หนุ่มอยากให้แขกสนุก ใส่กัญชาในเค้กวันเกิด นำไปสู่ปาร์ตี้หายนะ และจบลงที่ รพ.
เชื่อว่าเป็นเรื่องไม่ดีแน่นอน ที่ใครบางคนใส่ยาหรือสิ่งแปลกปลอมลงไปในอาหาร โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “ยาเสพย์ติด” เช่น “กัญชา” เพียงแค่คิดว่าให้ทุกที่มามีส่วนร่วมนั้นมีความสนุก โดยเฉพาะอย่างยิ่งแล้ว ถ้าแขกในงานอายุ 80 นั้นไม่ใช่เรื่องตลกแน่นอนเลยทีเดียวเชียว
แน่นอนว่า ใครๆก็ทราบดีว่า สรรพคุณของกัญชานั้น มีทั้งดีและให้โทษ ซึ้งหากใส่เพียงเล็กน้อย ก้อาจทำให้เคลิ้บเคลิ้มได้ แต่เรื่องราวต่อไปนี้ กลับไม่สนุก เพราะเจ้าภาพในงานปาร์ตี้วันเกิด ได้ใส่กัญชาลงในเค่กวันเกิด โดยหวังว่าจะให้แขกๆที่มาร่วมงาน (ที่ส่วนใหญ่เป็นผู้ใหญ่) นั้นได้สนุกสุดเหวี่ยง แต่สุดท้ายมันกลับเป็นงานปาร์ตี้หายนะที่ทุกคนไม่มีวันลืม เพราะต้องจบลงที่โรงพยาบาล ด้วยอาการ “เสพเกินขนาด” จนบางคนถึงหมดสติไปเลย
เรื่องราวนี้ได้ถูกบอกเล่าจากผู้อยู่ในเหตุการณ์ที่ชื่อว่า ไชล่า วัย 50 ปี เธอได้โทรมาเล่าเรื่องนี้กับทางสถานีวิทยุ 3AW ของประเทศออสเตรเลีย เมื่อช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2019 ที่ผ่านมา โดยเธอเล่าว่า ในตอนงานเริ่มนั้น ทุกคนในครอบครัวต่างกำลังมีความสุขและสนุกไปกับปาร์ตี้วันเกิดที่จัดขึ้น จนกระทั่งถึงเวลาเป่าเค้กวันเกิด และพวกเราก็ได้กินเค้กนั้นกันทุกคน
ไชล่าเล่าว่า มันเป็นเค้กที่ถูกตกแต่งด้วยผลไม้และช็อกโกแลต สีสันดูน่าทานเป็นอย่างมาก โดยพวกเขาไม่รู้เลยว่ามันมีส่วนอย่างอื่นแปลกปลอมอยู่ในนั้นด้วย ซึ่งก็คือ กัญชา นั่นเอง
ไชล่า เล่าว่า หลังจาก 1 ชั่วโมงที่เรากินเค้กไป หลังจากนั้นเธอก็เริ่มมีอาการคอบวมและมึนหัว โดยไม่ทราบว่ามันอาจเป็นเพราะอาการแพ้ หรือการรับเอากัญชาเข้าไปมากจนเกินไปหรือไม่ ส่วนพ่อแม่วัย 80 ปีของเธอ กลับมีอาการค่อนข้างหนัก คนหนึ่งอาเจียนออกมาอยู่หลายครั้งจนหยุดไม่ได้ และอีกคนก็เกิดอาการหัวใจเต้นแรง และหลังจากที่กินเค้กเข้าไปประมาณ 3 ชั่วโมง เธอและคนในครอบครัวคนอื่นๆ อีก 4 คนจึงถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลด้วยอาการ “เสพยาเกินขนาด”
เรื่องยังไม่จบเพียงเท่านั้น เพราะพวกเขาทุกคนที่ไปถึงโรงพยาบาลยังคงมีอาการเมาอยู่ ทำให้บางคนสลบไปบ้าง ป่วนเจ้าหน้าที่ในโรงพยาบาลบ้าง บางคนก็ไม่ได้สติพูดอะไรไร้สาระไปเรื่อยเปื่อย เพราะอาการเมากัญชา
หลังจากเหตุระทึกนี้ ทางผู้ก่อเหตุก็ได้ออกมายอมรับว่า เขาเป็นคนเอากัญชาใส่ลงไปในเค้กก้อนนั้นเอง โดยหวังว่ามันจะช่วยทำให้งานปาร์ตี้สนุกมากยิ่งขึ้น แต่หารู้ไม่ว่า งานปาร์ตี้ที่แสนสนุก กลับต้องมีมาจุดจบที่โรงพยาบาล และทำให้บางคนเกือบเอาชีวิตไม่รอด
***เป็นภาพใช้ประกอบเนื้อหาเท่านั้น
แหล่งที่มา: https://www.pluskhao.com