หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

นึกอะไร ไม่ออก สมองตันๆมาเจาะกระโหลก สร้างความนึกคิดกันมั้ย !? เจาะเพื่ออะไร เจาะทำไม วันนี้จะพาไปเจาะลึกเลย

โพสท์โดย warrior B

นึกอะไร ไม่ออก สมองตันๆมาเจาะกระโหลก สร้างความนึกคิดกันมั้ย !? เจาะเพื่ออะไร เจาะทำไม วันนี้จะพาไปเจาะลึกเลย

เมื่อเรามีอาการปวดท้อง พ่อหรือแม่ จะพาไปหาหมอ หมอจะถามอาการต่างๆ และตรวจดู เสร็จแล้ว หมอจะให้ยามารับประทาน พร้อมทั้งแนะนำเรื่องอาหารและการพักผ่อน การรักษาแบบนี้ เรียกว่า การรักษาทางอายุกรรม 

แต่ถ้าเมื่อเอายาไปรับประทาน และปฏิบัติตัวตามที่หมอสั่งแล้ว อาการปวดท้องกลับเป็นมากขึ้น มีคลื่นไส้ อาเจียน พ่อหรือแม่ จึงพามาให้หมอดูอีกตามที่สั่งเอาไว้ คราวนี้หมอตรวจใหม่และบอกว่าสงสัยจะเป็นไส้ติ่งอักเสบ ต้องผ่าตัดเอาออก การผ่าตัดเพื่อรักษาโรคนี้ เรียกว่า การรักษาทางศัลยกรรมความรู้ทางศัลยกรรมเรียกว่า วิชาศัลยศาสตร์ 

วันนี้จะนำวิธีการ ศัลยศาสตร์ รักษาโรคชนิดหนึ่งมานำเสนอ ซึ่งวิธีนี้ เป็นการรักษาเมื่อนานมาแล้ว ไม่ใช้นานธรรมดา แต่นานถึงหลายพันปี และวิธีการรักษาก็โหดด้วย แต่น่าเหลือเชื่อวิธีการนี้ปัจจุบัน ยังอุตส่าห์นำมาใช้กับแพทย์สมัยอีก



วิธีการนี้เรียกว่า เทรพเพนเนชั่น ( Trepanation )เทรพเพนเนชั่น เป็นวิธีการรักษาโดยการเจาะกะโหลกเป็นรูกลม โดยใช้เครื่องมือเจาะ ที่มีความแม่นยำสูง ที่เรียกว่า ค็อตแมน เครเนี่ยล เพอร์ฟอร์เรเตอร์(Codman Cranial Perfator) ซึ่งเครื่องมือไฮเทคนี้ จะปิดรูกะโหลก โดยอัตโนมัติหลังจากที่ทำการเจาะเข้าไป เพื่อทำการรักษาแล้ว
.
ความจริงวิธีการเจาะกะโหลกแบบนี้ มีมาตั้งนานแล้ว ทั้งในยุโรปเอเชียและชาวอินเดียนแดง ในยุคหินใหม่ เมื่อ 7,000 ปีที่แล้ว มีหลักฐาน พบการใช้เครื่องมือโบราณเพื่อเจาะกะโหลกศรีษะ ทั้งสองข้างให้เป็นรูซึ่งเรียกกระบวนการนี้ว่า trepanation 
หลักฐานยืนยัน

 

จากการขุดพบโครงกระดูก ว่า มีการผ่าตัดกะโหลกศีรษะที่เรียกว่า การเจาะกะโหลก ซึ่งกระทำโดยการ เจาะรูเข้าไปในกระดูกหุ้มสมอง การศึกษายังพบอีกว่า ผู้ป่วยบางคน สามารถมีชีวิตอยู่ได้หลายปี หลังจากการเจาะกะโหลก

สำหรับในประเทศไทย เท่าที่มีการศึกษาโครงกระดูกหลายแห่ง เช่น....การศึกษาของศาสตราจารย์นายแพทย์สุด แสงวิเชียร 
พบว่า ที่บ้านเก่า จังหวัดกาญจนบุรี พบร่องรอยของกระโหลก ที่มีการถูกเจาะ (Trepanation) โรคกระโหลกหนา ที่เกิดจากคนเป็นโรคธาลาสเสเมีย (Thalassemia)

สำหรับการเจาะกะโหลกนั้น ในสมัยก่อนมีวัตถุประสงค์แตกต่างกันออกไป ในแต่ละท้องถิ่น เช่น จุดประสงค์เพื่อการรักษาชีวิต ชาวอินเดียนแดงเมื่อกว่า 3000 ปี มาแล้ว มีร่องรอยของการเจาะกะโหลก สันนิษฐานว่าเพื่อรักษาโรคปวดหัว ลมชัก หรือเสียสติในสมัยนั้นมีความเชื่อว่า การทำเช่นนี้ จะสามารถรักษาอาการปวดหัวและความผิดปกติ ประเภทต่างๆ 

นอกจากนั้นการเจาะกะโหลกบางครั้ง อาจกระทำด้วยเหตุผล ทางความเชื่อและศาสนา เนื่องจากเชื่อว่า รูที่กะโหลกนี้ จะเป็นช่องทางปลดปล่อยวิญญาณร้าย ออกจากร่างกายผู้ป่วยด้วย

ตัวอย่างการเจาะกะโหลกในสมัยปัจจุบันก็เช่น เมื่อวันที่ 20 พ.ค. 52 นายแพทย์เดวิด ไทแนน และนายแพทย์ร็อบ คาร์สัน แพทย์ประจำโรงพยาบาลในเมืองแมรีเบอโรห์ เมืองเล็กๆ ทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของเมลเบิร์น ได้ตัดสินใจ ใช้สว่านบ้านเจาะกะโหลกศีรษะเด็กชายนิค วัย 13 ขวบ ที่ประสบอุบัติเหตุตกจักรยานเพื่อนำเลือดคั่ง ในสมองออกจนสามารถช่วยชีวิตหนูน้อยเอาไว้ได้

ข่าวระบุว่า ก่อนหน้านั้น วันศุกร์ เด็กชายนิค ขี่จักรยานและเกิดอุบัติเหตุ หัวกระแทกพื้นคอนกรีต แม้ว่าภายนอก จะดูเหมือนไม่เป็นอะไร แต่กลับมีอาการเลือดออกในสมอง โดยนางคาเรน ภรรยาของเขา ตัดสินใจพาลูกไปโรงพยาบาลหลังจาก พบก้อนด้านหลังใบหูของลูกชาย

หลังจากนั้นอาการของเด็กชาย ก็แย่ลงเรื่อยๆ เริ่มหมดสติบ่อยครั้ง จนถึงขั้นต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ ทำให้แพทย์ 2 คนตัดสินใจเปลี่ยนห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาลเป็นห้องผ่าตัด 

โดยนายแพทย์ไทแนนกล่าวว่า หากไม่ทำอะไรเพื่อลดแรงดันในสมองแล้วเด็กชายนิคจะต้องเสียชีวิตแน่ๆ แต่แผนกศัลยกรรมของโรงพยาบาล ไม่มีสว่านที่มีกำลังพอที่จะเจาะกะโหลกเด็กชาย พวกเขาจึงไปเอาสว่านจากแผนกซ่อมบำรุงมาใช้แทน แล้วทำการผ่าตัดโดยรับฟังคำแนะนำ จากศัลยแพทย์ด้านระบบประสาทในสมอง ที่เมลเบิร์นทางโทรศัพท์ไปด้วย

"มันน่ากลัวมาก เพราะคุณจะเอาแต่กังวลว่าตัวเองกดสว่านแรงไปหรือเปล่า แต่เมื่อเลือดทะลักออกมา หลังจากที่คุณเจาะกะโหลกเข้าไปได้แล้ว เราทั้งคู่ก็ตระหนักว่าเราตัดสินใจถูกแล้ว" นายแพทย์ไทแนนกล่าว

หลังจากที่ต่อท่อ เพื่อนำเลือดออกมา จากสมองแล้ว เด็กชายนิค ก็ถูกนำตัวขึ้นเครื่อง ไปรักษาต่อ ที่เมิลเบิร์นแล้วก็ฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว สามารถออกจากโรงพยาบาลได้ตรงตามกำหนด ซึ่งเป็นวันเกิดครบ 13 ปีของหนูน้อยพอดี

แต่นั้นคือการรักษา แต่คุณเคยเห็นคนเจาะกะโหลกเล่นๆ ไหมล่ะ ?

มีคนกลุ่มหนึ่งเชื่อว่า การเจาะกะโหลก จะเป็นการทำให้ปริมาณเลือด ไหลเวียนเข้าสู่สมองเพิ่มมากขึ้นและทำให้ มีสติและนึกคิด เพิ่มขึ้นหลายเปอร์เซ็นต์ พวกเขาอธิบายตามหลักการแพทย์ว่าการเจาะกะโหลกศีรษะนั้น มีส่วนทำให้สามารถลดความเครียด และทำให้เส้นเลือด ที่หล่อเลี้ยงสมองเดินสะดวกยิ่งขึ้น มีผลทำให้ปริมาณออกซิเจนและกลูโคส วิ่งเข้าไปพื้นที่สมองมากขึ้น 
ทำให้ผู้ที่ได้รับการเจาะสมองนั้น มีความสดชื่นและเป็นสุขตามไปด้วย โดยไม่มีอาการทางประสาทแต่อย่างใด ... !

ชายคนหนึ่งชื่อเล่นว่า “โจ” อดีตนักเรียนอีตัน(โรงเรียนกินนอนชื่อดังของอังกฤษ) ไม่รู้อะไรที่นึกสนุกขึ้นมา เมื่อเขาเห็นอุปกรณ์เจาะกะโหลกชื่อ เทรเพน(Trepan) เป็นเครื่องเจาะกะโหลกที่รูปร่างคล้ายจุกขวดไวน์ มีขายตามร้านขายอุปกรณ์การแพทย์ โดยชิ้นส่วนหลักของเครื่องเจาะนี้ จะมีลักษณะเป็นเดือยโลหะแหลมคมโดยมีวงแหวน ที่เป็นฟันเลื่อยล้อมรอบอยู่ เมื่อเวลาจะใช้งานก็แทงเจาะเดือยแหลม(ที่มีฟันเลื่อยวงแหวน)นี้เข้าไปที่กะโหลก พร้อมกันนั้นต้องจับให้มั่นคงด้วย
.
ขึ้นชื่อว่าหัวของมนุษย์แล้ว ถือได้ว่าเป็นอวัยวะที่บอบบางที่สุด และรับรู้ความรู้สึก ได้ดีสุด การเจาะหรือขุดผ่านกระดูกกะโหลก เข้าไปโดยไม่ทำให้เนื้อเยื่อสมองได้รับความกระทบสะเทือนนั้นหรือได้รับความอันตรายนั้น ถือได้ว่าเป็นความระมัดระวังอย่างสูงยิ่ง
.
เมื่อดันเดือยแหลมลึก เข้าไปจนส่วนที่ฟันเลื่อยนั้นแตะที่กระดูกกะโหลก ส่วนที่เป็นวงเลื่อยจะเกาะติดเนื้อกะโหลกและทำให้สามารถดึงแผ่นวงกะโหลกศีรษะออกมาได้ ทำให้เห็นเนื้อสมองเต้นตุบๆ อยู่ภายในอย่างน่าสยอง
.
ในคราวที่โจ ทำการเจาะกะโหลกด้วยตนเองนั้น เขาถือเข็มฉีดยาและยาสลบอยู่ในมือด้วย แต่เขาไม่มีแรงพอในการกดเดือยแหลมเข้ากะโหลกตนเอง เขาเลยต้องมีผู้ช่วยและก็พบว่าการเจาะกะโหลกของโจ นั้นประสบความล้มเหลว เลือดไหลจากรูกะโหลกมากมายพลุ่งพล่าน ไปทั่วบริเวณ โจสลบคาที่ ต้องส่งเข้าโรงพยาบาลโดยด่วน
.
โจปลอดภัยในเวลาต่อมา แต่ดูเหมือน โจ จะไม่สนใจ กับการรอดตายครั้งนี้นัก ในเวลาต่อมา เขาก็เริ่มพยายามเจาะกะโหลกตัวเองอีกครั้ง .... !!!
.
“มันเหมือนมีเสียงอะไรบางอย่าง ที่เร่งเร้าให้ผมเจาะกะโหลกตัวเอง ผมจึงดึงเครื่องมือเจาะออกมา และเริ่มต้นเล่นงาน หัวกะโหลกของผม ตามต้องการ คราวนี้ผมรู้สึกเหมือนมี ฟองอากาศในสมองพากันเต้นอยู่ตุบตับในยามที่ กะโหลกโดนกดดันเรื่อยๆ”
.
“แต่จะว่าไปแล้ว การเจาะครั้งที่สองแม้จะไม่เป็นไปตามที่ต้องการ แต่ปลายเครื่องเจาะก็ทะลวงลึก จากปากรูกะโหลก เข้าไปตั้งหนึ่งนิ้ว และเท่านั้นก็มากพอ ที่จะทำให้เลือดทะลักออกมาและกระเด็นไปเปรอะเปื้อน กระจกเงา ที่ผมเตรียมไว้ส่องการ ปฏิบัติการของตนเองจนทำให้ผมตะลึงไปเหมือนกัน ผมเห็นรู้สึกดีที่มีเลือดพุ่งพล่านออกมา ราวกับน้ำพุตลอดเวลา"โจพูดถึง ความจริงที่น่าทึ่ง ราวกับว่า นี้เป็นเรื่องธรรมดาเรื่องหนึ่ง ... !!
.
แต่แล้วการเจาะกะโหลก ครั้งที่สองของโจ ไม่ประสพความสำเร็จมากนัก เพราะเครื่องเจาะไม่ตรงตำแหน่งที่ต้องการ รูที่เจาะได้จึงเล็กเกินไป
.
“การเจาะที่ไม่เหมาะสมครั้งนั้น ทำให้ผมลังเลใจที่จะดำเนินการเจาะครั้งต่อไป ผมกลัวว่ามันจะเป็นการทำลายเนื้อเยื่อสมอง บอกตามตรงถ้าตอนนี้ ผมมีเครื่องเจาะกระโหลกไฟฟ้าละก็งานเจาะจะง่ายขึ้นเยอะเลย ( เออ ดูมัน จะโหดไปไหน ) 
.
ในปี 2000 มีข่าวว่ามีชาวอเมริกัน ทำแบบเดียวกับโจราว 12 คน โดยการไปผ่าเจาะกะโหลกในเม็กซิโก พวกเขายินยอมจ่าย
การเจาะกะโหลกที่ว่านี้ ถึง 2500 ดอลลาร์ แบบไม่เสียดาย
.
ลิลลี่ บริดจ์ อายุ 28 ปี คือผู้หนึ่ง ที่เข้ารับการเจาะกะโหลก เพื่อเพิ่มพลังความคิด เธอไปเจาะกะโหลก ที่เมื่อมอนเทอร์เรย์ เม็กซิโก เธอกล่าวว่าการเจาะกะโหลกนั้นทำสั้นๆ แค่ 15 นาทีเท่านั้น เธอบอกว่า ทำเสร็จแล้วเหมือนมีเฮลิคอปเตอร์ บินวนอยู่รอบหัว
.
“หนูพอใจกับการเจาะกะโหลกค่ะ หลังจากเจาะกะโหลกแล้ว หนูรู้สึกมีพลังความคิดเพิ่มขึ้น” เธอกล่าวส่งท้าย
.
แต่กระนั้นแพทย์แผนปัจจุบัน ต่างออกมาปฏิเสธการรักษานี้ เพราะยังไม่มีการยืนยัน ว่าการเจาะกะโหลก สามารถทำให้ เพิ่มความนึกคิดขึ้น แพทย์อังกฤษปฏิเสธ ที่จะเจาะกะโหลกให้คนไข้เพราะว่าการเจาะกะโหลกนั้น อาจส่งผลให้มีอาการเสี่ยงหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเส้นเลือดอุดดัน อาการบาดเจ็บทางสมอง รวมไปถึงอาการไขสมองอักเสบได้ด้วย
.
ท้ายสุด มันก็ขึ้นอยู่กับวิจารญาณ ของแต่ละคนว่าการเจาะกะโหลกนั้น ทำให้เพิ่มความสดชื่น อารมณ์ดี และให้พลังแก่ผู้ถูกเจาะจริงหรือ !?
...
cr.livenumetal

⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
warrior B's profile


โพสท์โดย: warrior B
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
"ทุ่งบัวตอง" มหัศจรรย์ทางธรรมที่อยากให้ทุกคนได้มาชม"พชร์" ลั่น! เรื่องของxึง xูไม่เสือxก็ได้..หลังจะช่วยเคลียร์ใจ "มอส-เต๋า" ทะเลาะกันหลายคนยังไม่รู้ เปิดใช้ซอสหอยนางรมแล้ว"ต้องทำแบบนี้"ไม่แคร์ครอบครัว? ผัวนางร้ายควงสาวใหม่ เที่ยวญี่ปุ่นท่ามกลางใบไม้เปลี่ยนสีเบี้ยวไม่ไหว! เจ้าของรถขยะจัดหนัก แก้เผ็ดถึงหน้าบ้านแฮกเกอร์ไทยสร้างตำนาน!เห็นชื่อทีมแล้วพีค พิธีกรอ่านทีลุ้นตามกันทั้งงานความงดงามในธรรมชาติ: ผีเสื้อปีกใส มนต์เสน่ห์แห่งปีกโปร่งใสเหยื่อปลัดสาวเมาขับ เสียชีวิตเพิ่มสุดสยอง"ผีโพลงในป่าลึก"จับแก๊งค้าต่างด้าวผิดกฎหมายก่อนข้ามฝั่งไปมาเลเซีย!เลขเด็ด เลขมาเเรง เลขดัง "รวมหวยเด็ดสำนักดัง vol.10" งวดวันที่ 1 ธันวาคม 2567"ปูยักษ์แทสเมเนีย" ยักษ์ใหญ่แห่งท้องทะเลลึก
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
การลดน้ำหนักให้ถูกวิธีและเห็นผลจริง"ปูยักษ์แทสเมเนีย" ยักษ์ใหญ่แห่งท้องทะเลลึก"พชร์" ลั่น! เรื่องของxึง xูไม่เสือxก็ได้..หลังจะช่วยเคลียร์ใจ "มอส-เต๋า" ทะเลาะกันความงดงามในธรรมชาติ: ผีเสื้อปีกใส มนต์เสน่ห์แห่งปีกโปร่งใสจับแก๊งค้าต่างด้าวผิดกฎหมายก่อนข้ามฝั่งไปมาเลเซีย!
กระทู้อื่นๆในบอร์ด ดูดวง เรื่องลึกลับ
เรื่องราวปริศนาการหายตัวไปของ "ลาร์ส มิตแทงค์"4 ราศีดวงดีช่วงครึ่งเดือนหลังพฤศจิกายน 2567 by Nicha พยากรณ์ดวงรายสัปดาห์ 25 พฤศจิกายน-1 ธันวาคม 2567 ดูดวงกับดาราคำเตือนประจำสัปดาห์ 25 พ.ย.-1 ธ.ค. 67 by ภูริดา พยากรณ์
ตั้งกระทู้ใหม่