ปลาซาบะไม่ได้มีแค่เกรดเดียว!
ผมว่าเราๆ คงเคยกินซาบะกันทุกคน แต่วันนี้จะขอพูดถึงสายพันธุ์ปลาซาบะแต่ละอย่าง ว่าแตกต่างกันอย่างไร
ปกติที่เราเคยซื้อปลาซาบะกินกันก็จะไปซื้อที่ BigC, แมคโคร, Lotus หรือที่อื่นๆ ไช่ไหมครับ แต่โดยส่วนใหญ่จะมีซาบะที่ขายอยู่สามแบบก็คือ "Atlantic mackarel" หรือซาบะนอร์เวย และ ซาบะญี่ปุ่น โดยซาบะญี่ปุ่นนั้นก็จะมีปนกันทั้งโกมะซาบะ "Japanese club mackerel" และ มะซาบะ "Pacific mackarel"
หลักๆ เราสามารถจำแนกลายบนตัวปลาแบ่งชนิดพันธุ์ได้โดยง่าย แต่ต้องสังเกตุให้ดีหน่อยถ้าเป็นลายจุดคือโกมะซาบะ "Japanese club mackerel" เนื้อไขมันจะน้อย ส่วนมากนำมาทำพวกปลากระป๋อง ไม่ก็ซาบะแห้ง ส่วนมะซาบะ "Pacific mackarel" จะมีน้อยแต่ก็มีหลงมาบ้าง ตัวนี้เนื้อนุ่ม มีไขมัน รสชาติดี และไม่ค่อยคาว ส่วนเจ้า "Atlantic mackarel" ตัวนี้เน้นไขมันมาก เป็นซาบะที่นิยมเอามาทานในทุกเมนู ไม่ว่าจะดิบจะดอง
ด้วยซาบะบ้านเราโอกาสที่จะเจอเกรดสดดีๆ นั้นเป็นไปได้ยาก ซึ่งบางครั้งต้องไปถึงตลาดปลาญี่ปุ่นบางที่ถึงจะมี แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าปลาจะสด เพราะมันได้รับฉายาว่า "ปลาที่เน่าทั้งเป็น" ปลาซาบะมันเน่าเสียเร็วมาก ดังนั้นการเลือกปลาเป็นจึงสำคัญ
ในกรณีปลาสด ส่วนมากมักแช่ในน้ำผสมน้ำแข็งไว้ ซึ่งไม่ค่อยดีนัก เพราะปลามักบวมน้ำ เนื้อแตกนิ่ม แต่ถ้าจำเป็นต้องเลือก เลือกตัวที่เนื้อแน่น หลังแน่นแบน ท้องป้าน ถ้าดมได้ให้ดมเหงือกต้องไม่เหม็นเน่าหรือคาว ส่วนเหงือกดูที่แดงไม่กรังลิ่มเลือด แต่ส่วนมากไม่ค่อยกรังเท่าไหร่เพราะซาบะแช่น้ำเลือดมักละลายออกจนเหงือกซีดลง ส่วนในกรณีปลาแช่แข็ง ต้องดูตัวที่มันไม่หักงอ ไม่บุ๋มช้ำ ตัวตรงสวยไม่ถลอก หลังแบน ท้องป้าน สีไม่ซีด ไม่มีคราบมันเหลืองกรังครับ
ต้องบอกก่อนว่าปลาซาบะเป็นปลาที่หาไม่ยาก แต่หาสดๆ ดีๆ ยากมาก ดังนั้นถ้ามีโอกาสเจอซาบะดีๆ ไม่ว่าจะไปชิมปลาซาบะแบบสดตามร้านอาหารหรือซื้อยกตัวมาทำเอง จงอย่าปล่อยโอกาสดีๆนั้นหลุดมือ
ปล. ปกติซื้อซาบะถูกๆ ลดราคาที่ห้างโลตัสให้ลูกน้องที่บ้านกินเพราะประหยัดดี ตัวละ 15 บาท กินได้หลายวัน แต่ไปเจอร้านอาหารญี่ปุ่นบางร้านก็จะเจอซาบะดองแบบดีๆ แต่ถ้าไปเจอร้านที่ทำแบบดิบมาให้กินแล้วอร่อยได้นี่ราคาก็ไม่ธรรมดานะจ๊ะ