ตลาดที่อยู่อาศัยพฤษภาคม 61 โตขึ้นแล้ว แต่. . .
ในเดือนพฤษภาคม 2561 ภาพรวมของอสังหาริมทรัพย์ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีการเปิดตัวกระเตื้องขึ้นจากเดือนเมษายนที่ผ่านมา หลังจากที่มีวันหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมา โดยในเดือนนี้มีจำนวนโครงการเปิดขายใหม่ทั้งหมด 22 โครงการ มีจำนวนหน่วยขายรวม 5,722 หน่วย มีมูลค่าการพัฒนาโครงการรวม 17,163 ล้านบาท
ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธานกรรมการบริหาร ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส (www.area.co.th) ได้แถลงผลการสำรวจตลาดที่อยู่อาศัยที่เปิดตัวใหม่ในเดือนพฤษภาคม 2561 ซึ่งมีการกระเตื้องขึ้น จำนวนอสังหาริมทรัพย์ที่เกิดขึ้นใหม่ในเดือนนี้มีทั้งหมด 5,722 หน่วย เพิ่มขึ้นจากเดือนที่ผ่านมาจำนวน 4,158 หน่วย (เดือนเมษายน 2561 มีจำนวน 1,564 หน่วย) หรือเพิ่มประมาณ 266% และมีจำนวนหน่วยขายเฉลี่ยต่อโครงการเพิ่มขึ้นที่ 260 หน่วย
ทำเลที่มีการเปิดขายใหม่ส่วนใหญ่ในเดือนนี้ สำหรับอาคารชุดจะตั้งอยู่ในบริเวณย่านเขตเมืองชั้นใน ชั้นกลาง และส่วนต่อขยายแนวรถไฟฟ้า มีโครงการตั้งอยู่ในเขตกรุงเทพชั้นในเพียงโครงการเดียว บริเวณกรุงเทพชั้นกลาง และส่วนต่อขยายแนวรถไฟฟ้าอีก 4 โครงการ บ้านเดี่ยวจะตั้งอยู่บริเวณส่วนต่อขยายเมือง เช่น บางกรวย-จงถนอมบริเวณถนนเทพารักษ์ เป็นต้น ส่วนทาวน์เฮ้าส์ที่มีการเปิดใหม่ส่วนใหญ่จะตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ส่วนต่อขยายรอบนอก เช่น บริเวณถนนบางกรวย-ไทรน้อย ถนนวัดศรีวารีน้อย ถนนแพรกษา ถนนสุขสวัสดิ์-พระราม 2 ย่านถนนรังสิต-ปทุมธานี และนวนคร เป็นต้น
เมื่อพิจารณาอัตราการขายได้ จะพบว่า ในเดือนแรกของการเปิดขายมีอัตราการขายได้เฉลี่ยที่ 28% ซึ่งจากเดือนที่ผ่านมาที่มีอัตราการขายได้ที่ 53% ต่อเดือน พิจารณาด้านประเภทที่อยู่อาศัยที่มีอัตราการขายได้สูงสุดในเดือนนี้ พบว่า บ้านแฝดเป็นสินค้าที่มีอัตราการขายได้สูงสุดของตลาด คือ มีอัตราการขายได้ 93% (มีการพัฒาออกมาขายจำนวนน้อย และขายดี) บ้านแฝดที่มีอัตราการขายได้สูงสุด คือ ระดับราคา 3 -5 ล้านบาท พัฒนาระดับราคาเดียว มีจำนวน 28 หน่วย ขายได้ 26 หน่วย สำหรับสินค้าในตลาดที่มีอัตราการขายได้รองลงมา คือ ทาวน์เฮ้าส์ (เป็นสินค้าที่พัฒนาออกมาขายมากที่สุดในเดือนนี้ เมื่อเทียบกับสินค้าประเภทอื่น)
โดยภาพรวมทั้งตลาดทาวน์เฮ้าส์ มีอัตราการขายได้ 30% ทาวน์เฮ้าส์ที่มีอัตราการขายได้สูงสุด คือ ระดับราคา 3-5 ล้านบาท มีจำนวน 738 หน่วย ขายได้แล้ว 329 หน่วย (45%) รองลงมา คือ ทาวน์เฮ้าส์ระดับราคา 2-3 ล้านบาท มีจำนวน 1,388 หน่วย ขายได้แล้ว 411 หน่วย (30%) และทาวน์เฮ้าส์ระดับราคา 1-2 ล้านบาท มีจำนวน 1,780 หน่วย ขายได้แล้ว 429 หน่วย (24%) สำหรับตลาดที่อยู่อาศัยกลุ่มหลักอีกกลุ่ม คือ กลุ่มอาคารชุด มีอัตราการขายได้ 26% อาคารชุดที่มีอัตราการขายได้สูงสุด คือ อาคารชุดระดับราคามากกว่า 20 ล้านบาท มีจำนวนหน่วยขาย 2 หน่วย ขายได้ 1 หน่วย (50%) (มีการพัฒนาออกมาขายจำนวนน้อย) รองลงมา คือ อาคารชุดระดับราคา 1-2 ล้านบาท และระดับราคา 2-3 ล้านบาท มีจำนวนหน่วยขาย 487 หน่วย ขายได้ 139 หน่วย และหน่วยขาย 347 หน่วย ขายได้ 102 หน่วย (อัตราขายได้ 29% เท่ากัน) ตามลำดับ
ผู้ประกอบการที่เปิดตัวโครงการใหม่ในเดือนนี้ จะพบว่าเป็นบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ (มหาชน) จำนวน 3 บริษัท คือ บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) และบริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) มีบริษัทในเครือบริษัทในตลาดหลักทรัพย์อีก 4 บริษัท และบริษัทนอกตลาดหลักทรัพย์อีก 3 บริษัท อันที่จริงยังมีโครงการใหม่ที่จะเกิดขึ้นในเดือนพฤษภาคม 2561 อีก แต่เลื่อนการเปิดตัวออกไป
ในเดือนพฤษภาคม 2561 นี้มีโครงการที่เปิดตัวใหม่ มีเพียงโครงการเดียวที่ตั้งอยู่ในเขตกรุงเทพชั้นใน เช่น บริเวณถนนสุขุมวิท 21 (อโศก) ตั้งอยู่ในเขตเมืองชั้นกลาง และส่วนต่อขยายของเมือง (intermediate area) จำนวน 9 โครงการ เช่น ถนนรัชดาภิเษก ถนนจรัญสนิทวงศ์ ถนนเทิดไท ถนนกัลปพฤกษ์ ถนนสุขสวัสดิ์ และสุขุมวิท 72 เป็นต้น ตั้งอยู่ในเขตส่วนต่อขยายรอบนอก เช่น บริเวณถนนบางกรวย-ไทรน้อย ถนนพระราม 2 ถนนวงแหวน-รามคำแหง จำนวน 5 โครงการ และยังมีอีก 7 โครงการที่อยู่ในพื้นที่เขตปริมลฑลซึ่งใกล้แหล่งงาน และชุมชนที่อยู่อาศัยในย่านนั้น เช่น ย่านมีนบุรี ลาดกระบัง เทพารักษ์ รังสิต-ปทุมธานี นิคมอุตสาหกรรมนวนคร เป็นต้น
อย่างไรก็ตามในเดือนพฤษภาคมนี้ทาง REI ได้พบโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่รอเปิดขายใหม่ในอนาคตอีก 419 โครงการโดยได้แสดงชื่อโครงการ และที่ตั้งโดยสังเขปไว้ ซึ่งความคืบหน้าจะได้นำเสนอต่อไป จะสังเกตได้ว่ามีโครงการหลายแห่งที่ได้ประกาศตัวหรือเปิดตัวทางหน้าหนังสือพิมพ์ อย่างไรก็ตามในการเปิดขายจริง (ที่มีโบรชัวร์และสำนักงานขายที่พร้อมต้อนรับผู้สนใจซื้อไปเยี่ยมชม) ยังไม่มี จึงถือเป็นโครงการที่ยังไม่เปิดตัวและเมื่อเปิดตัวจริงแล้ว จะได้ดำเนินการสำรวจต่อไป
โดยสรุปแล้ว จำนวนโครงการเปิดใหม่ในเดือนพฤษภาคม 2561 เปิดมากกว่าเดือนเมษายน 2561 มาก แต่เมื่อเทียบกับเดือนพฤษภาคม 2560 หรือ 1 ปีที่ผ่านมา ปรากฏว่ายังเปิดตัวน้อยกว่าปีก่อนเสียอีก ดังนั้นจึงอาจกล่าวได้ว่าเศรษฐกิจยังไม่ได้กระเตื้องขึ้นนัก
ที่มา : http://bit.ly/2MrngV3