มีมานานแล๊วว!! วิจารณ์ รถยนต์จอดขวางกลางรางจนรถไฟต้องหยุดรอ วิน จยย.ไล่เคาะกระจกให้ระวัง กลับโดนเหวี่ยงใส่
จากกรณีมีผู้ใช้เฟซบุ๊ก Takawit Thibthong โพสต์คลิปวิดีโอการจราจรบริเวณทางรถไฟเพชรบุรี-มักกะสัน กรุงเทพฯ ที่มีรถจอดติดกันเป็นทางยาวต่อกันมาเรื่อยๆ กระทั่งมีรถหลายคันมาจอดค้างขวางรางรถไฟอยู่ ส่วนจราจรอีกด้าน ก็ไม่มีใครยอมหยุดให้ถึงแม้ว่ารถไฟจะค่อยๆ เคลื่อนเข้ามาแล้วก็ตาม สุดท้ายจนทำให้รถไฟต้องหยุดรอ เนื่องจากไม่สามารถนำที่กั้นลงได้
ส่งผลให้ชาวเน็ต เข้ามาร่วมแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก โดยเสียงส่วนใหญ่ต่อว่าผู้ขับขี่ ที่ไม่เคารพกฎหมาย ขับขี่กันอย่างไม่กลัวตาย รีบเร่งไปให้พ้นรถไฟที่กำลังเคลื่อนมา ขณะที่บางความเห็นมองว่าการขับขี่เช่นนี้เป็นการเห็นแก่ตัวพร้อมอยากให้รักษาวินัยในการขับขี่เพื่อป้องกันอุบัติเหตุ ขณะที่บางความคิดเห็นมองว่าการที่ผู้ขับขี่ปฏิบัติตัวเช่นนี้จะส่งผลให้เจ้าหน้าที่ทำงานลำบากยิ่งขึ้น
ทีมข่าวได้ลงพื้นที่ไปยังจุดตัดเสมอระดับทางรถไฟ-รถยนต์ของการรถไฟแห่งประเทศไทย บริเวณถนนรัชดาภิเษก (ใกล้กับสถานีรถไฟแอร์พอร์ตเรลลิ้งมักกะสัน) พบกับนายวีระพล ศรีอ่อน วินจยย.ที่อยู่บริเวณดังกล่าว บอกว่า ถนนเส้นนี้เป็นที่รู้กันว่ารถติดกันอยู่แล้ว และเวลารถไฟมา
รถยนต์ต่างๆ ก็จะจอดทับเส้น และเลยเข้ามาขวางรางรถไฟตลอด เป็นปัญหาที่ต้องพบเจอเป็นประจำ ไม่มีใครยอมหยุดหลังเส้นที่เจ้าหน้าที่กำหนด เห็นคันข้างหน้าทำได้ตัวเองก็ทำบ้าง เวลารถไฟมาก็ไปไม่ได้ต้องหยุด พนักงงานรถไฟประจำพื้นที่จะเอาเครื่องกั้นลงก็เอาลงไม่ได้ เพราะมีรถจอดขวางอยู่
ตนและวิน จยย. คนอื่นๆ ต้องช่วยกันเป่านกหวีด ช่วยกันโบกรถ บางทีไปเคาะกระจกบอกให้ขยับรถ ซึ่งบางคนก็เข้าใจ บางคนก็เหวี่ยงใส่อีก ซึ่งตนกับพนักงานรถไฟประจำพื้นที่ก็ไม่รู้ว่าจะจัดการอย่างไร เพราะปัญหาไม่ได้อยู่ที่หน่วยงานไหน แต่อยู่ที่จิตสำนึกของผู้ใช้รถใช้ถนนเองมากกว่าที่ควรจอดรถหลังเส้น ที่ทางจราจรมาทำการตีไว้ให้ ห่างจากราง 5 เมตรเสมอ
ไม่ควรล้ำเส้น ไม่ทับเส้นเข้ามาขวางรางรถไฟแบบนี้เพราะมันอันตราย ถึงแม้ว่าพนักงงานขับรถไฟจะทราบและระวังจุดที่มีการจราจรติดขัดเป็นพิเศษอยู่แล้วก็ตาม ถ้าหากวันใดวันหนึ่งรถไฟเกิดขัดข้อง หรือเบรกไม่ทันขึ้นมาความเสียหายมันจะเกิดเยอะมาก ดังนั้นอยากให้ทุกคนเข้าใจและมีจิตสำนึกที่จะปฏิบัติตามด้วย
ด้านผู้โดยสารที่มารอรถ ต่างบอกว่าแรกๆ ที่เจอกับตัวก็รู้สึกไม่ดี แต่พอเจอบ่อยๆ เข้าทุกวัน และมักจะเป็นแบบนี้ประจำจนตอนนี้เริ่มจะชินแล้ว แต่ก็อยากให้ผู้ขับขี่รถยนต์เคารพกฎ และปฏิบัติตามเพื่อให้เป็นผลดีกับทั้งสองฝ่าย
ต่อมา นายฐากูร อินทรชม ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการเดินรถ การรถไฟแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ปัญหาดังกล่าวมักจะเกิดขึ้นทุกวันในชั่วโมงเร่งด่วนเช้า-เย็น ตามกฎต้องหยุดรถก่อนข้ามทางรถไฟไม่น้อยกว่า 5 เมตร ซึ่งเป็นการหยุดหลังเส้นที่มีการตีเอาไว้ โดยไม่หยุดหรือจอดคร่อมทางรถไฟ ตาม พ.ร.บ. จราจรทางบก มาตรา 63 แต่ในทางปฏิบัติแล้วคนส่วนใหญ่ไม่ได้ใส่ใจตรงนั้น ต่างก็จะบอกว่าไม่เป็นไรขอนิดหนึ่งจนกลายเป็นอย่างที่เห็นในคลิป เพราะทุกคนก็จะขอนิดหนึ่งกันหมดทุกคน
นอกจากนี้ยังไม่ใช่เฉพาะที่จุดตัดเสมอระดับทางรถไฟ-รถยนต์ของการรถไฟแห่งประเทศไทย บริเวณถนนรัชดาภิเษก (ใกล้กับสถานีรถไฟแอร์พอร์ตเรลลิ้งมักกะสัน) ที่ปรากฎในคลิปเท่านั้น เพราะนอกจากนี้ยังมีอีกหลายจุด เช่น บริเวณแยกยมราช อโศก ราชวิถี ประดิพัทธ์ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งในหลายปัจจัยที่ส่งผลกระทบทำให้ขบวนรถไฟล่าช้า ผู้โดยสารที่โดยสารโดยรถไฟในเขตเมืองจะพบกับปัญหานี้ประจำ เป็นระยะเวลาที่ยาวนานจนกลายป็นปัญหาสะสม
ส่วนที่เกิดอุบัติเหตุแน่นอนว่ามาจากการที่ไม่ยอมหยุดรถแล้ววิ่งข้ามมา โดยที่ไม่ดูว่าขณะนั้นรถไฟมาหรือไม่ และอีกส่วนคือเมื่อเอาเครื่องกั้นลงแล้วมักจะมีช่องเล็กๆ เหลืออยู่ทำให้รถ จยย.จะชอบแทรกฝ่าเข้ามาช่องนั้นเพื่อข้ามไปบ่อยครั้งมาก
ซึ่งในทางขณะนี้กระทรวงคมนาคม และสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) กำลังพยายามที่จะเข้ามาทำการศึกษาข้อมูลว่าจะมีการสื่อสารกันอย่างไรระหว่างพนักงานรถไฟ กับจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร เพื่อให้มีการคล่องตัวทั้ง 2 ฝ่าย ทั้งรถยนต์และรถไฟ
นายฐากูร กล่าวอีกว่า ทั้งนี้พนักงานรถไฟประจำพื้นที่ก็จะต้องทำการเคลียร์รถออกให้หมดก่อนอยู่แล้ว ถ้ายังออกไม่หมดพนักงานที่ขับรถไฟเองก็จะดูก่อนอยู่แล้วว่าถ้าไฟสัญญาณเตือนไม่ดับ แสดงว่าเครื่องกันถนนยังไม่ถูกเอาลง คนขับก็จะชะลอรถแล้วจะต้องหยุด เพราะรถไฟจะไปต่อได้ก็ต่อเมื่อสัญญาณไฟเตือนดับลงและเครื่องกั้นถูกเอาลงแล้วเท่านั้น ซึ่งเป็นมาตรฐานสากลที่จะต้องปฏิบัติอย่างเคร่งครัด
แต่เพื่อความปลอดภัย อยากฝากไปถึงประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนนด้วยว่า การมีวินัยไม่ได้ทำให้ใครดีขึ้น แต่มันจะช่วยในเรื่องความปลดภัยของตัวผู้ที่ปฏิบัติตามเอง เพราะอุบัติเหตุเกิดขึ้นได้เสมอ
นอกจากนี้การที่รถยนต์ยอมที่จะจอดหลังเครื่องกั้น แล้วปล่อยให้รถไฟวิ่งไปก่อนซึ่งใช้เวลาไม่นาน เพราะรถไฟต่างก็มีรอบเวลาผ่านที่ชัดเจนอยู่แล้ว กับการที่รถยนต์ขับเข้ามาขวางรางรถไฟ แล้วตัวรถยนต์เองก็ขยับไม่ได้ รถไฟก็ผ่านไม่ได้ จะเป็นการใช้เวลานานกว่าวิธีแรกด้วยซ้ำไป
-----ไม่ได้รอรับ ผดส. นะจ๊ะ ข่าวบางคนแชร์มามั้วจ้าาา มันมีมานานแล๊ววววววววววววว นาทีเร่งด่วน