ความคิดและลักษณะนิสัยของ “คนรวย” กับ “คนจน” ที่แตกต่างกัน 10 ข้อ
ความคิดและลักษณะนิสัยของ “คนรวย” กับ “คนจน” ที่แตกต่างกัน 10 ข้อ
บิล เกตส์ กล่าวไว้ว่า “มันไม่ใช่ความผิดของคุณที่เกิดมายากจน แต่มันเป็นความผิดของคุณถ้าตายไปอย่างยากจน” คนจนและคนรวยนั้นแตกต่างกันอย่างชัดเจนไม่ใช่เพียงแค่ทรัพย์สินและลักษณะภายนอก แต่สิ่งสำคัญที่ทำให้คนเราประสบความสำเร็จไม่เท่ากันก็คือความคิดและวิธีการใช้ชีวิต
ดาเนียล อัลลี เด็กที่เกิดมาในครอบครัวยากจน สามารถหาเงินล้านดอลลาร์ได้เมื่ออายุเพียงแค่ 24 ปี และด้วยความที่เคยเป็นทั้ง “คนจน” และ “คนรวย” นี่คือความแตกต่าง 10 ประการที่เขามองเห็น
คนยากจนขี้สงสัย
คนจนมักจะคิดว่าทุกอย่างสามารถเกิดความผิดพลาดได้เสมอ หรือไม่ก็คิดว่าคนอื่นจ้องแต่จะเอาผลประโยชน์จากตน
คนรวยเชื่อมั่น
คนรวยส่วนใหญ่กล้าวางทรัพย์สินหรือเปิดประตูบ้านทิ้งไว้ พวกเขาเชื่อมั่นและไว้วางใจต่อคนที่รู้จัก และให้โอกาสคนอื่นๆ ได้พิสูจน์ตัวเอง
คนจนมองหาข้อผิดพลาด
คนที่ยากจนข้นแค้นมักจะมองแต่สิ่งที่ผิดพลาดและจมจ่อมอยู่กับความทุกข์ ซึ่งจบลงด้วยการโทษสิ่งรอบข้าง โทษสังคม หน้าที่การงาน สภาพอากาศ และทุกอย่างเพื่อให้เป็นข้ออ้างที่ทำให้ตนไม่ประสบความสำเร็จ
คนรวยมองหาความสำเร็จ
คนที่ประสบความสำเร็จรู้ดีว่าทุกสิ่งทุกอย่างมีเหตุผลในตัวมัน พวกเขาไม่ปล่อยให้สิ่งที่เกิดขึ้นมาควบคุมชีวิตของตน แต่ลงมือทำต่อไปเพื่อมุ่งสู่เป้าหมาย
คนจนตั้งสมมติฐาน
เวลาโอกาสผ่านเข้ามาคนยากจนมักจะคิดไปเองว่ามันไม่มีทางประสบความสำเร็จ
คนรวยตั้งคำถาม
ส่วนคนร่ำรวยนั้นมักจะตั้งคำถามว่า “ถ้าเกิดว่า?” เช่นถ้าเกิดว่าเราลงมือทำแล้วสำเร็จ มันก็คุ้มค่าที่จะเสี่ยงดู
คนจนพูดว่า “พวกเขา”
คนจนมักจะไม่กล้าแสดงความเป็นเจ้าของและทำตัวเป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จ
คนรวยพูดว่า “พวกเรา”
ในขณะที่คนรวยกล้ารับผิดชอบซึ่งจะนำความสำเร็จมาให้
คนจนต้องการสิ่งที่ราคาถูกที่สุด
หลายคนเสียเงินไปกับสิ่งที่ตนไม่ต้องการอย่างแท้จริงเพียงเพราะมันลดราคาหรือราคาถูกกว่าอย่างอื่น ซึ่งนอกจากจะไม่ทำให้เกิดประโยชน์แล้วยังเสียเงินไปฟรีๆ
คนรวยต้องการสิ่งที่ดีที่สุด
แต่คนร่ำรวยนั้นยอมทุ่มเททุกอย่างเพื่อค้นหาสิ่งที่ดีที่สุดให้กับตัวเอง และผลที่ได้รับนั้นคุ้มค่าเสมอ
คนจนคิดว่าเงินสำคัญกว่าเวลา
คนส่วนใหญ่เสียเวลาในชีวิตไปมากมายเพื่อหาเงิน คุณสามารถหาเงินกลับมาได้ แต่อย่าลืมว่าคุณไม่อาจเอาเวลาที่เสียไปกลับคืนมาได้อีกครั้ง
คนรวยคิดว่าเวลาสำคัญกว่าเงิน
ส่วนคนรวยใช้เวลาอย่างคุ้มค่ากับสิ่งที่รักและเป็นประโยชน์ต่อตนเองหรือสังคม
คนจนชอบแข่งขัน
เมื่อโอกาสเดินทางมาถึงคนยากจนมักจะมองว่าคนอื่นกำลังทำอะไรและหาทางขัดขวางพวกเขา แทนที่จะหาหนทางก้าวไปสู่ความสำเร็จด้วยตนเองจนทำให้เสียเวลาไปอย่างเปล่าประโยชน์
คนรวยชอบสร้างสรรค์
คนรวยนั้นใช้ความคิดสร้างสรรค์ให้เกิดประโยชน์จนกลายเป็นสิ่งที่ไม่เคยมีใครเคยทำมาก่อน
คนจนโอดครวญ กล่าวโทษ และวิพากษ์วิจารณ์
คนบางคนนั้นยากจนเพราะถูกสอนมาโดยบรรพบุรุษ พวกเขามองว่าทุกอย่างรอบตัวนั้นไม่ถูกต้องและผิดเสมอ
คนรวยยกย่องและสรรเสริญ
คนรวยเรียนรู้ที่จะซาบซึ้งกับการกระทำของคนอื่น พวกเขามองหาสิ่งดีๆ และโอกาสดีๆ จากทุกอย่างรอบตัว
คนจนขอคำแนะนำจากมือสมัครเล่น
พวกเขามักจะฟังความเห็นจากทุกคนทุกอย่างจนบางครั้งทำให้เกิดความสับสนและขัดขวางความเจริญก้าวหน้า
คนรวยขอคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ
ส่วนคนรวยนั้นจะคิดอย่างละเอียดถี่ถ้วนด้วยตัวเองจากนั้นจึงสืบหาข้อเท็จจริงและรับฟังคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญมาปรับใช้กับตนเอง
คนจนดูโทรทัศน์
คนที่ไม่ประสบความสำเร็จมักจะใช้เวลาอย่างเปล่าประโยชน์ไปกับการดูโทรทัศน์หรือสื่อต่างๆ ที่เอาแต่ป้อนข้อมูลโดยไม่เปิดโอกาสให้ใช้ความคิดสร้างสรรค์
คนรวยอ่านหนังสือ
ในทางกลับกันคนที่ประสบความสำเร็จนั้นอ่านหนังสือมากมายเพื่อหาความรู้และนำไปต่อยอดเพื่อความก้าวหน้า การอ่านหนังสือนั้นช่วยเปิดมุมมองใหม่ๆ และช่วยให้เข้าใจสิ่งต่างๆ มากขึ้น
สิ่งสำคัญในการประสบความสำเร็จและกลายเป็นคนร่ำรวยก็คือการลงมือทำตามความฝันและหมั่นศึกษาหาความรู้เพื่อพัฒนาตนเองอยู่เสมอ เพียงแค่เชื่อมั่นและกล้าที่จะเปิดรับสิ่งใหม่ๆ ก็จะทำให้คุณเป็นเศรษฐีได้อย่างแน่นอน