แอฟ ทักษอร เล่าวินาทีเดินออกมาจากบ้าน สงกรานต์(คลิป)
แอฟ ทักษอร เล่าวินาทีเดินออกมาจากบ้าน สงกรานต์(คลิป)
คาราคาซังแยกกันอยู่มานานถึง 2 ปีแล้วก็ยังไม่มีวี่แววความชัดเจน สำหรับปัญหาครอบครัวของอดีตสามีภรรยา แอฟ ทักษอร และ สงกรานต์ เตชะณรงค์ ซึ่ง สาวแอฟ ยืนยันคำเดิมว่าไม่มีทางกลับมาเป็นเหมือนเดิมและพร้อมหย่าเสมอ รอแค่ฝ่ายชายยินยอมเซ็นใบหย่าเท่านั้น
ต่อมา สงกรานต์ เตชะณรงค์ ออกมาเปิดใจกับ ไนน์เอ็นเตอร์เทน ถึงเรื่องนี้ว่า เรื่องนี้เป็นอย่างที่แอฟ ทักษอร พูดผ่านสื่อตลอด แม้ว่าเราจะไม่ได้มีสถานะแบบเดิม แต่เราก็ยังคงเป็นเพื่อนกัน ตนก็บอกแอฟว่า หากมีอะไรที่ตนช่วยได้ ตนก็พร้อมช่วยเสมอ เราเคยใช้ชีวิตด้วยกันมา เคยมีความรู้สึกดี ๆ ต่อกัน ถ้าไม่มีความรู้สึกต่อกันก็คงไม่ใช้ชีวิตด้วยกัน
ส่วนเรื่องตามง้อนั้น เราก็ไม่ถึงขนาดนั้น แต่จะมีพูดคุยถามสารทุกข์สุกดิบ ส่วนเรื่องหย่า ก็ยังคงอยู่ในขั้นตอนของมัน ตนขอไม่พูดออกสื่อ และคงไม่ยืนยันวันที่แน่นอนได้ ตนยังเสียดายความเป็นครอบครัว เพราะเราเองก็มีลูกที่น่ารัก และเราก็ไม่อยากให้ลูกรู้สึกอย่างนี้ ส่วนผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายเองก็เคารพในการตัดสินใจของเราทั้งคู่
ส่วนปัญหาในเรื่องของลูกนั้น เราพยายามที่จะมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้ลูก ส่วนสิทธิ์ในการดูแลลูกนั้น ถ้าน้องว่างตรงกัน เช่นวันเสาร์อาทิตย์ หรือบางทีก็จะโทร.เช็กวันธรรมดา ตนก็จะไปรับลูกมาอยู่ด้วย ส่วนเรื่องรับงานของน้องปีใหม่นั้น แอฟเองก็ช่วยดูให้อยู่แล้ว ส่วนใหญ่ก็งานสั้น ๆ สนุก ๆ
อย่างไรก็ตาม ตอนนี้เราก็พยายามหาวิธีคุยกับเขาว่าพ่อแม่อาจจะไม่ได้อยู่ด้วยกัน แต่สิ่งที่เรามอบให้เขา ก็จะทำให้เขาไม่รู้สึกขาด ส่วนน้องปีใหม่เองก็ไม่เคยถามอะไร
คิดว่าอนาคตหากพูดเรื่องหย่ากับลูกแล้ว จะมีผลกระทบไหม สงกรานต์บอกว่า จะบอกไม่คิดเลยก็ไม่ได้ แต่ก็ต้องหาวิธีการมาแก้ไข เราเองก็เลยจุดเครียดมาแล้ว
ล่าสุด แอฟ ทักษอร ได้ออกมาเปิดใจกับรายการ แฉ ถึงเรื่องราวในชีวิตคู่ว่าเวลาที่ตนมีปัญหา ก็มักจะเข้าไปเคลียร์เลย ตนจะไม่ค่อยวีนไม่ค่อยปรี๊ด คนที่เคยเห็นก็จะเป็นผู้โชคดี ซึ่งก็คือคนนั้นแหละ ทั้งนี้ ตอนที่ตนปรี๊ด วีน อารมณ์ร้อน คืออารมณ์ยังไปไม่สุด แต่ถ้าโกรธมาก ๆ ตนจะเงียบ และจะบอกให้ผู้ชายรู้ไว้ว่า ถ้าผู้หญิงยังร้องไห้อยู่ ก็คือยังแคร์ ยังมีเยื่อใย แต่ถ้าหยุดพูดเมื่อไรคืออันตราย
"เมื่อถามว่าวันที่ตัดสินใจจบชีวิตครอบครัวนั้น เป็นอย่างไร แอฟบอกว่า ตนก็เดินออกมา ไม่ได้พูดอะไร ไม่ได้เก็บของออกมาด้วย เราก็แค่กลับบ้านตัวเองแล้วไม่กลับไป ทำให้เรื่องนี้มันดราม่าน้อยที่สุด เพราะฉะนั้นจะไม่มีชอตร้องไห้ตอนเก็บของ ส่วนสิ่งที่ทำให้เรามองว่า เป็นฟางเส้นสุดท้ายที่ออกมา ก็เพราะเราคิดถึงลูก บางคนอาจจะอดทนต่อเพื่อลูก แต่เราไม่อยากให้ลูกมาอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่ดีกับเด็ก และเราเองพออยู่ในสถานการณ์หนึ่ง ก็ตัดสินใจไม่นาน เพราะไม่ใช่ว่าเราเองเพิ่งเจอ เพิ่งเริ่มคิด เรามั่นใจว่าเราอดทน และพยายามมาหลายปี ไม่ใช่เด็ก ๆ ที่ทะเลาะกันและน้อยใจและจะจบความสัมพันธ์"
ก่อนที่จะมีข่าว ตนก็ได้ออกมาจากบ้านนั้นประมาณ 1 ปี ที่ไม่ได้อยู่ด้วยกัน ซึ่งตนก็ไม่ได้ตั้งใจที่จะปิด และใช้ชีวิตปกติ อย่างช่วงแรกถ้าเขามารับลูก ตนก็ยังมีไปด้วย แต่ค่อย ๆ ลดระดับความสัมพันธ์ลงส่วนความสัมพันธ์ของตนกับสงกรานต์นั้น คือ เราก็เหมือนเพื่อนในระดับหนึ่ง ที่ไม่ได้พูดคุยกันทุกวัน ส่วนปีใหม่เองยังไม่ทราบเรื่องนี้ แต่เราก็ไม่ได้ปิดบังเขา เพราะเขายังอยู่ในวัยที่ยังเด็ก หากยังไม่ถามเราก็ยังไม่พูดอะไร ถามว่าที่ยังไม่กลับไป เพราะสงกรานต์ไม่มาง้อใช่ไหม
แอฟบอกว่า หากเป็นมดดำ ผ่านไป 2 ปีแล้วแฟนมาง้อจะทำอย่างไร (มดดำเงียบ) เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับง้อ เพราะเราไม่ได้งอน เราเองตัดสินใจนานมากแล้ว ส่วนเรื่องอนาคตเราเองยังมองไม่เห็นว่าจะกลับไปอยู่กันเหมือนเดิมได้ไหม ตอบไม่ได้จริง ๆ ส่วนความรักของตนนั้น ตอนนี้ตนยังไม่เปิดรับใคร แต่ในอนาคตก็อีกเรื่อง สัญญาไม่ได้ว่าจะอยู่คนเดียวไปตลอดชีวิต เพราะมันอีกยาว เรายอมรับว่าเราเคยมีความสุขในชีวิตคู่ ในชีวิตครอบครัว แต่พอมีอะไรที่จะต้องจบแค่นั้น ก็ต้องจบแค่นั้น สิ่งดี ๆ ก็ยังมีอยู่ เลยทำให้เราไม่กลัวการมีชีวิตครอบครัว ถามว่าถ้าอนาคตสงกรานต์มีแฟนใหม่ แอฟจะรับได้ไหม แอฟบอกว่า ไม่รู้สึกอะไรเลย หากเขาจะไปจีบคนใหม่ตนก็ไม่ว่า ไม่รู้สึกอะไร เพราะตนผ่านความรู้สึกนั้นมาแล้ว เราผ่านความเสียใจและจบไปแล้ว