บอกแล้ว ไปเที่ยวถ้ำ อย่าเก็บอะไรกลับมา
หลังจากไปเที่ยวถ้ำกลับมา เช่าบ้านพัก
ทำอะไรกันกินกัน
นั่งกินกันไปเกือบๆ สามทุ่ม
เพื่อนกลุ่มหนึ่ง ก็แยกย้ายกันไปเล่นรำพัดกันในบ้านหลังที่ฝ่ายหญิงเขาพัก
ที่แคร่ก็เลยเหลือแต่กลุ่มผู้ชายนั่งดวนเหล้ากัน
แต่นั่งคุยกันได้ไม่นาน อยู่ๆแฟนเพื่อนก็เดินมาหาเพื่อน ขอยืมตังส์ ไปสมทบทุน
เพื่อนมันไม่ไว้ใจก็เลยหายไปด้วยกัน
สักพักแฟนเพื่อนอีกคนก็มาตามเพื่อนที่เหลือ หายไปอีก
กลายเป็นตอนนี้เหลือผมกับเพื่อน นั่งก๊งอยู่แค่สองคน
นั่งๆอยู่ลมเย็นๆพัดผ่านมา จนผมรู้สึกขนลุกเพราะความหนาว
พอมองดูบนท้องฟ้า ก็เห็นพระจันทร์ดวงโต ส่องแสงราวกับว่าเป็นกลางวัน
กำลังได้บรรยากาศ อยู่ๆเพื่อนมันก็พูดขึ้นว่า
เฮ้ย.. เพื่อน เรามีเรื่องจะสารภาพ (เสียงมันเหมือนจะเมานิดๆแล้วหละ)
ผมก็ตั้งใจฟังมันพูด ว่ามาเลยเพื่อน
แกจำหินก้อนที่ข้าเจอในถ้ำได้ไหมวะ
ผมก็บอกว่าได้ซิ
เพื่อนก็รีบเล่าต่อเลยว่า เออ.!
จริงๆแล้วข้าไม่ได้ทิ้งไปหรอกโว้ย..
ข้าเอามันมาด้วย
ว่าแล้วมันก็ล้วงเข้าไปในประเป๋ากางเกง แล้วก็เอาหินก้อนนั้นออกมาให้ผมดู
ผมเห็นแล้วก็ ได้แต่ อึ้ง..
อ้าว.. แกเอามาทำไมว่ะ มันไม่ดีนะ
แล้วเพื่อนก็ทำปากแบบ จู่ จู่
แกอย่าพูดดังไป เดี๋ยวคนอื่นเขารู้
ผมก็เลยได้แต่สายหัว เอ็งนี่ทำไรไม่เข้าท่า
แล้วเพื่อนผมมันก็เลยหัวเราะ ก่อนจะเอาหินก้อนนั้นยัดใส่ประเป๋าเสื้อ
แล้วตอนนั้นเอง..อยู่ๆก็ได้ยินเสียงผู้หญิงกรีดร้อง ดังมาจากบ้านพักที่เขารวมตัวกันอยู่
ผมกับเพื่อนตกใจรีบหันไปดู
เฮ้ย! ไรว๊ะ
ได้ยินเสียงเพื่อนๆในบ้าน ร้องเอ๊ อะ เอ๊ อะ กัน แว่วมา
ประมาณว่า แกอย่า แก อย่า..
ผมกับเพื่อนรีบพากันวิ่งเข้าไปดูที่บ้านหลังนั้น
พอเปิดประตูเข้าไป มองไป
ก็เจอเพื่อนๆช่วยกันจับเพื่อนหญิงคนหนึ่งอยู่กลางห้อง
เขาดิ้นไปดิ้นมา ผมเพ้ายาวมาปิดหน้าปิดตาจนดูน่ากลัว
ร้องครางในลำคอ หึม หึม หึม
กูอยาก กิน เลือด..
พอได้ยินเพื่อนผู้หญิงคนนั้นพูด ผมขนลุกซู่ขึ้นมาทันที
เพื่อนที่มาด้วยกันก็ถาม ว่า เฮ้ย.. เป็นไรกันว่ะ
เพื่อนในบ้านก็ตอบมาว่า ก็ผีเข้านะซิ
เท่านั้นแหละไฟในห้องก็ดับพลึ๊บลง จนมืดไปหมด
พร้อมกับเสียง ร้องลั่นของทุกคน ที่ดังออกมาโดยไม่ได้นัดหมาย
โปรดติดตามตอนต่อไป