ซื้ออาคารพาณิชย์...รีโนเวตเป็น “ที่อยู่อาศัย”
หลายคนคงงงว่า “อาคารพาณิชย์” เนี่ยนะ อยากได้ “ที่อยู่อาศัย” ทำไมถึงแนะนำให้ไปซื้ออาคารพาณิชย์มารีโนเวต อย่างน้อยก็น่าจะเป็นทาวน์เฮ้าส์ ทาวน์โฮม หรือถ้ามีเงินเยอะก็บ้านเดี่ยวไปเลยไม่ดีกว่าเหรอ??
อยากจะบอกว่าความจริงเเล้ว มีบางประเด็นที่คนอาจนึกไม่ถึง อย่างแรกอาคารพาณิชย์เนี่ยถ้ารีโนเวตดีๆ เก๋นะจะบอกให้
ที่สำคัญเมื่อเทียบราคากับพื้นที่ใช้สอยแล้ว อาคารพาณิชย์เก่าๆ บางทีราคาอาจถูกกว่าทาวน์โฮม ทาวน์เฮ้าส์ก็ได้ เเถมมีหลายชั้น ดัดแปลงใช้ประโยชน์ได้หลากหลาย
เเต่ข้อเสียก็พอมี เช่น ลักษณะอาคารจะเป็นเเนวยาว เเล้วก็เเคบ ที่สำคัญคือเรื่องเเสงแดดที่เข้าบ้านจะได้รับเเค่ด้านเดียว เเต่ไม่ต้องห่วงเพราะงานนี้รีโนเวตช่วยได้เเน่นอน!
ชั้น 1
เริ่มที่ชั้น 1 กันก่อนเลย บอกเลยว่า...ชั้น 1 เนี่ย “มีค่ามากที่สุด” เลยนะ โห..ทำไมถึงเป็นอย่างนั้น ก็เพราะชั้น 1 เปรียบเป็นประตูหน้าบ้านเลยนะสิ ใครผ่านไปมาก็ต้องเห็น รวมถึงเจ้าของบ้านต้องใช้พื้นที่นี้ร่วมกันมากที่สุดด้วย ดังนั้นมันต้องเวิร์กสุดๆ ไม่ควรให้มันรก หรือวางข้าวของไม่เป็นระเบียบ ที่สำคัญต้องเน้นเรื่องความกว้างเข้าไว้ เพราะอย่างที่รู้ว่าอาคารพาณิชย์นั้นเเคบ
ส่วนที่ 1 เป็นส่วนหน้าบ้าน ส่วนใหญ่แล้วคนจะชอบต่อเติมเพื่อให้มีพื้นที่ชั้นสอง แบบเน้นความคุ้มไว้ก่อน เเต่บอกเลยว่าวิธีนี้จะทำให้บ้านเราดูเเคบและอึดอัดไปเลย ควรเปิดโล่งๆ ไว้ ไม่ต่อเติมอะไรเพิ่ม เเล้วจัดเป็นส่วนหน้าบ้าน ไว้ถอดรองเท้า วางของพวกร่ม เก็บรองเท้า อาจปูกระเบื้องคนละแบบเพื่อแยกสัดส่วนของห้อง
ส่วนที่ 2 ให้จัดเป็นห้องนั่งเล่นและห้องรับเเขก พอเดินเข้ามาก็จะผ่านส่วนนี้เป็นอย่างเเรก ถ้าเป็นห้องรับเเขกก็จะสามารถต้อนรับได้เลย ไม่ต้องเดินผ่านส่วนไหนไปอีก เเถมเจ้าของบ้านเหนื่อยๆ มาก็พักผ่อนได้เลย
ส่วนที่ 3 จัดเป็นห้องอาหาร ควรมีโต๊ะกินข้าว และมีเคาเตอร์ครัวเล็กๆ ไว้เสิร์ฟน้ำหรือทำอาหารเล็กๆ น้อยๆ ส่วนนี้จะมีบันไดด้วย สำคัญเลยคือเน้นเปิดให้โล่งกว้าง
ส่วนที่ 4 จัดเป็นห้องครัว อันนี้คือครัวใหญ่ เราควรเเยกออกมา อีกฝั่งเป็นห้องน้ำ พื้นที่หลังห้องน้ำเปลี่ยนเป็น Outdoor และปลูกต้นไม้ การที่เราจัดเป็น Outdoor เพื่อให้เเสงเข้าและระบายอากาศภายในห้องนี้ได้ เพราะเเสงเข้ามาเเต่ด้านหน้า ไม่ทั่วถึง ด้านหลังบ้านจะมืดและอับทันที แสงจากธรรมชาติสำคัญมากๆ และเป็นเเสงที่ดีที่สุด ถ้าทำส่วนนี้เป็น Outdoor จะช่วยได้มาก
ชั้น 2
ส่วนนี้พอขึ้นมาอาจจะเป็นส่วนอเนกประสงค์ของบ้าน เพื่อที่ครอบครัวจะได้มีพื้นที่ทำกิจกรรมได้ เเต่เป็นชั้นที่มีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น
ส่วนที่ 1 เป็นพื้นที่เปิดโล่งจากข้างล้าง เพดานให้ห้อยโคมลงมาจะทำให้รู้สึกกว้างขึ้น
ส่วนที่ 2 เลือกจัดเป็นห้องทำงาน อาจจะทำเป็นระเบียงตรงฝั่งหน้าบ้าน เพื่อความโล่ง โปร่ง สบาย
ส่วนที่ 3 เป็นส่วนที่เหลือคู่กับบันได้ อาจทำเป็นห้องออกกำลังกาย หรือจะเลือกเป็นส่วนอเนกประสงค์อื่นๆ ก็ได้
ส่วนที่ 4 เป็นส่วนที่โล่งมาจากข้างล่างให้ช่วยระบายอากาศ ปูพื้นเพื่อทำเป็นส่วนซักผ้าเพราะมีอากาศเข้ามาช่วยระบายได้ด้วย
ชั้น 3
ชั้นนี้เริ่มจัดเป็นส่วนพักผ่อน ถ้าเป็นครอบครัวใหญ่จะมีหลายคน อาจเลือกให้ผู้ใหญ่พักในชั้นนี้
ส่วนที่ 1 ส่วนนี้จัดเป็นห้องนอน อาจจัดเป็นห้องนอนใหญ่เลย บางทีมีระเบียงออกไปด้านนอกด้วย (ขึ้นอยู่กับทรงอาคารพาณิชย์)
ส่วนที่ 2 ต่อมาจัดเป็นส่วนนั่งเล่นด้านบน หรือห้องหนังสือเชื่อมกับห้องนอน
ส่วนที่ 3 ขยายห้องน้ำเดิมให้ออกมาสุด จะได้กว้างขึ้น แล้วเชื่อมให้ประตูติดกันกับส่วนห้องนอนเลย จะได้เป็นห้องน้ำในตัวของห้องนี้
ส่วนที่ 4 เปิดโล่งรับเเสง
ชั้น 4
ชั้นสุดท้ายก็จัดเป็นส่วนพักผ่อนอีกเช่นกัน เเต่อาจเป็นส่วนของเด็กๆ
ส่วนที่ 1 กั้นเป็นห้องนอนห้องที่ 1
ส่วนที่ 2 กั้นเป็นห้องนอนห้องที่ 2 อาจเล็กกว่านิดนึง เเต่จะมีทางเดินไปห้องที่ 1 ด้วย
ส่วนที่ 3 ขยายพื้นที่ห้องนอนที่ 2 ให้ชิดกับห้องน้ำเลย ส่วนห้องน้ำให้แบ่งเป็นส่วนเปียกและแห้ง เพื่อไม่ให้ลื่นและดูสะอาดตลอดเวลา
ส่วนที่ 4 เปิดโล่งรับเเสง
อันนี้ถือเป็นตัวอย่างคร่าวๆ ตามแบบแปลนอาคารพาณิชย์ทั่วไป บางทีอาจมีน้อยหรือมากชั้นกว่านี้ ก็แล้วเเต่รูปแบบ เราอาจปรับห้องต่างๆ เอาแทน เช่นถ้ามีสามชั้น อาจจะต้องจัดห้องนอนไว้ชั้น 2 และ 3 ก็ได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแบบแปลน จำนวนคน และรูปแบบกิจกรรมของคนในบ้าน ทางที่ดีเราควรปรึกษาสถาปนิกผู้เชี่ยวชาญด้วย เพราะเขาจะได้ช่วยออกแบบได้ตอบโจทย์และตรงกับความต้องการของเราที่สุด ใช้พื้นที่ของบ้านได้อย่างคุ้มค่า นอกจากนี้เรื่องวัสดุ การตกแต่งก็จะช่วยให้บ้านเราดูสวยมากขึ้นด้วย
ที่มา คุณนันทวัฒน์ เพ็ชรน้ำทองวัฒนะ