"ที่จอดรถหน้าบ้าน" เรามีสิทธิเเค่ไหน??
เรื่องที่จอดรถถือเป็นเรื่องใหญ่ของใครหลายคน เป็นเพื่อนบ้านกันอยู่ดีๆ นี่แหละ เเต่ต้องมาทะเลาะกันก็เพราะเรื่องที่จอดรถ ถึงขั้นยิงกันตายก็มีมาเเล้ว! ความจริงเเล้วเรื่องนี้ถ้ารู้สิทธิของตนว่าเป็นพื้นที่ส่วนกลาง ไม่มีสิทธิจอดตายหน้าบ้าน ก็ไม่น่ามีเรื่องร้ายเเรงอะไร
...เเล้วเรามีสิทธิเรื่อง “ที่จอดรถ” มากน้อยเเค่ไหน? อย่างไร?...
สิทธิพื้นที่จอดรถในหมูบ้านหรือคอนโดฯ นั้นก่อนอื่นเราต้องเข้าใจก่อนว่า...
“นอกรั้วบ้านหรือนอกห้องชุดเราไม่มีสิทธิใช้ประโยชน์ส่วนตัวได้ ยกเว้นการใช้ตามสภาพของสาธารณูปโภคส่วนกลางนั้น” เช่น
✱ ถนนที่ใช้เป็นทางสัญจรไม่ใช่ที่จอดรถ
✱ ที่กลับรถไม่ใช่ทำหลังคาที่จอดรถของบ้านหลังใดหลังหนึ่ง
✱ ถนนไม่ใช่ที่ตากผ้า
✱ สโมสรไม่ใช่ที่สำหรับดื่มสุรา พาเพื่อนมาปาร์ตี้ จนผู้อื่นเดือดร้อนรำคาญ
✱ ถนนไม่ใช่ที่ตั้งแป้นบาสเกตบอล ฯลฯ
การใช้งานนอกเหนือจากปกติเป็นเรื่องผิดวิสัย เจ้าของร่วมท่านอื่นย่อมมีสิทธิร้องเรียนตักเตือน ตัวเราเองก็ต้องระมัดระวังเรื่องนี้ด้วย
นอกจากปัญหาเรื่องที่จอดรถของหมู่บ้านเเล้ว ใครที่คิดจะซื้อคอนโดฯ ก็ดูเรื่องที่จอดรถให้ดีๆ กันนะจ๊ะ ยิ่งตอนจะทำสัญญาจะซื้อจะขายยิ่งต้องดูให้รอบคอบ เช่น หลังจากที่เราได้รับหนังสือแสดงกรรมสิทธิ์ห้องชุดมาแล้ว หากไม่มีระบุไว้ว่ารวมที่จอดรถขนาดเท่าไหร่ เเสดงว่าไม่มีที่จอดรถรวมอยู่ด้วยนะจ๊ะ ส่วนที่จอดรถที่เห็นๆ อยู่เป็นของใคร มีหลักง่ายๆ ว่าอะไรที่อยู่นอกเหนือกรรมสิทธิ์ห้องชุดจะเป็นทรัพย์สินส่วนกลางทั้งหมด
คอนโดฯ หลายเเห่งสร้างที่จอดรถเป็นส่วนกลาง ไม่ได้ระบุกรรมสิทธิ์ของห้องใดห้องหนึ่ง ใครมาก่อนก็จอดก่อน อารมณ์แบบห้างนั่นเเหละ หากไม่พอก็จอดซ้อนคันกันไป ลักษณะเเบบนี้ก็ถือเป็นทางออกของเจ้าของโครงการแบบหนึ่ง
ซึ่งถ้ามีปัญหาเกิดขึ้นก็ต้องแก้ไขด้วยมติที่ประชุมใหญ่สามัญประจำปี มีเจ้าของมาประชุมไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งเพื่อลงมติเรื่องการบริหารจัดการที่จอดรถ ไม่ว่าจะเช่า สิทธิการจอด เเย่งกันจอด หรือจะระบุทะเบียนตายตัว กำหนดโซน เก็บค่าเช่า หรือจอดฟรี รวมถึงถ้าเพื่อนหรือญาติมาจอดต้องทำอย่างไร เป็นต้น
สิ่งสำคัญเราอาจจะต้องแก้ตั้งเเต่ต้นเหตุของปัญหาเลยน่าจะดีที่สุด นั่นก็คือเรื่องสิทธิของเเต่ละคน หากเราไม่ล่วงล้ำสิทธิของคนอื่นย่อมไม่เกิดปัญหาตามมา รวมถึงโครงการเองก็ต้องคำนึงถึงเรื่องนี้เวลาออกแบบ เพื่อไม่ให้เป็นปัญหากับผู้อยู่อาศัยในภายหลัง
และอีกทางเลือกหนึ่งก็คือลองหันมาใช้ขนส่งสาธารณะดูบ้าง (ซึ่งตอนนี้กำลังอยู่ในช่วงพัฒนา) อาจเป็นทางออกที่ดีกว่า นอกจากจะไม่มีปัญหาเรื่องที่จอดรถเเล้ว ยังช่วยเซฟเรื่องค่าใช้จ่ายต่างๆ ได้อีกด้วย