่าเห็นใจลุงกำนันหัวเรือใหญ่ของกลุ่มมวลมหาประชาชนที่สู้สุดใจ ประกาศชัดเจนมาตลอด ที่สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ เพราะตนเห็นว่ามีเพียง พล.อ.ประยุทธ์ ที่จะทำให้บ้านเมืองสงบเรียบร้อยต่อไปได้ ซึ่งจะทำให้ประเทศมีโอกาสได้ปฏิรูป พัฒนาไปข้างหน้า การประกาศของนาย อภิสิทธิ์ประกาศ ที่ไม่เอา พล.อ.ประยุทธ์ก็เหมือนกับบอกว่าอยู่ฝั่งเดียวกับระบอบทักษิณ เราต้องไม่ยอมให้ระบอบทักษิณ กลับมามีอำนาจอีก เพราะถ้ากลับมาพวกเราก็ต้องเดือดร้อน
ไปบวชเงียบวัดที่สุราษฎร์ฯ ไร้กำหนดลาสิกขา พร้อมเข้าศึกษาธรรมะที่สวนโมกข์
และยอมตระบัดสัตย์ เพื่อชาติ ในวันนั้น ลุงกำนันได้กล่าวทั้งน้ำตา อยากให้คนไทยที่เสียสละเพื่อชาติได้มาเห็นวันนี้ ไม่สนคนด่าตระบัดสัตย์ ไหนว่าไม่ยุ่งการเมือง ชี้ขอยืนเคียงข้างพี่น้องประชาชน ไม่สนคำวิจารณ์
ก่อนหน้านั้น นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ประธานมูลนิธิมวลหมาประชาชน
แต่ผลที่ออกมาได้วันนี้ เหมือนจะได้ไม่คุ้มเสียเอาเสียเลย กับการต่อสู้ที่ผ่านมา ต่างจากการต้องสู้ ในช่วงที่เป้นหัวเรือใหญ่ในพรรคประชาธิปปัตย์ ซึ้งถือว่าลุงกำนัน มีชื่อเสียงเนื้อหอมมาก เป้นคนสำคัญในการจัดตั้งรัฐบาลเสมอมา
แต่ในที่สุดแล้ว ถึงแม้พรรครวมพลังประชาชาติไทยไม่ประสบความสำเร็จ ตามที่หวัง เมื่อเปรียบเทียบกับพรรคคนรุ่นใหม่อย่าง พรรคอนาคตใหม่ก็ตาม สิ่งที่ลุงกำนันประกาศจุดยืนไว้ข้างต้นมภาพรวมถือว่า สำเร็จ
ผลเลือกตั้งล่าสุด (ยังไม่เป็นทางการ)
1.เพื่อไทย 130 ที่นั่ง (ส.ส.เขต)
2.พลังประชารัฐ 120 ที่นั่ง (เขต 103+ปาร์ตี้ลิสต์ 17)
3.อนาคตใหม่ 74 ที่นั่ง (เขต 24+ปาร์ตี้ลิสต์ 50)
4.ภูมิใจไทย 49 ที่นั่ง(เขต 36 +ปาร์ตี้ลิสต์ 13)
5.ประชาธิปัตย์ 49 ที่นั่ง (เขต 29+ปาร์ตี้ลิสต์ 20)
6.ชาติไทยพัฒนา 11 ที่นั่ง(เขต 6+ปาร์ตี้ลิสต์ 5)
7.เสรีรวมไทย 10 ที่นั่ง (ปาร์ตี้ลิสต์)
8.เศรษฐกิจใหม่ 6 ที่นั่ง (ปาร์ตี้ลิสต์)
9.เพื่อนไทย 5 ที่นั่ง (เขต 1+ ปาร์ตี้ลิสต์ 4)
10.เพื่อชาติ 5 ที่นั่ง (ปาร์ตี้ลิสต์)
11.รวมพลังประชาชาติไทย 4 ที่นั่ง (เขต 1+ปาร์ตี้ลิสต์ 3)
12.ชาติพัฒนา 3 ที่นั่ง (เขต 1+ ปาร์ตี้ลิสต์ 2)
13.พลังท้องถิ่นไทย 2 ที่นั่ง (ปาร์ตี้ลิสต์)
และประชาชาติ พลังชาติไทย พลังปวงชนไทย รักษ์ผืนป่าไทย พรรคละ 1 ที่นั่ง (ปาร์ตี้ลิสต์)
-------------------------------------------
พรรครวมพลังประชาชาติไทย คือ กลุ่มการเมืองที่ได้ยื่นจดแจ้งชื่อพรรคต่อ คณะกรรมการการเลือกตั้ง เมื่อวันศุกร์ที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2561 มีนาย ทวีศักดิ์ ณ ตะกั่วทุ่ง ทนายความส่วนตัวของทนาย สุเทพ เทือกสุบรรณเป็นผู้ยื่นจดแจ้ง โดยจะมีบุคคลที่มีชื่อเสียงเข้าร่วมงานกับพรรคอาทิ พลตำรวจเอกวสิษฐ เดชกุญชร อดีตรอง อธิบดีกรมตำรวจ นาย ประสาร มฤคพิทักษ์ นาย สุริยะใส กตะศิลา นาย พิเชฐ พัฒนโชติ นาย สำราญ รอดเพชร และ นาย จาตุรันต์ บุญเบ็ญจรัตน์ เป็นต้น โดยได้มีการเปิดตัวพรรคในวันอาทิตย์ที่ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2561 ที่ สวนลุมพินี แต่ในเวลาต่อมาได้มีการเปลี่ยนแปลงสถานที่เปิดตัวเป็น ศาลาดนตรีสุริยเทพ มหาวิทยาลัยรังสิต
กระทั่งวันอาทิตย์ที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2561 ทางพรรคได้จัดให้มีการประชุมเพื่อเลือกหัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรค และคณะกรรมการบริหารพรรคซึ่งที่ประชุมได้มีมติเลือก หม่อมราชวงศ์จัตุมงคล โสณกุล ที่นาย สุเทพ เทือกสุบรรณ เป็นผู้เสนอชื่อเป็นหัวหน้าพรรค นายทวีศักดิ์ ณ ตะกั่วทุ่ง เป็นเลขาธิการพรรคโดย ดร. เอนก เหล่าธรรมทัศน์ ซึ่งสมาชิกพรรคได้เสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคได้ขอถอนตัวไปโดยคณะกรรมการบริหารพรรคชุดนี้เป็นชุดชั่วคราวส่วนคณะกรรมบริหารพรรคชุดแรกจะทำการประชุมเพื่อเลือกเมื่อจดทะเบียนจัดตั้งพรรคสำเร็จเรียบร้อยแล้ว
ต่อมาในวันพุธที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2561 หม่อมราชวงศ์จัตุมงคลได้ยื่นจดทะเบียนจัดตั้งพรรคต่อ กกต. ด้วยทุนจดทะเบียน 30 ล้าน 5 แสนบาทและผู้ร่วมก่อตั้งพรรคทั้งสิ้น 607 คน