เมื่อไม่นานมานี้เว็บไซต์ต่างประเทศได้
เราตั้งท้องเลยเอาข้าวกล่องไปกินที่ทำงาน เผลอหยิบกล่องที่แม่สามีทำให้น้องสามี เปิดดูก็ต้องน้ำตาคลอ
(เป็นเพียงภาพประกอบเท่านั้น)
จากนั้นก็ส่งเงินมาให้ทุกเดือน หลายปีแล้วที่พ่อไม่เคยกลับมาเลย จนเราจำความรู้สึกที่มีให้พ่อไม่ได้เท่าไหร่แล้ว ลุงกับป้าดีกับเราเหมือนเป็นลูกแท้ๆ แม้ว่าเราจะไม่ใช่ลูกพวกเขา แต่ก็มีความสุขมาก พอเราโตพอจะทำงาน เราก็ออกมาจากบ้านนั้น แต่ก็ยังกลับไปเยี่ยมไปคุยด้วยทุกเดือน
(เป็นเพียงภาพประกอบเท่านั้น)
ออกมาทำงาน เราได้รู้จักกับเจียสามีของเรา ตอนนั้นเราเป็นเด็กใหม่ เขาเป็นผู้จัดการ เขาเอาใจใส่เด็กใหม่ดีมาก ดูแลงานแต่ละส่วนด้วยตัวเอง ถ้ามีปัญหาเขาก็จะรีบแก้ไขทันที เขาเป็นคนอบอุ่น เอาใจใส่ดูแลดี เราแอบชอบเขามาโดยตลอด แต่ไม่กล้าบอกออกไป จนวันนึงเราทำโอทีแล้วไฟดับ เขาเป็นห่วงเรามากเป็นพิเศษ ทำให้พวกเราเห็นความห่วงใยของกันและกัน และก็เริ่มคบหากัน
พวกเราคบกันมาได้ 3 ปีแล้ว แม้ว่าเงินทองจะไม่ค่อยพอใช้ แต่เขาก็มอบสิ่งที่ดีที่สุดให้เราเสมอ วันวาเลนไทน์ เขาขอเราแต่งงาน เราตอบตกลง พวกเราใช้เงินที่เก็บมาก่อนหน้านี้ ซื้อบ้านหลังเล็กๆ แม้ว่าจะเล็กมาก แต่ก็อบอุ่น พอตกแต่งทำบ้านใหม่เสร็จ พวกเราก็ย้ายเข้าไปอยู่ เนื่องจากเราก็งานยุ่ง ไม่มีเวลาดูแลทำความสะอาดบ้าน พวกเราก็เลยไปรับแม่สามีมาอยู่ด้วย ซึ่งแกก็ยินดีมาช่วยพวกเรา เพราะเราขาดแม่ตั้งแต่เล็กๆ เราก็เลยรักแม่สามีเรามาก แกช่วยทำความสะอาดบ้านอย่างดี ทำอาหารก็อร่อย ผ่านไปครึ่งปี น้องสามีเราเรียนจบมหาวิทยาลัย เขามาหางานทำในเมือง ก็มาอยู่บ้านเราด้วย ครอบครัวเรามีความสุขมาก
(เป็นเพียงภาพประกอบเท่านั้น)
วันนั้นก็เหมือนวันปกติทั่วไป เราเลิกงานกลับมาบ้าน ได้กลิ่นแม่สามีทำอาหาร ก็รู้สึกคลื่นไส้มาก แต่เราก็ไม่ได้คิดอะไรมาก นึกว่าเพราะตอนกลางวันกินเยอะไป จึงรีบวิ่งไปอาเจียนในห้องน้ำ เหตุการณ์เกิดขึ้นหลายครั้งจนสามีถามว่าตั้งท้องรึเปล่า เราก็คิดว่าน่าจะเป็นไปได้ พลันนึกออกว่าประจำเดือนไม่มานานแล้ว เราบอกให้เจียแวะซื้อที่ตรวจครรภ์ตอนกลับมาบ้าน นึกไม่ถึงว่าพอเขาได้ยินอย่างนั้นก็รีบลางานกลับมาบ้านทันที เพื่อพาเราไปโรงพยาบาล เราก็ปฏิเสธไม่ได้ หลังตรวจเสร็จ ก็พบว่าเราท้องจริงๆ เรามัวแต่ทำงานยุ่ง จนไม่ได้สังเกต
พอคุณหมอยืนยันแม่สามีก็ดีใจมาก กลับมาถึงบ้าน แกก็บอกให้ระวังห้ามทำนู่นนี่ แกยังบอกให้เจียระวังด้วย แกไม่ยอมให้เราแตะงานบ้านเลย พวกเขาบอกให้เราลางาน แต่เราคิดว่าแค่สองเดือนเอง อยู่บ้านก็เบื่อไม่มีอะไรทำ เราถกกับพวกเขาเรื่องงาน ต่อมาเราก็เลยถูกส่งไปทำงานเอกสารแทน พวกเขาเห็นว่างานไม่หนักมาก ก็เลยยอม
ตั้งแต่เราตั้งท้อง แม่สามีก็ใส่ใจอาหารการกินของเราเป็นพิเศษ ทุกวันจะตื่นแต่เช้ามาทำอาหารเช้าให้ บางครั้งตอนกลางวันไม่ได้กลับบ้าน แกก็เอาข้าวกล่องมาส่งให้ที่บริษัท เรากลัวว่าแกจะเหนื่อยเกินไป บอกว่าเรากินข้างนอกเองก็ได้ แต่แกก็บอกว่าอาหารข้างนอกไม่สะอาด แกไม่วางใจ แกยังยืนกรานที่จะทำให้ เราก็ไม่รู้จะว่ายังไง
วันนั้นตื่นมา เราก็ทำตัวตามปกติ แล้วก็เอาข้าวกล่องอาหารกลางวันที่แม่สามีเตรียมไว้ให้ไปทำงานด้วย เพราะปกติแม่สามีทำเสร็จก็จะวางไว้ตรงนั้น เราเห็นว่าวันนี้แกยุ่ง หยิบข้าวกล่องได้ก็เลยออกมาเลย พอถึงตอนเที่ยง เปิดออกดูก็เห็นว่าเป็นแค่ผัดผักจืดๆไม่มีสารอาหารอะไร
(เป็นเพียงภาพประกอบเท่านั้น)
เราถึงได้รู้ว่าแม่สามีทำอาหารให้เรากับน้องสาวสามีไม่เหมือนกัน เพราะเราตั้งท้อง ทุกวันแกจะทำอาหารที่มีประโยชน์และมีซุปให้ ส่วนน้องสาวสามีกินแค่ผัดผักกับข้าว วันนั้นน้องสาวสามีกลับมาบ้านบอกว่าปกติอาหารกลางวันไม่มีอะไร ทำไมวันนี้สมบูรณ์จัง เราได้ยินก็น้ำตาคลอด ถึงแม้เราจะไม่ใช่ลูกสาวแท้ๆ แต่แม่สามีดีกับเรามากกว่าลูกสาวแท้ๆ ของแกอีก เราซาบซึ้งมาก กลับไปบ้านสวมกอดแกทันที