ตำรวจนายหนึ่ง บอกร้านอาหารว่า “เดี๋ยวจะมีคนมากินข้าว ผมจะจ่ายเอง” พอเห็นคนที่มากิน เจ้าของร้านถึงกับชื่นชม
ชีวิตของคนเรามักจะมีขึ้นมีลงอยู่เสมอ ย่อมมีโอกาสจะพบกับสถานการณ์ที่ลำบากและผิดหวัง ถ้ามีใครบางคนเต็มใจที่จะช่วยเหลือเราในยามเราลำบาก เราควรขอบคุณและตอบแทนคนคนนี้ด้วยความจริงใจ
เพจดังของไต้หวันได้โพสต์เรื่องราวที่น่าประทับใจที่เกิดขึ้นในร้านอาหารแห่งหนึ่งของไต้หวัน เจ้าของร้านเล่าว่า วันนั้น มีตำรวจหนุ่มคนหนึ่งเดินเข้ามาในร้าน และบอกกับตัวเองว่า “เดี๋ยวจะมีคนมาทานข้าวในร้าน ผมจะเป็นคนจ่ายค่าข้าวให้”
เนื่องจากตำรวจหนุ่มคนนี้สังเกตเห็นชายจรจัดที่นั่งอยู่ข้างถนน เมื่อเข้าไปสอบถามก็ได้รู้ว่า ชายคนนั้นเดินทางจากต่างจังหวัดมาเพื่อหางานทำ แต่ประสบอุบัติเหตุโดนน้ำร้อนลวกขาเลยตกงาน ไม่มีญาติและเพื่อน จึงกลายเป็นคนจรจัดอย่างที่เห็น เขาไม่ได้ทานข้าวมาหลายวันแล้ว
เจ้าของร้านเล่าว่า เมื่อชายจรจัดเดินขาเป๋เข้ามาในร้าน ตำรวจหนุ่มช่วยจ่ายเงินให้เขาเสร็จ แล้วก็เดินเข้าไปนั่งคุยกับชายจรจัดนานกว่า 5 นาที ตำรวจหนุ่มคนนี้กล่าวว่า “ผมบอกเขาว่าชีวิตคนเราต้องเจอความยากลำบากมากมาย เราต้องกล้าพอที่จะเดินออกจากสถานการณ์ที่ยากลำบากนั้น เขาบอกผมว่าพ่อแม่ของเขาจากไปแล้ว เขาไม่เหลือใคร ผมเลยบอกเขาว่าพ่อแม่ของผมก็ไม่อยู่แล้วเหมือนกัน ถ้าพ่อแม่ได้เห็นสภาพที่เขาเป็นอยู่ในตอนนี้ คงต้องรู้สึกเสียใจแน่นอน”
เมื่อเจ้าของร้านรู้ว่าตำรวจหนุ่มจะช่วยคนจรจัด เลยตัดสินใจว่าจะไม่คิดเงิน แถมยังจัดเตรียมอาหารเย็นให้กับชายจรจัดอีกด้วย ตำรวจหนุ่มยังได้เอาเงินให้เขาไปหาหมอ ทำเอาชายจรจัดซึ้งจนร้องไห้ออกมา แล้วตำรวจยังบอกกับเขาว่า เขาสามารถไปหาที่สถานีตำรวจได้ยามที่เขามีปัญหาจริงๆ
หลังจากเรื่องราวที่น่าประทับใจนี้ถูกเผยแพร่ในเฟส ก็มีชาวเน็ตจำนวนมากให้ความสนใจกับเรื่องนี้ หลังจากค้นหาข้อมูลดู ก็พบว่าตำรวจหนุ่มคนนี้มีชื่อว่า Lai Qinwen อายุ 33 ปี เคยทำงานเป็นพักงานขายและเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยมาก่อน หลังผ่านการทดสอบพิเศษ ก็ได้กลายเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจท้องถิ่น หลังจากปฏิบัติงานเพียง 2 เดือน ก็มีผลงานมากมาย เช่นคดี ขโมยรถบัส ช่วยผู้ประสบภัยตามหาเงินกว่า 30,000 คืนมา คดีบัตรเครดิตที่ถูกขโมย เป็นต้น
ตำรวจหนุ่มคนนี้กล่าวว่า เขาเองก็เคยประสบความยากลำบากมามากมาย เขาเข้าใจความรู้สึกของคนจรจัดที่นั่งอยู่ข้างถนนจริงๆ “สมัยยังเป็นเด็ก ครอบครัวของผมยากจนมาก ผมก็เคยตกงานมาก่อนเช่นกัน ตอนนี้เราสามารถช่วยเหลือเขาได้ ก็ลงมือทำเถอะ”
เรื่องราวของเจ้าหน้าที่ตำรวจผู้ใจดีคนนี้ทำเอาคนมากมายรู้สึกประทับใจ เราก็เคยลำบากมาเช่นกัน ถ้ามีความสามารถ ก็อย่าลืมช่วยเหลือคนที่ต้องการนะคะ