ชีวิตคู่...ขอแค่จับมือกันไว้
ลูก..ความเปลี่ยนแปลงอันยิ่งใหญ่
หลังจากตามไปอยู่ด้วยกันเราก็พลาดมีลูกก่อนแต่งงาน เป็นจุดหักเหในชีวิตมาก ต้องอยู่เมืองนอกกัน 2 คน ช่วยกันเลี้ยงลูก เป็นเวลาที่เราร่วมทุกข์ร่วมสุขด้วยกัน จนทำให้เรารู้สึกว่าเรารักกันมาก เค้าทำงานอยู่คนเดียว เค้าอดทนแต่ก็มีความสุขมาก ลูกเราน่ารักมาก ตอนคลอดใหม่ๆ เราทำอะไรไม่ได้เลย เค้าก็ทำให้หมด ทำกับข้าว ดูแลทุกอย่าง พออยู่มาได้สักพัก ที่บ้านเค้าก็บอกให้เราพาลูกกลับมาเมืองไทย จะไปอยู่ลำบากแบบนั้นได้ยังไง เรากับลูกก็เลยมาอยู่กับครอบครัวเค้าก่อน วันที่ต้องจากกันมันเศร้ามาก เดินอุ้มลูกน้ำตาไหลตลอดทาง เพราะราไม่รู้ว่าเราต้องเจออะไรบ้าง
แค่รัก..คงยังไม่พอ
เราเพิ่งแต่งงานกันตอนลูก1ขวบ ก็มีคนรู้บ้างว่ามีลูกแล้ว แต่งานแต่งงานก็ผ่านไปด้วยดีตามกฎของสังคมที่ว่าผู้หญิงกับผู้ชายจะอยู่ ด้วยกันต้องแต่งงานกัน แต่ตอนที่เราอยู่กับลูกก่อนหน้านั้นมันก็มีอะไรที่ไม่เข้าใจกันหลายอย่าง กับครอบครัวเค้า เราอยากเลี้ยงลูกตามสไตล์เรา แต่แม่เค้าอยากให้เลี้ยงตามแบบเค้า เราก็ฟังนะ แต่ไม่ทำ ฉันจะทำในสิ่งที่ฉันจะทำ ก็อยู่กันแบบระหองระแหงกันมาตลอด เราก็เข้าใจนะ เค้าเป็นคนกลาง ไม่รู้จะทำอย่างไรดีก็ได้แต่กอดคอกันร้องไห้ แล้วเราก็อยากมีเวลาเป็นของครอบครัวเราเองบ้าง แต่เหมือนกับว่าลูกก็ต้องให้พ่อแม่มาก่อน ถ้าไม่อยากรู้สึกผิดไปตลอดชีวิตเธอก็ต้องดูแลพ่อแม่ใช่มั้ย ตรงนี้เลยทำให้เราไม่มีเวลาให้กัน
เมื่อรักเขาเปลี่ยนไป
เรากำลังจะเริ่มกิจการของตัวเองแล้วด้วยหน้าที่ของเค้าที่เป็นข้าราชการก็จำเป็นต้องอยู่ห่างเราสักพัก จากนั้นเค้าก็เขวไปเลย ไม่รู้ว่ามันเป็นธรรมเนียมของผู้ชายไทยหรือเปล่า คือเค้าไปมีผู้หญิงคนใหม่ ซึ่งทางโน้นก็รู้ว่าเค้ามีครอบครัวแล้ว ส่วนตัวผู้หญิงก็มีแฟนแล้ว เค้าก็บอกว่าไม่ได้จริงจังอะไร ผู้หญิงก็ไม่ได้จริงจังเหมือนกัน ซึ่งเหมือนไม่ใช่เรื่องแปลกของคนสมัยนี้
แต่คุณคิดมั้ยว่าที่คุณเล่นๆ น่ะ คุณทำลายชีวิตครอบครัวคนอื่น ฉันทุ่มเทให้เธอได้ทุกอย่างแล้วฉันควรได้รับสิ่งนี้ตอบแทนหรือ มันเป็นบทเรียนเลยว่าให้รักตัวเองมากๆ ทุกคนมีความเห็นแก่ตัวทั้งนั้น แต่อย่าให้คนอื่นเดือดร้อน ใครๆ ก็บอกว่าทำอะไรต้องคิดถึงลูก แล้วทำไมต้องเป็นเราคนเดียวล่ะ เค้าทำแบบนี้เค้าคิดถึงลูกเหรอ แบบนี้คือคิดแต่ว่าฉันจะสนุก ฉันไม่แคร์ ไม่มีอะไรเดี๋ยวฉันเคลียร์ได้ แล้วคุณจะรู้ได้ไงว่าคุณจะเคลียร์ได้ ผู้ชายเป็นอย่างนี้กัน แล้วผู้หญิงต้องยอมรับสิ่งที่เขาทำตลอดเลยเหรอ
ถามเค้าว่าจะเอายังไง เค้าก็บอกว่าก็กลับมาเหมือนเดิมแต่แก้วที่มันร้าวแล้ว มันจะกลับคืนรูปได้เหมือนเดิมหรือ ถ้าจะกลับมาเราคงเริ่มต้นนับหนึ่งกันใหม่ สร้างความรักกันใหม่ แต่ถ้ากลับมาแล้วไม่มีอะไรดีขึ้น ก็ต้องตัดสินใจว่าจะเอาอย่างไร ตอนนี้เราก็อยู่กันเหมือนเพื่อนร่วมบ้าน อยู่ให้ลูกมีพ่อมีแม่ พ่อเราบอกว่าเลิกนะง่าย เซ็นชื่อแป๊บเดียวเอง แต่ชีวิตหลังจากนั้นล่ะจะเป็นอย่างไร ไม่ใช่ชีวิตพวกเธอนะ แต่ของเด็กคนนี้ที่วิ่งเล่น หัวเราะอยู่เนี่ยจะเป็นอย่างไร
ไม่แปลกถ้าจะกลับมาอยู่คนเดียว
มีคำพูดของเพื่อนคนหนึ่งที่ฉันชอบมาก เขาบอกว่า ทำไมล่ะ ในเมื่อคุณเกิดมาคนเดียวแล้ววันนึงคุณพบใครสักคน
จาก อยู่คนเดียวก็มีคนเพิ่มเข้ามาในชีวิตคุณ แต่ถ้าในที่สุดเราต้องกลับไปอยู่คนเดียว มันก็แค่กลับไปยืนตรงจุดที่เริ่มต้นเท่านั้นเอง สิ่งที่ทำให้อยู่ได้ทุกวันนี้คือลูก เค้าเหมือนเป็นนางฟ้าตัวน้อยๆ คอยเติมพลังให้เราสู้กับทุกอย่าง ไม่รู้สึกเสียดายที่มีลูก ถ้าเกิดต้องแยกกันจริงๆ เราก็จะบอกลูก ค่อยบอกเค้าไปเรื่อยให้เค้ายอมรับความจริง เพราะเราจะเป็นคนสอนลูกอย่างนึงว่า ชีวิตคนเราไม่ใช่นินทาน เราต้องบอกลูกว่าโลกนี้สวยงาม แต่มันก็มีมุมหนึ่งที่มันโหดร้าย มีนางฟ้า แต่มันก็มียักษ์นะ มีเจ้าชายก็มีโจรนะ
ชีวิตคู่..ขอแค่จับมือกันไว้
ชีวิตคือความไม่แน่นอน อย่าไปวางว่าชีวิตเราจะเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ เป็นครอบครัวที่รักใคร่กลมเกลียว มันต้องมีสักวันหนึ่งที่ไม่ใครก็ใครคนหนึ่งล่ะที่ต้องผิดพลาด ต้องมีวิกฤติ แต่เชื่อว่าไม่ว่าจะเจออะไร เราจะช่วยกันได้ อย่างน้อยคือเราจับมือกันไว้ เป็นชีวิตคู่เนี่ย ถ้ามันเกิดปัญหาแล้ว มันทำให้เสียกำลังใจ เสียความรู้สึก และกว่าเราจะสร้างกลับมาให้ดีได้เหมือนเดิม
มันต้องใช้เวลา
ไม่ใช่เรื่องง่ายกับการรักษาความรักไว้ให้อยู่ได้นานๆ แต่เมื่อวันใดที่ชีวิตรักมีปัญหา..ลองกลับไปนึกถึงวันแรกที่รักกันไว้ บอกตัวเองและคนของคุณไว้ว่าเราเคยรักกันอย่างไร..ให้ความหวานและความเอื้อ อาทรเก่าๆ คอยหล่อเลี้ยงใจกันไว้เสมอ...ความรักหายไปได้ แต่ความผูกพันจะคงอยู่เสมอ