รองเท้าเจ้ากรรม
2547
31/12/2547 จำได้ดี วันนั้นมีนัดทานข้าวกันที่ห้องพี่ชาย มีทั้งญาติฝั่งพี่ชายและฝั่งพี่สะใภ้ และเพื่อนที่เคยพักอยู่ด้วยกัน (ประมาณคนสนิทที่มาจากต่างจังหวัดเข้ามาทำงานในกรุงเทพ) ก่อนหน้าเดือนหนึ่งยังพักอยู่กับเพื่อนใกล้ห้องพี่ชาย แล้วย้ายมาอยู่รามสอง ของยังขนไปไม่หมด ก็ทานข้าวกันและดื่มด้วย ประมาณสี่ทุ่มกว่าเพื่อนในกลุ่มอีกคนเลิกงานก็มาเป็นคนสุดท้ายพร้อมแฟนสาวขาวจั๊ว ถอดรองเท้าแล้วก็เดินถือรองเท้าเข้ามา ผมก็หันไปแล้วก็เยปากไป "รีบเลยมาช้าคนอื่นนำไปไกลแล้วพี่บ่าว" แต่สายตาก็ไปสะดุดกับรองเท้าคู่ที่เพื่อนถือในมือ มันสวยดีว่ะ มันคล้ายร้องเท้าของเราเลย (เพื่อนคนมาใหม่ยิ้มให้เพื่อนคนที่เราเคยพักด้วย) เราสงสัยอยู่นานมันคล้ายมาก เลยถามเพื่อนคนที่เราเคยพักด้วยว่าพี่ร้องเท้าไอ้แก่เหมือนของผมจัง ซื้อใจตรงกันเลย (สนิทกันเลยเรียกไอ้แก่) เพื่อนก็ยิ้มหัวเราะ แล้วพูดว่า "ก็มันร้องเท้าเอ็งนั่นแหล่ะ" ใจสลายเลยตอนนั้นทะเลาะกันรุ่นแรงเลย ร้องเท้าใหม่เก็บตังค์ตั้งนานกว่าจะซื้อได้ ซื้อไว้ยังไม่ได้ใส่เลยก่ะไว้ใส่วันขึ้นปีใหม่ เราโวยวายหนักมากเลย แต่พี่ชายกลับพูดมาว่าจะอะไรหนักหนากับอีแค่เรื่องร้องเท้า เพื่อนเลยพูดว่าเดี๋ยวจ่ายให้สามร้อย ค่าใส่ร้องเท้า ความรู้สึกมันไม่ใช่ว่ะ ของใหม่ของเรา แต่กลับไม่ได้ใส่คนแรก แต่กลับมีคนอื่นใส่คนแรก แถมมันเอาวิสาสะอะไรทำแบบนี้ (มันแวะมาหาเพื่อนอีกคนแล้วเห็นรองเท้าในกล่องเลยเอาไปใส่) เราบอกเลยรับไม่ได้ บอกให้เอารองเท้าไปแล้วจ่ายตังค์มา มันไม่ยอมแล้วบอกว่าไม่เอามันแพงจ่ายไม่ไหว แล้วยังพูดต่ออีกว่าเรื่องแค่นี้ต้องขนาดนี้เลยเหรอ แถมคนอื่นก็พยามบอกเราว่าอย่าขนาดนั้นเลย ที่เด็ดคือพี่ชายดันบอกว่าเราไร้สาระ โวยอะไรหนักหนาอีแค่ร้องเท้า (ไม่มีใครเข้าใจตุ้มเลย) เดินจับรองเท้าเดินออกจากห้อง เดิน ไปถึงข้างถังขยะเอากระดาษสุมไฟเผาชะ 3,999 บาท ไหม้ไปในพริบตา เป็นการส่งท้ายปีอีกครั้งในชีวิตที่ยากจะลืม แล้วไม่เจอคนพวกนี้ไปอีกเกือบสองปี