หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Team Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน ราคาทองคำ กินอะไรดี
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

จับตา 3 เทรนด์ความยั่งยืนปี 2561 การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ปัญญาประดิษฐ์ และความเสี่ยงจากความเหลื่อมล้ำ

โพสท์โดย TRUMPED

รายงานโดย พัทธ์ธีรา วงศราวิทย์ ฝ่ายพัฒนาธุรกิจเพื่อความยั่งยืน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

ปี 2560 ที่ผ่านมาเป็นปีที่มีความเปลี่ยนแปลงในหลากหลายมิติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งความก้าวหน้าของเทคโนโลยีและปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence: AI) ที่ทำให้เกิดการตั้งคำถามถึงผลกระทบที่มีต่อธุรกิจในอนาคต รวมถึงปัญหาการเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศที่ยังเป็นประเด็นด้านความยั่งยืนที่ผู้บริโภคและผู้ลงทุนยังคงให้ความสำคัญอย่างต่อเนื่อง จากการเปลี่ยนแปลงและปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นนี้ ในปี 2561 นี้ ทำให้ธุรกิจยังคงเผชิญความท้าทายที่หลากหลายทั้งด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และเทคโนโลยี

1. ความเสี่ยงด้านสิ่งแวดล้อมยิ่งทวีความรุนแรง

ในรอบปีที่ผ่านมา หลายประเทศทั่วโลกเผชิญกับผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมที่รุนแรงมากขึ้น เช่น สภาพอากาศแบบสุดขั้ว (Extreme Weather) อุณหภูมิที่สูงขึ้นจนเป็นประวัติการณ์ การเสื่อมโทรมของทรัพยากร มลภาวะ และระบบนิเวศเสียสมดุลจนทำให้ความหลากหลายทางชีวภาพลดลงอย่างรวดเร็ว ซึ่งจากรายงาน Global Risk Landscape 2018 ที่จัดทำโดย World Economic Forum เปิดเผยว่าความเสี่ยงด้านสิ่งแวดล้อมเป็นความเสี่ยงที่มีผลกระทบและโอกาสที่จะเกิดอยู่ในระดับสูงกว่าค่าเฉลี่ย และเป็นความเสี่ยงที่อยู่ใน 5 ลำดับแรกของความเสี่ยงสำคัญทั้งในมุมของผลกระทบและโอกาสที่จะเกิด ซึ่งความเสี่ยงด้านสิ่งแวดล้อมนี้ได้ส่งผลกระทบโดยตรงต่อธุรกิจในหลายมิติ เช่น

ในมุมมองจากผู้ลงทุนเองก็ให้ความสำคัญกับการลงทุนโดยคำนึงถึงประเด็นที่เกี่ยวข้องกับด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล เช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับความเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศ ซึ่งจากการเปิดเผยข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของภาคธุรกิจและผลกระทบจากความเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศทำให้ผู้ลงทุนตื่นตัวและตระหนักถึงบทบาทในการกระตุ้นองค์กรภาคธุรกิจและบริษัทจดทะเบียนให้คำนึงถึงความเสี่ยงและมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาความเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศเพิ่มมากขึ้น

2. เมื่อความเหลื่อมล้ำกลายเป็นความเสี่ยงของธุรกิจ

Global Wealth Report 2017 ซึ่งจัดทำโดยสถาบันวิจัยของ Credit Suisse เปิดเผยว่า แนวโน้มความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจยังคงเพิ่มสูงขึ้นหลังวิกฤติทางการเงินปี 2551 และประเทศไทยเองก็ถูกระบุว่ามีปัญหาความเหลื่อมล้ำมากที่สุดในโลก รองจากรัสเซีย และอินเดีย เมื่อปี 2559

ปัญหาความเหลื่อมล้ำเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดสภาวะการแบ่งแยกของผู้คนในสังคม (social polarization) และการขาดความไว้เนื้อเชื่อใจในสังคม ธุรกิจขนาดใหญ่ถูกมองว่าเป็นกลไกทำให้เกิดช่องว่างทางเศรษฐกิจและการเอารัดเอาเปรียบ ขณะที่สภาพแวดล้อมที่สังคมมีความไว้เนื้อเชื่อใจต่ำก็ทำให้ธุรกิจมีความเสี่ยงด้านชื่อเสียงและด้านการกำกับดูแลจากหน่วยงานทางการเพิ่มมากขึ้น ตลอดจนอาจกระทบต่อผลประกอบการของธุรกิจในระยะยาว ดังนั้น ความเหลื่อมล้ำจึงไม่ได้เป็นเพียงปัญหาสังคมที่อยู่ไกลตัวอีกต่อไป แต่กลายเป็นความเสี่ยงต่อภาคธุรกิจได้เช่นเดียวกัน

ในสภาพแวดล้อมที่สังคมมีการแบ่งแยกและขาดความไว้เนื้อเชื่อใจ ภาคธุรกิจไม่สามารถมุ่งแต่แสวงหาผลกำไรได้เพียงอย่างเดียวโดยไม่คำนึงถึงผู้มีส่วนได้เสียโดยรอบและความอยู่รอดของผู้คนในสังคมได้อีกต่อไป แต่ภาคธุรกิจจำเป็นต้องทำความเข้าใจความคาดหวังของสังคมที่มีต่อองค์กรให้มากยิ่งขึ้น ขณะเดียวกัน ธุรกิจต้องสร้างความเชื่อมโยงระหว่างธุรกิจและสังคม โดยนำความต้องการหรือความคาดหวังของผู้คนในสังคมมาบูรณาการเป็นส่วนหนึ่งของเป้าหมายขององค์กร รวมถึงยังคงดูแลและสร้างความสัมพันธ์กับชุมชนโดยรอบอย่างต่อเนื่อง

3. เทคโนโลยีเป็นกุญแจสำคัญสำหรับธุรกิจ

การเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยีที่มีพัฒนาการอย่างก้าวกระโดดในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ทำให้เกิดความตื่นตัวของภาคธุรกิจทั่วโลกว่าปัญญาประดิษฐ์และระบบหุ่นยนต์จะก่อให้เกิดผลกระทบต่อระบบการผลิตในปัจจุบันมากน้อยเพียงใด

ปัญญาประดิษฐ์ถูกพัฒนาให้มีความสามารถในการเก็บและบริหารจัดการข้อมูลที่มีปริมาณมหาศาลและมีความซับซ้อน เพื่อช่วยในการวิเคราะห์เทรนด์ความต้องการของลูกค้าและผู้บริโภค ซึ่งช่วยให้ภาคธุรกิจสามารถตัดสินใจได้แม่นยำยิ่งขึ้น ขณะที่ระบบหุ่นยนต์ถูกพัฒนาให้สามารถทำงานที่มีความเสี่ยงสูงหรืองานที่อาจเกิดอันตรายต่อมนุษย์ได้ รวมถึงระยะเวลาในการทำงานของหุ่นยนต์มีความรวดเร็วและแม่นยำมากกว่า ในแง่มุมนี้อาจกล่าวได้ว่าเทคโนโลยีเป็นกุญแจสำคัญที่ช่วยให้เกิดการบริหารจัดการธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพและเพิ่มขีดความสามารถในแข่งขันของธุรกิจ

อย่างไรก็ตาม เทคโนโลยีที่มีการพัฒนาขึ้นอย่างมากนี้ ถูกมองว่าทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างมหาศาลในตลาดแรงงาน และระบบการบริหารจัดการทรัพยากรมนุษย์ภายในองค์กร งานวิจัยจาก McKinsey Global Institute เมื่อปี 2017 เปิดเผยว่าใน 60% ของ 800 อาชีพในตลาดแรงงาน มีงานหรือกิจกรรมอย่างน้อย 30% ที่สามารถใช้ระบบอัตโนมัติหรือหุ่นยนต์เข้ามาแทนที่การใช้แรงงานมนุษย์ได้ ดังนั้น การพัฒนาของเทคโนโลยีจึงอาจทำให้เกิดการเลิกจ้างและคนว่างงานในปริมาณมหาศาล จึงเกิดคำถามว่าภาคธุรกิจจะมีกลยุทธ์อย่างไรในการบริหารจัดการทรัพยากรมนุษย์เพื่อให้เกิดความยั่งยืนต่อธุรกิจไปพร้อมกับที่สามารถตอบสนองต่อความคาดหวังของบุคลากรของบริษัท และไม่สร้างภาระให้กับสังคม

 เทรนด์ความยั่งยืนทั้งสามประเด็นนี้เป็นการเปลี่ยนแปลงในระดับโลกที่น่าจับตามองอย่างยิ่ง และเป็นความเสี่ยงที่ส่งผลกระทบต่อธุรกิจ แต่ในทางตรงข้าม ธุรกิจที่สามารถ “แสวงหาโอกาส” จากการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้และลงมือปฏิบัติก่อน ก็ย่อมมีโอกาสประสบความสำเร็จได้มากกว่าเช่นกัน

ข้อมูลอ้างอิง

A3D5F67356880EF3

โพสท์โดย: TRUMPED
แหล่งที่มา: http://thaipublica.org/2018/03/set-trend-sustainability-2018/
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
TRUMPED's profile


โพสท์โดย: TRUMPED
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
4 VOTES (4/5 จาก 1 คน)
VOTED: vho
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
อินฟูลเขมร อดีตทหารนาวิกโยธินสหรัฐฯ แซะแรงทหารไทย "ใช้เป็นแต่ F-16 หรือ"ของหวานในงานแต่งไม่พอ แขกเลยทะเลาะแย่งกันจนงานเละ"พรัสเซียนบลู" สีน้ำเงินมัจจุราชร้ายแห่งเปอร์เซีย งานศิลปะ และยาถอนพิษในนักเล่นแร่แปรธาตุไทยร้อง UNSC หลังกัมพูชารุกโจมตี 5 จังหวัด ทำทหารเจ็บ–ปชช.อพยพกว่า 4 แสนเจ้าพ่อ BM-21 ฮิง บุนเฮียง ปะทะเดือด—โดน F-16 ไทยทิ้งบอมบ์คลังจรวด BHQ ดับ 4 ศพ สัญญาณศึกใหม่ปะทุเบื้องหลัง "หัวปากกา" ชิ้นจิ๋ว ความยากระดับสร้างยานอวกาศ ที่มหาอำนาจหลายชาติยังยอมแพ้"อาเล็ก" ถอดเสื้อโชว์หุ่นแซ่บ..ด้าน "โบว์ เมลดา" แซวกลับทันที "ลืมวิธีใส่เสื้อใช่มั๊ย"งานแถลงข่าวรับรางวัลโนเบลถูกยกเลิก! ผู้ได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพหายตัวไป 11 เดือนแล้วซีอีโอยักษ์ใหญ่ด้านอีคอมเมิร์ซ ลาออก จากการรั่วไหลของข้อมูลผู้ใช้ 33.7 ล้านคนบนแพลตฟอร์มอดีตรองแม่ทัพภาคฯ ฟาดแรง—ต้อง ‘เด็ดพญาผึ้ง’ ทุกจุด ก่อน 2 พ่อลูกตระกูลจะฮุนป่วนไม่เลิก!ไขปริศนาบรรพกาล: หลักฐานชี้ "มนุษย์โบราณ" จุดไฟใช้เอง เร็วกว่าที่คิดถึง 350,000 ปี!เหยียบมาเกือบ 20 ปี เพิ่งรู้ว่า “ตีนไก่” หน้าบ้านคือรอยเท้าไดโนเสาร์ 190 ล้านปี
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
อินฟูลเขมร อดีตทหารนาวิกโยธินสหรัฐฯ แซะแรงทหารไทย "ใช้เป็นแต่ F-16 หรือ"ซีอีโอยักษ์ใหญ่ด้านอีคอมเมิร์ซ ลาออก จากการรั่วไหลของข้อมูลผู้ใช้ 33.7 ล้านคนบนแพลตฟอร์มFIRE แนวคิด เกษียณเร็วมีชีวิตอย่างอิสระ พฤติกรรมคนรุ่นใหม่ที่โหมเก็บเงิน เร่งเกษียณให้เร็วขึ้น😃 ​ชวนลองเข้ามาดูคนที่มีความคิดสร้างสรรค์ในการหาทางออกสำหรับการแก้ไขทุกปัญหา 😁ฝันที่เป็นจริง...แต่ต้องหนีตาย! คู่สามีภรรยาชาวอินเดียถูกหวย 52 ล้าน หนีกลางดึกเพราะกลัวโดนลักพาตัวไขปริศนาบรรพกาล: หลักฐานชี้ "มนุษย์โบราณ" จุดไฟใช้เอง เร็วกว่าที่คิดถึง 350,000 ปี!
กระทู้อื่นๆในบอร์ด ข่าวสิ่งแวดล้อม
เมืองคาร์บอนต่ำ ต้นแบบสู่การลดมลพิษแบบยั่งยืนมธ.แปรอักษร มีหนึ่งวลีถึงคดีเสือดำ งานฟุตบอลประเพณีครั้งที่ 73ข่าวร้าย! การปล่อยแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ทำสถิติใหม่อีกครั้งแม่วงก์ ผืนป่าแห่งความหวัง
ตั้งกระทู้ใหม่