ตำนานขมังเวทย์เมืองไทย พิธีประสะโลหิต ถือเป็นพิธีกรรมที่สำคัญ ของวิชาพระเวทย์วิเศษสุด
พิธีประสะโลหิต ถือเป็นพิธีกรรมที่สำคัญ ของวิชาพระเวทย์วิเศษสุด ของคุณพ่ออาจารย์ ฟ้อน ดีสว่าง
ที่ท่านได้สืบทอดเอาไว้ให้ศิษย์
พิธีประสะโลหิต คืออะไร ทำเพื่ออะไร ทำได้เมื่อไหร่ เป็นหลายคำถาม ที่ผมจะตอบรวมไว้ให้ในโพสท์นี้
ในสมัยคุณพ่ออาจารย์ฟ้อน ดีสว่าง จะทำพิธีประสะโลหิต ในสองกรณี คือ
พิธีประสะโลหิต รับศิษย์เพื่อเอาโลหิตในกายท่าน ประสิทธิ์โลหิต สู่ลูกศิษย์ ด้วยวิธีการสักลงบนกระหม่อมจอมขวัญ
และ ประสะโลหิต เพื่อพุทธาภิเษกวัตถุมงคล คล้ายกับพระเกจิคณาจารย์ ที่ส่งอำนาจจิตรวิทยาคม ผ่านลมกระไอปากบ้าง บ้างใช้พ่นถ่มน้ำลายใส่บ้าง แต่คุณพ่ออาจารย์ฟ้อน ดีสว่าง ท่านใช้โลหิตผสมกับปราณของท่าน พ่นออกมา ประจุลงในวัตถุมงคล ต่างๆ ดังในภาพนี้ เป็นพิธีประสะโลหิต ปะจุใส่ผ้าขาว เพื่อแจกทหารไปรบในสงครามอินโดจีน ที่นายกรัฐมนตรีเป็นคนเชิญท่านทำพิธีเป็นทางการถึง 2 ครั้ง
พอมาถึงยุคหลวงพ่อ หนู เกสโร และหลวงพ่อ สง่า ญาณจาโร
แม้แต่อาจารย์หมอ ประยูร จิตรโสภี การทำพิธีประสะโลหิต ท่านจะทำจะกระทำในพิธี บูชาครู รับศิษย์ และพุทธาภิเษก วัตถุมงคล ด้วยเช่นกัน
แต่ท่านได้รับการบอกกล่าวจากคุณพ่ออาจารย์ ฟ้อน ดีว่าง ไว้ว่า ท่านเป็นรุ่นศิษย์ จึงต้องมีเครื่องบูชาครู เพื่อจะได้สื่อจิต เป็นอามิสบูชา ถึงบรมครูบาอาจารย์ พรหมเทพเทวา ที่คุ้มครองปกปักษ์รักษา สายวิชาอยู่ จึงต้องมี บายศรี หัวหมู และเครื่องกระยาบวช ให้ครบครัน อันเป็นเครื่องสักการะการ พรหมเทพเทวา บรมครูบาอาจารย์ ที่เป็นอาจาริยเทวะ ทุกท่านทุกพระองค์
ส่วนการประสะโลหิต เพื่อประสิทธิ์โลหิตในกายตน สู่ลูกศิษย์ เพื่อรับลูกศิษย์ สืบทอดสายวิชาได้นั้น ผู้กระทำต้องได้ผ่านพิธี รับการประสะโลหิต สืบต่อมาจากครูบาอาจารย์ ที่มีโลหิตครูในกาย จากสายตรงมาก่อน คือได้สักกระหม่อมด้วยโลหิตครูสายตรง มาแล้วเท่านั้น
หากไม่แล้ว การรับศิษย์นั้น ก็ไม่ใช่ศิษย์สายโลหิตครู ในสายวิชาพระเวทย์วิเศษสุด เพราะไม่มีเชื้อสายโลหิตครู ในกายตนมาก่อน คงเป็นได้แค่ศิษย์ ของคนที่สอนวิชาให้เท่านั้นเอง
อาจารย์ เอกใหญ่ บึงพระอาจารย์