ดั้นด้นจนพบ “รอยพระพุทธบาทแห่งใหม่” กึ่งกลางฝ่าเท้าเป็นรูปธรรมจักร ค้นพบแล้วที่จ.อุดรธานี
ที่เพจสำนักประชาสัมพันธ์เขต 1 วันนี้ 18 กุมภาพันธ์ 2562 มีการเผยเรื่องราวการค้นพบรอยพระพุทธบาทแห่งใหม่ มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ณ อุดรธานี โดยโรงเรียนภูพระบาทวิทยา ได้ดั้นด้นปีนขึ้นสู่ภูเขือน้ำ เทือกภูพานตะวันตก ที่อยู่ห่างจากหมู่บ้านใหม่ ต.เมืองพาน อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี ไปทางทิศเหนือประมาณ 6 กิโลเมตร ออกตามหารอยพระพุทธบาทแห่งใหม่ ที่พึ่งถูกค้นพบเมื่อปีก่อนโดยชาวบ้านในท้องถิ่น ที่ยังไม่ถูกบันทึกไว้ในระบบข้อมูลโบราณวัตถุของหน่วยงานแต่อย่างใด
ลักษณะรอยพระพุทธบาทที่ค้นพบนี้ ตรงกึ่งกลางฝ่าเท้าเป็นรูปธรรมจักร โดยแกะสลักรอยหิน เป็นรูปแกนล้อมด้วยกลีบบัวประมาณ17-18 กลีบ แล้วมีวงกลมล้อมอีกรอบ และถัดออกมาอีกจะแกะเป็นขาธรรมจักร 8 ขา ล้อมรอบด้วยวงกลมด้านนอกสุด และสลักรูปธรรมจักรบนหัวนิ้วเท้าทั้งห้า และตรงข้อนิ้วเป็นรูปลายข้าวหลามตัดเว้นระยะไว้เป็นช่อง ๆ
ด้านข้างรอยพะพุทธบาท จะมีร่องรอยการเจาะเป๋นร่องรูหินกะจายเป็นจุด ๆ สันนิษฐานว่า เป็นที่ตั้งของเสาไม้มุงหลังคา ที่ผุพังไปตากาลเวลา รอยนี้จะแตกต่างกับรอยพระพุทธบาทบัวบกที่ตรงกลางพระพุทธบาทจะเป็นลักษณะกลีบบัวบาน และรอยพระพุทธบาทหลังเต่าตรงกลางจะเป็นกลีบบัวเล็กเรียบกว่า
เมื่อเดินไปถึงจุดหมาย น้องๆทีมงานช่วยกันวิดน้ำฝนที่ท่วมขังและกวาดขี้โคลนออกจากรอยพระพุทธบาทจนสะอาดตา สภาพเดิมเมื่อค้นพบใหม่ๆ จะมีทรายปิดทับรอยพระพุทธบาทไว้ เป็นหินสีธรรมชาติ และต่อมาชาวบ้านได้นำสีทองมาทาทับไว้
ห่างออกไปราว 50 เมตร บนโขลดหินด้านบนขึ้นไปอีก ปรากฏว่ามีร่องหินคล้ายรอยเท้า แต่ไม่มีการสลักหินเป็นรูปบนฝ่า และมีขนาดเล็กกว่ารอยแรกที่พบอย่างชัดเจน โดยก่อนจะเดินขึ้นมาถึงจุดที่รอยพระพุทธบาทประทับอยู่ประมาณ 200 เมตร จะเห็นภาพเขียนสีรูปก้นหอยสีแดง เขียนวนออกด้านนอกเป็นรัศมีคล้ายพระอาทิตย์ส่องประกายแสงอยู่หลายวง บนหน้าผาโขดหิน คล้ายกับภาพเขียนที่ถ้ำคน ถ้ำวัว และกลุ่มภาพเขียนสีแดง รูปลายเลขาคณิตที่กระจัดกระจายอยู่บนพื้นที่อุทยานประวัติศาสตร์ภูพระบาท และคล้ายกับภาพเขียนสีลายก้นหอยสีแดง ที่แหล่งโบราณสถานบ้านเชียง ที่มีอายุราว 2,500-1,800 ปีก่อนประวัติศาสตร์ ที่อยู่ห่างออกไปจากที่นี่ประมาณ 100 กิโลเมตร
ส่วนรอยพระพุทธบาทที่ค้นพบนี้ จะมีอายุอยู่ในยุคสมัยใด คงต้อรอการพิสูจน์หลักฐานทางโบราณคดีกันต่อไป
แหล่งที่มา: ขอบคุณข้อมูลจาก : สมชัย คำเพราะ
ขอบคุณภาพจาก : Anucha_Lakawe : jaarai.com