โหมโรงช้างศึก...ฤาจะซ้ำรอย "เทพนิยายกรีก"
ความแตกต่างที่คล้ายกัน : หากย้อนกลับไปเมื่อปี 2004 หรือถ้าคำนวณก็จะ...เมื่อ 15 ปีที่แล้ว ศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป "ยูโร 2004" ทีมชาติกรีซ ได้สร้างปาฏิหารย์ครั้งยิ่งใหญ่ด้วยการเป็นเจ้ายุโรปแบบช็อคสายตาแฟนบอลทั่วโลก จนเกิดเป็น "เทพนิยายกรีซ" ที่แฟนบอลกรีซจะต้องจดจำไปอีกนานแสนนานตราบชั่วฟ้าดินสลาย
ในรอบแบ่งกลุ่ม กรีซ อยู่ในกลุ่ม เอ ร่วมกับเจ้าภาพ โปรตุเกส (ในขณะที่ไทย อยู่กลุ่ม เอ ร่วมกับเจ้าภาพ ยูเออี) เกมนัดเปิดสนาม กรีซ ทำแสบด้วยการเอาชนะเจ้าภาพโปรตุเกส 2-1 จากนั้นนัดที่สองยันเสมอกับ สเปน 1-1 ทำให้เก็บ 4 แต้มจาก 2 เกมแรก
ซึ่งเกมสุดท้าย กรีซ เกือบที่จะไม่ผ่านเข้ารอบต่อไปหลังแพ้ให้กับ รัสเซีย 1-2 แต่ผลของอีกคู่ สเปน ก็แพ้ให้กับเจ้าภาพโปรตุเกส 0-1 ทำให้ กรีซ ผ่านเข้ารอบต่อน็อคเอ๊าท์ด้วยการเป็นอันดับ 2 ของกลุ่ม เอ (คล้ายๆกับไทย ที่เก็บ 4 แต้ม ชนะ 1 เสมอ 1 แพ้ 1 เข้ารอบเป็นอันดับ 2 ของกลุ่ม เอ เหมือนกัน)
ในรอบก่อนรองชนะเลิศ กรีซ ผ่านเข้ามาเจอกับ กระดูกชิ้นโต๊โต....ฝรั่งเศส แชมป์เก่าในปี 2000 ที่มีทั้ง ซีเนอดีน ซีดาน , เธียร์รี่ อองรี , โรแบร์ ปิแรส , ดาวิด เทรเซเก้ แต่ กรีซ ก็สร้างปาฏิหารย์หลังเฉือนเอาชนะแชมป์เก่าด้วยสกอร์ 1-0 (รอบ 16 ทีม ไทย เจอ จีน รองแชมป์เอเชี่ยนคัพ 2 สมัย หากเข้ารอบ 8 ทีมมีสิทธิ์เจอ อิหร่าน แชมป์เอเชี่ยนคัพ 3 สมัย)
จากนั้นรอบ 4 ทีมสุดท้าย กรีซ พบกับ เช็ก ที่ในเวลานั้นมีดาวดังอย่าง พาเวล เน็ดเวด , ปีเตอร์ เช็ก , มิลาน บารอส , คาเรล โพบอร์สกี้ และ แยน โคลเลอร์ ตลอด 90 นาที กรีซยันเสมอ เช็ก 0-0 ก่อนต่อเวลาพิเศษปาฏิหารย์ก็เกิดขึ้นเมื่อ กรีซ ได้ประตูในนาทีที่ 105 ของการแข่งขันส่งให้เช็ก ตกรอบไปอย่างเหลือเชื่อ (หาก ไทย ทะลุถึงรอบตัดเชือกมีสิทธิ์เจอ ญี่ปุ่น)
ก่อนที่รอบชิงชนะเลิศ กรีซ ต้องโคจรมาเจอกับเจ้าภาพโปรตุเกส อีกครั้ง (ไทย มีสิทธ์เจอเจ้าภาพยูเออี หากเข้าถึงรอบชิงฯอีกครั้งเช่นกัน) โดย กรีซ ทำให้แฟนบอลเจ้าภาพน้ำตาร่วงเมื่อเอาชนะ โปรตุเกส 1-0
ทำให้ กรีซ คว้าแชมป์ยูโร 2004 ได้อย่างปาฏิหารย์ ทั้งที่บ่อนชูให้เป็นเต็งบ๊วยจาก 16 ทีมในรอบสุดท้ายตั้งแต่ก่อนเริ่มทัวร์นาเม้นต์ (ไทย เป็นเต็ง 12 จากทั้งหมด 24 ทีม) และเป็นแชมป์ครั้งแรกของ กรีซ อีกด้วย (ไทย ยังไม่เคยเป็นแชมป์เอเชี่ยนคัพ แต่ครั้งนี้ยังอยู่ในเส้นทาง)
อย่างไรก็ตามทั้งหมดที่ว่ามานี้คือ "อุปมาอุปมัยเท่านั้น" ควรใช้วิจารณญาณในการกวาดสายตาอ่าน เพราะเส้นทางความเป็นจริงของทัพ "ช้างศึก" ทีมชาติไทย นั้นเต็มไปด้วยอุปสรรคมากมายเหลือเกิน จากที่ว่าจะตกรอบตั้งแต่เกมแรกหลังแพ้
อินเดีย 1-4 กลับตาลปัตรเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ ผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายได้อย่างไม่น่าเชื่อ
ยังเหลืออีก 4 ด่านหากจะนั่งแท่นบังลังก์แชมป์เอเชีย คงต้องมองเกมต่อเกม เล่นทุกนัดให้เหมือนรอบชิงชนะเลิศ เพราะความหวังของนักเตะไทยชุดนี้คืออยากผ่านเข้ารอบให้ลึกที่สุดเท่าที่จะเป็นได้ แถมพร้อมทุบหม้อข้าวสู้ถวายหัวเล่นเพื่อชาติในแต่ละเกมที่เหลืออยู่อีกด้วย
เอาเป็นว่าเกมกับทัพ "มังกร" ทีมชาติจีน หากขุนพลลุ่มน้ำเจ้าพระยา สามารถหักด่านนี้ไปได้ หนทางการคว้าแชมป์เอเชียเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์เหมือนกับ กรีซ ที่เคยพิชิตแชมป์ยุโรปครั้งแรกมาแล้ว อะไรก็เกิดขึ้นได้กับฟุตบอลลูกกลมๆ
แฟนบอลชาวไทยอย่าลืมส่งร่วมส่งกำลังใจเชียร์แข้งช้างศึก ในวันอาทิตย์ที่ 20
ม.ค.62 เวลา 21.00 น. ตามเวลาประเทศไทย