แลผ่านเลนส์ของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่
(รูปรัชกาลที่ 5 จากหนังสือ Je sais tout ปี 1907)
บันทึกประวัติศาสตร์ ผ่านภาพถ่ายฝีพระหัตถ์
"เวลาเช้าไปถ่ายรูปที่สวนเปนการทดลอง เพราะพ่อได้กล้องใหม่เรียกว่าปัลโมส์ เปนกล้องที่ใช้ม่านตั้งง่ายเป็นที่สุด แลรูปได้ดีที่สุด รักเหลือเกิน เปนกล้องที่คิดจะเอาไปใช้ที่นอร์เวย์ พ่อได้ถ่ายเห็นดีเข้าคิดถึงกรมดำรง (สมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ) ก่อนคนอื่น ตกลงใจว่ากล้องชักรูปอย่างนี้ เปนของที่ควรหาไปฝากพวกที่เล่นซักรูปด้วยกันได้ จะวานหมอฟิสเตอร์สั่งออกนึกว่า ตาหมอแกจะเห็นเราคลั่งอะไรจึงต้องอธิบายเสียก่อนว่าจะเอาไปให้พวกพ้องที่ชอบถ่ายรูปกัน"
(พระราชหัตถเลขาถึงสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้านิภานภดล จากหนังสือพระราชนิพนธ์ ไกลบ้าน)
ล้นเกล้าฯรัชกาลที่๕ กษัตริย์ผู้ทรงล้ำสมัย
(พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดการถ่ายภาพมาก ดังเห็นได้ว่าการประพาสหัวเมืองต่างๆ นั้น พระองค์ทรงนำกล้องถ่ายรูปติดพระองค์ไปด้วยเสมอ ถาพนี้ฉายขณะประทับที่พระราชวังบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา)
บรรยากาศในสมัยรัชกาลที่ ๕ นับว่าเอื้ออำนวยให้เทคโนโลยีการถ่ายภาพก้าวหน้าอย่างแท้จริง ทั้งหนังสือพิมพ์ทั่วไปซึ่งจากเดิมใช้ภาพพิมพ์แม้พิมพ์สลักเอนเกรฟวิ่ง (Engraving) ต่างก็เริ่มหันมาใช้ภาพถ่ายในการตีพิมพ์มากขึ้น เนื่องจากช่วงวิกฤติสงครามโลกทำให้เกิดภาวะข้าวยากหมากแพงทั้งหมึกและกระดาษมีราคาสูง เทคโนโลยีแม่พิมพ์แบบเดิมจึงมีราคาสูง ทั้งวิธีการก็ยุ่งยากจึงไม่ตอบโจทย์อีกต่อไป
ช่วงเวลานั้นทั่วโลกต่างเดินทางออกไปแสวงหาโอกาสยังประเทศต่างๆเป็นจำนวนมาก โดยบางส่วนได้เข้ามายังประเทศไทย ซึ่งเป็นประเทศเอกราชเพียงหนึ่งเดียวแถบนี้ ความที่สังคมไทยเปิดรับวัฒนธรรมตะวันตกในแบบที่พอดี มีความระมัดระวัง แต่ไม่ได้เข้มงวดมากเกินไปทำให้เปิดรับความก้าวหน้าใหม่ๆ ได้ง่าย
เริ่มมีช่างชาวต่างชาติหลากหลายมาเปิดสตูดิโอในกรุงเทพฯ ผนวกกับความสนพระราชหฤทัยในเทคโนโลยีการถ่ายภาพอย่างแท้จริงของพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๕ ยิ่งทำให้ความนิยิมการถ่ายภาพนั้นแพร่หลาย "ยุคทอง" ของการถ่ายภาพในเมืองไทยจึงเริ่มต้นขึ้น
แต่แม้จะเปิดกว้าง เมื่อแรกเริ่มที่การถ่ายภาพเข้ามาในประเทศไทยนั้น คนไทยทั่วไปยังกลัวการถ่ายภาพอยู่มาก จากที่สมเด็จฯ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ทรงกล่าวเกี่ยวกับการถ่ายถาพในยุคนั้นว่า "หม่อมฉันเคยได้ยินคำเล่าว่าเมื่อแรกมีช่างถ่ายรูปพระฉายาลักษณ์เข้ามามิมีใครยอมให้ถ่ายด้วยเกรงว่าจะเอารูปไปใช้ทำร้ายด้วยกฤตยาคม"
(ภาพถ่ายโดย จอห์น ทอมสัน)
ความเชื่อนี้ได้จางหายไปเมื่อพระบามสมเด็จพระจอลเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๔ เป็นพระเจ้าแผ่นดินสยามพระองค์แรกที่ทรงยอมให้ฉายาลักษณ์ ด้วยพระราชดำริที่นำสมัยเช่นนี้ส่งผลให้พระโอรสและพระราชธิดารวมถึงล้นเกล้าฯรัชกาลที่ ๕ ไม่ทรงหวาดกลัวใดๆ ซ้ำยังคุ้นเคยกับกล้องเป็นอย่างดี โดยเริ่มจากความชอบในการทรงเป็นแบบให้ถ่ายภาพ
(4 มกราคม 2408 : พระราชพิธีโสกันต์เจ้าฟ้าจุฬาลงกรณ์ (รัชกาลที่ 5)
จะเห็นได้จากเมื่อครั้งยังทรงพระเยาว์ พระองค์ทรงอนุญาติให้ช่างภาพทั้งไทยและต่างชาติถ่ายรูปพระราชพิธีโสกันต์ ทั้งยังมีพระบรมฉายาลักษณ์ที่ล้วนงามสง่าในช่วงวัยต่างๆ ปรากฏให้เห็นต่อเนื่อง จากการสนพระราชหฤทัยในการเป็นแบบถ่ายภาพนี้เองที่สร้างแรงบัลดาลใจให้ทรงศึกษาการถ่ายภาพเพิ่มขึ้นอย่างจริงจัง กระทั่งในปี พ.ศ. ๒๔๔๗ ที่นับเป็นปีทองของการถ่ายรูปในรัชสมัยของพระองค์
อาเซียนเนื้อหอม! เจาะเหตุผลทำไม บังกลาเทศ-ปาปัวนิวกินี-ฟิจิ อยากเข้าใกล้ครอบครัวเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
สถิติหวย ย้อนหลัง 10 ปี เลขท้าย 2 ตัว งวด 30 ธันวาคม
เจาะเลขเด็ดปกสลาก งวด 2 ม.ค. 69 ต้อนรับปีใหม่ปีมะเมียทอง
BBC ยกให้ "กรุงพนมเปญ" ติด TOP20..ปลายทางที่ดีที่สุดในโลก
วิมานบนดินที่ไร้เงาเจ้าของ เจาะปมคฤหาสน์ลอยฟ้า 658 ล้านที่กลายเป็นเพียงอนุสรณ์แห่งความล้มเหลว
ทหารไทยโค่น "รูปปั้นเขมร" หลังจากยึดแผ่นดินไทยคืนได้สำเร็จ
ช่องอานม้าแตก! ทหารไทยรุกยึดบังเกอร์ ปักธงชาติคืนพื้นที่
เขมรไม่มีคิดหยุด แต่คิดว่าจะรบไทยให้ชนะด้วย F-35 ได้อย่างไรในอนาคต
สูตรคำนวณงวด 2/1/69
สอยอีกหนึ่ง นายพลเขมรร่วง อีกราย
เอกสารลับ หลุด แฉคําสั่ง แผนสังหๅร 2 พ่อลูกตระกลูฮุน
เดือดข้ามคืน ทหารไทยเปิดฉากยิง ก่อนระดมปืนใหญ่ถล่มฐานทหารกัมพูชาพื้นที่ปอยเปต
ช่องอานม้าแตก! ทหารไทยรุกยึดบังเกอร์ ปักธงชาติคืนพื้นที่
ทฤษฎี 3 เดือน ทฤษฎีของการเริ่มต้นทำอะไรใหม่ ๆ
ญี่ปุ่นยกระดับเกณฑ์การขอวีซ่าถาวร! จะเพิ่มความสามารถทางภาษาญี่ปุ่นเป็นหนึ่งในข้อกำหนดสำหรับการยื่นขอใบอนุญาต
เครื่องบินรบไทยรุ่นใหม่ T50TH ลงสนามจริงครั้งแรกผลงานประทับใจ








