ล่ามฝากถึงคนที่จะไปเป็นผีน้อย หนีวีซ่าที่ปรเทศจีนครับ อย่าทำแบบนี้เลย มันไม่คุ้มหรอก ได้ไม่เท่าเสีย!
ล่ามฝากถึงผีน้อยไทยที่คิดจะหนีวีซ่าที่ประเทศจีน โดยเล่าประสบการณ์ให้เป็นอุทาหรณ์สอนใจผีน้อยไทยโดนตำรวจจับ ขาดอิสระภาพที่แพงมากกว่าเงินทองที่หามาได้โดยมิชอบ โดยทางเฟซบุ๊ก Jiang Chuan ได้โพสท์เล่ารายละเอียดระบุว่า
"วันนี้จะมาเล่าประสบณ์การไปเป็นล่ามเมื่อวาน และฝากถึงคนที่จะไปเป็นผีน้อยหนีวีซ่าที่ปรเทศจีนครับ......
เริ่มจากเมื่อวานช่วงบ่ายสองโมงกว่าๆ อยู่ก็มีเบอร์โทรศัพท์จากสถานีตำรวจโทรมาขอล่ามสองคนไปช่วยแปลให้ นี่ก็เลยช่วยน้องกิ๊กน้องคนไทยที่เรียนที่นี้ไปด้วยกัน พอไปถึงเค้าก็มารับไปที่ห้องสอบสวน ก็เจอพี่ผู้หญิงคนไทยคนหนึ่งที่นั่งอยู่ในห้องกำลังรอการแปลจากเราอยู่
ซึ่งเรามีก็ได้สัมภาษณ์พี่ผู้หญิงคนไทยไปสามคนที่มาพร้อมๆกันในช่วงเดือนตุลาที่ผ่านมา ส่วนกิ๊กได้สัมภาษณ์พี่ผู้หญิงคนไทยสองคนซึ่งมาอยู่ที่นี่ก่อนหน้านั้นแล้วเดือนกว่าๆ ตำรวจเริ่มจากการสอบถามว่า มาทำงานที่ฉางชุนได้ยังไง ใครเป็นคนติดต่อให้ ผ่านช่องทางไหน ซึ่งส่วนมากก็บอกว่าผ่านทางคนรู้จักที่เคยทำมาแล้วและแนะนำมาอีกที แต่ก็มีบางคนที่ติดต่อผ่านคนกลางและเสียค่านายหน้า
ซึ่งทั้งหมดมีการติดต่อผ่านทางเฟสบุคกันหมด และไม่มีใครเคยเห็นหน้าชื่อเสียงเรียงนามของคนที่เป็นคนติดต่อหางานให้เลยสักคน ส่วนค่าจ้างแต่ละคนก็ไม่เท่ากัน จะประมาณคนละ 5000-7000 หยวนต่อเดือน
วันนึ่งทำงาน10:00-19.00น บางคนก็มาแค่เดือนเดียวพอวีซ่าท่องเที่ยวหมดก็จะกลับ แต่บ้างคนมาสองเดือนพอวีซ่าหมดก็ออกไปปั๊มที่รัสเซียแล้วค่อยกลับมาใหม่ ส่วนการทำงานที่ร้านจะมีผู้จัดการเป็นคนอำนวยความสะดวกให้ทั้งที่อยู่อาหารการกินรวมทั้งเงินเดือน แต่ไม่มีใครเคยเห็นเจ้าของร้านเลย ตอนโดนจับก็เป็นผู้จัดการร้านที่โดนพาตัวมาด้วย
หลังจากสัมภาษณ์เสร็จทั้งห้าคนก็จะถูกขังไว้ที่ห้องสี่เหลี่ยมเล็กๆคนละห้องประมาณตู้คาราโอเกะบ้านเรา สัมภาษณ์ตั้งแต่บ่ายสามโมงจนถึงสี่ทุ่มกว่า ทุกคนต่างกังวลจะโดนส่งกลับในวันนี้หรือป่าวและจะให้กลับไปเก็บของที่ห้องก่อนหรือป่าว ซึ่งตำรวจก็ยังไม่สามารถบอกได้เพราะเจ้าของร้านนวดยังไม่ปรากฏตัว
สุดท้ายประมาณห้าทุ่มเจ้าของร้านไม่มาเลยต้องพาทั้งห้าคนไปสถานที่สถานที่หนึ่ง ซึ่งมารู้ทีหลังหลังจากไปถึงแล้วว่ามันคือเรือนจำหญิงนั้นเอง ซึ่งเรือนจำนี่อยู่ห่างออกไปจากตัวเมืองพอสมควร ตอนแรกเราคิดว่าน่าจะเป็นประมาณคุกในโรงพักธรรมดาเหมือนบ้านเรา แต่พอไปถึงก็ต้องให้ทั้งห้าคนกรอกข้อมูลการส่งตัวต่างๆ เสร็จแล้วก็ขึ้นไปบนเรือนจำ และมีการถอดเสื้อผ้าทั้งหมดตรวจร่างกาย และให้เปลี่ยนเสือผ้าเป็นชุดนักโทษ และให้ถือป้ายชื่อถ่ายรูปเหมือนที่เราเห็นในละคร
หลังจากนั้นก็เป็นการแปลก่อนที่เราจะกลับ เกี่ยวกับการเป็นอยู่การใช้ชีวิตที่นี่ และทุกคนยังคิดมาตลอดว่าทุกคนจะคงอยู่ที่นี่ไม่นาน แต่สิ่งที่พอได้ยินจากปากตำรวจแล้ว ขนาดเราเป็นคนแปลเราก็ไม่อยากพูดประโยคนั้นออกไปเลย คือ "พวกคุณจะต้องอยู่ที่เรือนจำนี้อย่างน้อย 30 แต่คุณก็ต้องทำใจเพราะมันอาจจะมากกว่านั้นได้ และคุณจะกลับบ้านได้ก็ต่อเมือมีคนซื้อตั๋วให้คุณกลับไทยเท่านั้น " คือถ้าเป็นเราก็คงช็อกและร้องไห้ไปแล้ว เพราะบ้างคนอีกไม่กี่วันก็จะได้กลับบ้านไปหาครอบครัว หาคนที่เรารักแล้ว แต่ต้องมาอยู่ที่นี่อีก 30 วัน แล้วเราไม่สามารถติดต่อและบอกกับที่บ้านได้เลย
และส่วนความเป็นอยู่ในเรือนจำนั้น คุณจะต้องเดินในเซ็นสีแดงที่เค้าขีดไว้ให้เท่านั้น ไฟจะเปิดตลอดเวลา แต่ห้ามเอาผ้าหรือสิ่งของมาปิดหน้าหรือปิดตาได้ ข้าวของเครื่องใช้ต้องเป็นญาติของผู้ต้องหาถึงจะซื้อให้ใช้ได้ แต่ทั้งห้าคนไม่มีคนรู้จักที่นี่เลย ต้องรอความหวังกับเจ้าของร้านเพียงอย่างเดียวซึ่งบ้างคนมีประจำเดือนก็ต้องรอ และสุดท้ายเจ้าหน้าที่เรือนจำก็ให้ทุกคนฝากข้อความถึงครอบครัว แต่ทุกคนจำเบอร์ที่บ้านไม่ได้ เราก็ไม่สามารถช่วยโทรบอกคนที่บ้านให้ได้
สุดท้ายทุกคนก็ต้องนอนที่เรือนจำนั้น โดยไม่รู้ว่าชะตากรรมข้างหน้าจะเป็นยังไง และไม่รู้ว่าจะได้กลับบ้านวันไหน หลังแปลจากเสร็จก็ต้องลาพวกพพี่ๆทั้งห้าคนกลับ ทุกคนจากหน้ายิ้มแย้มต้อนสัมภาษณ์ตามสไตคนไทย กลับมีแต่หน้าเศร้า น้ำตาคลอ ซึ่งเราเป็นคนไทยเหมือนกันอยากช่วยแต่ก็ช่วยอะไรไม่ได้เลย เพราะพี่เค้าจำเบอร์คนที่ไทยไม่ได้เลย พี่เค้าชื่ออะไรบ้างไอ้เราก็จำไม่ได้
ถ้าเพื่อนๆคนไหนรู้จักหรือมีญาติที่มาทำงานนวดที่ฉางชุนฝากบอกด้วยนะครับว่าพี่เค้าทั้งห้าคนอยู่ในเรือนจำที่ฉางชุน ไม่รู้จะได้ออกเมื่อไหร่ (ซึ่งเราไปแอบถามตำรวจคนที่จับมาทีหลังว่าพวกพี่ๆเค้าอาจจะได้ออกเร็วกว่านั้นถ้าเจ้าของร้านนวดมาเสียค่าปรับแลซื้อตัวให้กลับไทย) สิ่งที่จะพอให้ข้อมูลได้คือมีคนที่มาจากบุรีรัม เลย เชียงใหม่
สิ่งที่อยากจะบอกทุกคนคืออย่าทำแบบนี้เลย มันไม่คุ่มหรอก ได้ไม่เท่าเสีย การโดนจับติดคุกที่เมืองนอกมันไม่โอเคเลย ภาษาไม่ได้ เวลาป่วยไข้หรือต้องการอะไรก็สื่อสารไม่ได้ ได้แต่ต่อความหวังจากคนที่แม้แต่เราก็ยังไม่เคยเห็นหน้าเลย ไม่รู้ว่าเป็นใคร ติอต่อใครไม่ได้ ไม่มีญาติหรือเพื่อนที่ช่วยเราได้เลย มันไม่โอเคเลยจริงๆ ฝากทุกคนไว้ด้วยนะครับ มาแบบถูกกฏหมายเถอะ ข้อร้อง
ปล. ขอเปลี่ยนรูปนะครับ เพราะแอบถ่ายมา ไม่คิดว่าจะมีคนแชร์เยอะขนาดนี้ เดี๋ยวโดนตำรวจด่า"
แฉเรือทุนไทยขายน้ำมันให้เขมร อดีต สว ประกาศ เตือน ทัพเรือสั่ง 'จมเรือ' ได้ทันที เพราะประกาศกฎอัยการศึก
ถล่มอุโมงค์ลับ เนิน 350 ทัพฟ้าส่ง F-16 เสิร์ฟไข่ 6 รอบติด
ไทย ชวดเหรียญทอง ปันจักสีลัต ทั้งที่กำลังจะขึ้นรับเหรียญ
ปุ๋ยล็อตใหญ่ ไปชายแดนเกือบ 3,000 นาย
ย้อนวันวาน “ศูนย์อาหารมาบุญครอง พ.ศ. 2535” ต้นแบบฟู้ดคอร์ทไทย จากคูปองเงินสด สู่ยุคสแกนจ่ายในปลายนิ้ว
หนุ่มชาวมาเลเซีย ได้คู่จากแอพฯ แต่คุยมาตั้งนาน เพิ่งรู้ว่าคุยกับผู้ชายตอนได้เจอกันนั่นแหล่ะ...
ไมโครเวฟ 45 ปี จากครัวบ้านสู่พิพิธภัณฑ์ ตำนานความทนทานที่บริษัทผู้ผลิตยังต้องคารวะ
สื่อมาเลย์ แฉยับ ทหารเขมรทิ้งขีปนาวุธให้ไทยยึดฟรี เพราะใช้ไม่เป็น ขายขี้หน้าทั้งประเทศ
รวมภาพเรียกรอยยิ้มประจำวันนี้ ส่วนข้อคิดประจำวันก็คือ ทำวันนี้ให้ดีที่สุด เพราะอาทิตย์หน้า ก็ใกล้จะเข้าปีใหม่แล้ว เดี๋ยวงานค้าง เที่ยวไม่สนุก ขอบคุณครับ
นาวิกยึดฐานเขมร เจออาวุธจีน ทุ่นระเบิดเพียบ แถมมีเอกสารฝึกวางกับระเบิดคาหนังคาเขา
อันวา ร้ายลึก แอบขายอาวุธ ให้กัมพูชา
ค้นพบแหล่งทองคำกว่า 500 ตัน มูลค่าสูงถึง 600,000 ล้านหยวน
ปุ๋ยล็อตใหญ่ ไปชายแดนเกือบ 3,000 นาย
หนุ่มชาวมาเลเซีย ได้คู่จากแอพฯ แต่คุยมาตั้งนาน เพิ่งรู้ว่าคุยกับผู้ชายตอนได้เจอกันนั่นแหล่ะ...
ไมโครเวฟ 45 ปี จากครัวบ้านสู่พิพิธภัณฑ์ ตำนานความทนทานที่บริษัทผู้ผลิตยังต้องคารวะ
รวมภาพเรียกรอยยิ้มประจำวันนี้ ส่วนข้อคิดประจำวันก็คือ ทำวันนี้ให้ดีที่สุด เพราะอาทิตย์หน้า ก็ใกล้จะเข้าปีใหม่แล้ว เดี๋ยวงานค้าง เที่ยวไม่สนุก ขอบคุณครับ
น้ำตกนาจิ (Nachi Falls) สายน้ำศักดิ์สิทธิ์แห่งญี่ปุ่น
เที่ยววัดกู้ นนทบุรี แวะสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์มากมายที่สายมูห้ามพลาด
10 สถานที่ท่องเที่ยวในสมุทรปราการ เมืองใกล้กรุงที่น่าไปซ้ำ
🌿 Oleander Hawk-Moth ผีเสื้อราตรีเหยี่ยวนารันจา งามดั่งภาพวาดมีชีวิต นักพรางตัวแห่งรัตติกาล


