รวมภาพ 20 ตึกมหัศจรรย์ ที่ครั้งหนึ่งในชีวิตต้องไปเยือนให้ได้
อาคารดอกบัว ในเขตอู่จิ้น ประเทศจีน ได้รับการออกแบบและสร้างโดย บริษัท Studio 505 ของออสเตรเลีย อาคารนี้เป็นที่ตั้งของสำนักงานผังเมือง จึงทำให้กลายเป็นสถาบันของรัฐบาลที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งในโลก
ที่เมืองซานดัมในเนเธอร์แลนด์ มีชื่อเสียงอย่างมากในการรักษาสไตล์บ้านดัตช์แบบดั้งเดิมเอาไว้ ตัวอย่างเช่นโรงแรม Inntel ที่มีแนวคิดในการใช้สไตล์บ้านแบบเก่า มาประยุกต์ตกแต่งให้เป็นเป็นสไตล์ใหม่ ที่ยังคงเอกลักษณ์เดิมเอาไว้ ซึ่งสไตล์การออกแบบดังกล่าวทำให้โรงแรมแห่งนี้มีชื่อเสียงมากจนเป็นที่นิยมของเหล่านักท่องเที่ยว
นี่ไม่ใช่ตึกแห่งแรกที่สามารถเคลื่อนที่หรือหมุนได้ แต่เป็นตึกระฟ้าแห่งแรกที่ทำเช่นนั้นได้! ซึ่งตึกแห่งนี้ตั้งอยู่ในดูไบ แต่ละห้องสามารถหมุนได้อย่างอิสระด้วยความเร็วที่สามารถปรับได้ ขึ้นอยู่กับความต้องการ!
ขณะที่เราอยู่ที่ดูไบลองมาดูที่อาคารรูปพระจันทร์เสี้ยวนี้ ดูไบมีตึกระฟ้าสูงที่สุดในโลกและเป็นห้างสรรพสินค้าที่ใหญ่ที่สุด แต่ในไม่ช้าจะมีอาคารรูปดวงจันทร์เพียงแห่งเดียวเท่านั้น ตัวอาคารมีทั้งหมด 33 ชั้นอาคารประกอบด้วยห้องสมุดสำหรับเด็ก ห้องอาหาร ห้องประชุม บาร์และคอนโดหรู
พิพิธภัณฑ์ศิลปะสมัยใหม่แห่งนี้เรียกว่า the Kunsthaus ตั้งอยู่ในเมือง Graz ประเทศออสเตรีย แต่มีชื่อเรียกเล่นๆว่า "Friendly Alien" บางคนก็เห็นว่าเหมือนกับหัวใจของปลาวาฬ หรือบ้างก็ว่าเหมือนเรือเหาะ ใครที่ชอบอะไรแปลกๆแบบนี้ไม่ควรพลาด
The Markthal ตั้งอยู่ในเมือง Rotterdam ตัวอาคารสร้างขึ้นลักษณะคล้ายกับอุโมงค์ ทั้ง 2 ด้านของตัวอาคารถูกปิดผนึกด้วยกระจก ผนังด้านในอาคารมีภาพจิตรกรรมฝาผนังโดย Arno Coenen
ตึกรูปร่างคล้ายอะตอมในกรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม มีลักษณะเป็นประติมากรรม ภายในอาคารมีพิพิธภัณฑ์และร้านอาหาร เหมาะแก่การไปเที่ยวชมจริงๆ
La Muralla Roja ในเมือง Calpe ประเทศสเปน แปลว่า "กำแพงสีแดง" ภาพในถูกทาตัดไปด้วยสีฟ้าและม่วง ด้านบนดาดฟ้ามีวิวทะเล ช่างสวยงามอะไรเช่นนี้
The Capital Gate เป็นอาคารที่สูงที่สุดแห่งหนึ่งในอาบูดาบี ได้รับการรับรองจาก Guinness World Records ว่าเป็น "อาคารที่มีความลาดเอียงมากที่สุดในโลก" ถึง 18 องศา (เมื่อเปรียบเทียบกับหอเอน Pisa ที่มีความลาดเอียงเพียง 4 องศา)
พิพิธภัณฑ์ ArtScience ในสิงคโปร์ มีลักษณะเป็นอาคารรูปปาล์มขนาดเล็กที่ด้านซ้ายของภาพ ถึงแม้อาจดูเล็กไปซักหน่อย เมื่อเปรียบเทียบกับโรงแรมมารีน่าเบย์แซนด์ แต่เส้นโค้งของมันช่างมีสเน่ห์เหลือเกิน!
ในดาลัตประเทศเวียดนาม อาคารแห่งนี้มีชื่อเรียกว่า Fairytale House การออกแบบโดยรวมของมันคล้ายกับต้นไม้ยักษ์ ซึ่งรวมเอาองค์ประกอบของการออกแบบประติมากรรมที่มีลักษณะทางธรรมชาติเข้าไว้ด้วยกัน
สถาปนิก James Law ได้กำหนดคำว่า Cybertecture เพื่อระบุการผสมผสานของสถาปัตยกรรมการออกแบบด้านสิ่งแวดล้อม วิศวกรรม นวัตกรรมและระบบอัจฉริยะที่จำเป็นเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้คนและสร้างสภาพแวดล้อมเมืองใหม่ขึ้นมา
อพาร์ทเมนท์ที่สร้างความสับสนเล็กน้อยนี้ เรียกว่า Cubic Houses ใน Rotterdam ถูกสร้างขึ้นโดยสถาปนิก Piet Blom ผนังและหน้าต่างทั้งหมดมีมุม 45 องศา เป็นอะไรที่แปลกจริงๆ!
ศูนย์วัฒนธรรม Heydar Aliyev ในบากู ประเทศอาเซอร์ไบจานได้รับการออกแบบโดย Zaha Hadid
โรงแรมแห่งนี้ได้รับการออกแบบโดย Andrii Rozhko เป็นผู้วางแผนสร้างซุ้มกระจกลงไปในสันเขาของเทือกเขาแอลป์ เพื่อเชื่อมต่อระหว่างสองหน้าผาเข้าด้วยกัน
เมืองศิลปศาสตร์และวิทยาศาสตร์ในเมืองวาเลนเซียประเทศสเปนตั้งอยู่ที่ปลายสุดของแม่น้ำเทรวีก่อนและถือว่าเป็นหนึ่งใน 12 สมบัติของสเปน ได้รับการออกแบบโดย Santiago Calatrava และ Félix Candela อาคารแห่งนี้สร้างความประทับใจแก่ผู้คนเป็นอย่างมาก ในรูปแบบของโครงกระดูกของปลา
เปียโนยักษ์และไวโอลินตัวนี้สร้างขึ้นในปี 2550 ในเมืองหวงซานประเทศจีนได้รับการขนานนามว่าเป็น "อาคารอันโรแมนติคที่สุดในประเทศจีน" ออกแบบโดยสถาปนิกที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีเหอเฟย์
ในเมืองเล็ก ๆ ของ Tirau ประเทศนิวซีแลนด์ เป็นที่ตั้งของอาคารรูปสัตว์ขนาดมหึมา ภายในมีศูนย์นักท่องเที่ยว ร้านขายผ้าขนสัตว์ และงานฝีมือ
เกือบทุกคนเคยได้ยินเกี่ยวกับผลงานที่มีชื่อเสียงของ Gaudí เช่น Parc Güell และ Sagrada Familia แต่ทุกคนคงไม่ได้ตระหนักถึง Casa Battlo (ภาพด้านล่าง) ชื่อท้องถิ่นของมันก็คือ Casa dels ossos (House of Bones) เนื่องจากการออกแบบตัวอาคารมีลักษณะคล้ายกระดูก
ตึกนี้ยังคงอยู่ในขั้นตอนการออกแบบ แต่จะสร้างผลกระทบอย่างมากถ้าตึกสูงระฟ้าแห่งนี้ตั้งอยู่ในใจกลางนครนิวยอร์ก ซึ่งอาคารสมมุติแห่งนี้ได้รับการขนานนามว่า "Big Bend" โดยมีลักษณะคล้ายคลึงกับ 432 Park Avenues