หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

ไม่เลือกตั้ง ไม่เจริญ

เนื้อหาโดย doctorsopon

ถ้าไม่เลือกตั้ง ชาติไม่เจริญ ดัชนีความโปร่งใสบอกให้รู้ว่า ไทยยังไม่เป็นอารยะเพราะใช้ปืนคุม ความเจริญจึงไม่เกิด ยกเว้น "เจริญสิริวัฒนภักดี" กับ "เจริญโภคภัณฑ์"

ดัชนีความโปร่งใส หรือในอีกมุมหนึ่งคือ Corruption Perception Index (CPI) ออกมาแล้ว ปรากฏว่าไทยได้คะแนนต่ำเหมือนเดิม อันนี้แสดงว่าการทุจริตยังเหมือนเดิม ความโปร่งใสมีน้อย จากคะแนน 10 ยังต้วมเตี้ยมอยู่แถว 3.7 เรามาดูกันในรายละเอียดของค่าดัชนีความโปร่งใสนี้สักหน่อย กล่าวคือการที่ประเทศไทยได้คะแนนความโปร่งใสอยู่ที่ 3.7 เต็ม 10 แสดงว่ายัง "สอบตก" (https://goo.gl/HCBgSF)

ถ้าเทียบกับประเทศในอาเซียนจะพบว่า ไทยอยู่อันดับที่ 4 ร่วมกับอินโดนีเซีย รองจากสิงคโปร์ บรูไนและมาเลเซีย เฉือนชนะฟิลิปปินส์ และประเทศที่เพิ่งพัฒนามา คือ กัมพูชา เมียนมา ลาว เวียดนาม อย่างไรก็ตามขณะที่ในรอบ 5 ปีที่ผ่านมา (พ.ศ.2555-2560) คะแนนของประเทศไทยคงที่เช่นเดียวกับฟิลิปปินส์ แต่เมียนมา ลาว เวียดนาม อินโดนีเซียกลับมีคะแนนถีบตัวสูงขึ้นอย่างเด่นชัด สิงคโปร์และมาเลเซียแม้มีคะแนนลดลงเล็กน้อย แต่ก็ยังสูงกว่าประเทศไทยมาก  ประเทศที่ยังช้าในด้านความโปร่งใสกว่าเพื่อนก็คือกัมพูชา

จะสังเกตได้ว่ามีประเทศที่เคยได้คะแนนน้อยกว่าเราในปี 2555 แต่ขณะนี้ถีบตัวสูงขึ้นไปจนเท่ากับหรือสูงกว่าคะแนน 3.7 ของไทยเราแล้ว ได้แก่ กรีก ติมอร์เลสเต อาร์เจนตินา โดยเฉพาะอินเดีย และอินโดนีเซีย ที่เป็นประเทศขนาดใหญ่กว่าไทยมาก ยังพัฒนาไปไกลกว่าไทยด้านความโปร่งใส ยิ่งถ้าเทียบกับจีน จีนก็ยังมีความโปร่งใสกว่าไทยโดยได้คะแนน 4.1 จาก 10

สาเหตุหนึ่งที่ประเทศไทยได้รับการประเมินที่เดิมคือ 3.7 คะแนนจากปี 2555 เทียบกับปี 2560 นั้น ก็เพราะประเทศไทยยังไม่มีการปกครองในระบอบประชาธิปไตย ยังปกครองด้วยกำลังอาวุธอยู่ จะสังเกตได้ว่าอินโดนีเซียหลังการเลือกตั้ง เศรษฐกิจก็เติบโต ฟิลิปปินส์ก็เช่นกัน แต่มีการโกง (กันมานาน) อยู่มาก  เมียนมาก็เช่นกัน หลังเลือกตั้งก็ทำให้เศรษฐกิจกระฉูด มาเลเซียตกไปเพียง 4% (4.9 เป็น 4.7 คะแนนเทียบปี 2555 และ 2560) ก็อาจเป็นเพราะการเมืองที่ไม่โปร่งใสเช่นกัน

รัฐบาลได้พยายามกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆ นานา แต่ผลอาจไม่เกิดขึ้นชัดเจน ที่มีข่าวพาดหัวว่า "ฟันธง 3 ปัจจัยหนุน ศก ไตรมาสแรกโตเกินคาด" (กรุงเทพธุรกิจ 27 กุมภาพันธ์ 2561 https://goo.gl/FHBW4y) นั้น ปรากฏว่าในรายละเอียดว่าการส่งออกของไทยแม้จะโต แต่ก็ยังต่ำกว่าจีนและเวียดนามมาก แถมนำเข้าก็โต 24.3% ส่งผลให้ขาดดุลการค้า แม้ยอดขายรถ และภาษีจากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์จะเพิ่มขึ้น แต่เศรษฐกิจภูมิภาคเติบโต 0.7% เท่านั้น ดังนั้นจึงไม่พึงวางใจ

การที่การขายอสังหาริมทรัพย์ดีขึ้นนั้น ส่วนหนึ่งเพราะ

1. เป็นการขายห้องชุดตามแนวรถไฟฟ้า ซึ่งมีโอกาสและศักยภาพที่สูงกว่า

2. เป็นการขายห้องชุดในราคาแพงเป็นสำคัญ จึงทำให้ได้ค่าธรรมเนียมสูง

3. เป็นการขายบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮาส์ย่านชานเมือง เพราะหลายรายเปลี่ยนมาทำบ้านแนวราบแทนบ้านแนวสูงซึ่งเริ่มขายได้ช้าลงโดยเฉพาะบริเวณที่ไกลจากรถไฟฟ้า เป็นต้น

จากการที่มีข้อมูลความโปร่งใส (คะแนน 1-10) และรายได้ประชาชาติต่อหัวของแต่ละประเทศจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (https://goo.gl/sr6Cvm) พบว่า มีความสัมพันธ์เชิงตัวแปรระหว่างความโปร่งใสกับรายได้ประชาชาติต่อหัว โดยเมื่อนำข้อมูลของประเทศต่าง ๆ 167 ประเทศที่มีข้อมูลทั้งสองชุดเข้ามาวิเคราะห์ด้วยการวิเคราะห์การถดถอย (Regression Analysis) พบว่า ค่า R Square อยู่ที่ 64.5% (ยิ่งใกล้ 100% ยิ่งดี) แต่เมื่อได้ตัดเอาข้อมูลที่เป็นค่าผิดปกติ (Outliers) ออกไปแล้ว จะเหลือประเทศที่นำมาวิเคราะห์ 126 ประเทศ

ค่าผิดปกติ อาจเป็นประเทศ เช่น ประเทศภูฏาน ที่มีรายได้ต่อหัวไม่มาก แต่มีความโปร่งใสมากเพราะอาศัยวินัยทางศาสนา เป็นต้น หรือประเทศบางประเทศที่มีรายได้ประชาชาติต่อหัวสูง แต่ความโปร่งใสต่ำ เช่น Mexico และหลายประเทศในอาฟริกา เป็นต้น หลังจากตัดประเทศที่มีข้อมูลผิดปกติออกแล้ว ทำการวิเคราะห์การถดถอยใหม่อีกครั้ง ก็พบว่าค่า R Square เพิ่มสูงถึง 77.8% ซึ่งแสดงว่าตัวเลขทั้งสองชุดนี้มีความสัมพันธ์กันมาก

สำนักงานความโปร่งใสนานาชาติ หรือ Transparency International ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ในกรุงเบอร์ลิน เยอรมนี แถลงว่า "ประเทศไทยได้คะแนนซีพีไอ 37 คะแนน จากเต็ม 100 คะแนน ไต่อันดับเป็น 96 จากเดิม 101 เมื่อปี 2559 ซึ่งไทยได้คะแนน 35 คะแนน . . . คะแนนที่เพิ่มขึ้นน้อยมาก ในเชิงสถิติ ไม่นับว่าเป็นพัฒนาการที่ดีขึ้น และรัฐบาลทหารไทยไม่ได้ดำเนินการปราบปัญหาคอร์รัปชั่นอย่างที่ว่าไว้ตอนแรกสักเท่าไร ในตอนแรก ทางรัฐบาลทหารได้แสดงความปรารถนาที่จะปรับปรุงแก้ไขปัญหาทุจริตของประเทศ อย่างไรก็ตาม เราแทบไม่เห็นการปฏิบัติที่เกิดขึ้นจริง" (https://goo.gl/7evLGk)

ถ้ามีการเลือกตั้งจะเห็นว่าเศรษฐกิจดีขึ้น โดยมีตัวอย่าง เช่น

1. ฟิลิปปินส์ หลังการเลือกตั้งประธานาธิบดีดูเตอร์เต เศรษฐกิจเติบโต 6.9% และ 6.6% เทียบกับปีก่อนหน้าที่ 6.1%

2. อินโดนีเซีย หลังการเลือกตั้งประธานาธิบดีโจโก วิโดโด เศรษฐกิจเติบโต 5.0% และ 5.2% เทียบกับปีก่อนหน้าที่ 4.9%

3. เมียนมา หลังการเลือกตั้ง เศรษฐกิจเติบโตจาก 6.1% เป็น 7.2% เลยทีเดียว (https://goo.gl/sJFi)

อสังหาริมทรัพย์ในประเทศเหล่านี้ก็เติบโตอย่างรวดเร็ว ทำให้เกิดการลงทุนใหม่ๆ เพราะประชาชนมีกำลังซื้อมากขึ้น ต่างประเทศนำเงินเข้ามาลงทุนในประเทศมากขึ้น เศรษฐกิจโดยรวมจึงดีขึ้น ลำพังการ "แจกเงิน" (ให้ปลา) ซึ่งไม่ใช่ "ประชานิยม" (ให้เบ็ด) ย่อมไม่สามารถทำให้เศรษฐกิจไทยเติบโตอย่างยั่งยืนได้  ทำให้กำลังซื้อไม่ฟื้นเท่าที่ควร และโดยเฉพาะเมืองในจังหวัดภูมิภาค แทบไม่เกิดโครงการอสังหาริมทรัพย์ประเภทที่อยู่อาศัยใหม่ๆ ยกเว้น ชลบุรี ระยอง หัวหิน-ชะอำ เชียงใหม่ และภูเก็ตเท่านั้น

ด้วยเหตุนี้ รัฐบาลจึงควรจัดให้มีการเลือกตั้งโดยเร็วที่สุด ยิ่งช้าออกไปประเทศก็ยิ่งซึมลง ลำพังตัวเลขเศรษฐกิจที่จะได้จากการก่อสร้างภาครัฐก็เป็นเพียง "อัฐยายซื้อขนมยาย" เท่านั้น ที่ว่าต้องเร็วที่สุดเพราะเราประวิงเวลามาโดยตลอดจาก "ขอเวลาอีกไม่นาน" มาเป็นการวางแผนยุทธศาสตร์การพัฒนา 20 ปี โดยรัฐบาลหลังเลือกตั้งก็ต้องทำตาม โดยที่แผนดังกล่าวไม่ได้ผ่านความเห็นชอบจากประชาชน เป็นเพียงการวางแผนของเหล่า "คนดี" ซึ่งก็ไม่อาจพิสูจนืได้ว่าดีจริง หรือไม่อาจพิสูจน์ได้ว่าแผนยุทธศาสตร์นั้นสอดคล้องกับความจริง

ยิ่งถ้ามีแนวโน้มจะ "สืบทอดอำนาจ" ต่อไปเรื่อยๆ แบบกัมพูชา คะแนนก็คงจะถดถอยลงไปอีก และด้วยผลจากการโกง ก็ยิ่งทำให้ประเทศมีการพัฒนาที่จำกัดลงไปอีก ศักยภาพและขีดความสามารถในการแข่งขันของไทยก็จะถดถอยได้ในอนาคต ประกอบกับการที่ประเทศเพื่อนบ้านต่างพัฒนาเพิ่มขึ้น ไทยก็จะยิ่งเสียเปรียบ เราเคยพัฒนาระดับเดียวกับญี่ปุ่น เกาหลี ไต้หวัน สิงคโปร์ มาเลเซีย จีน อินเดีย แต่พวกเขาแซงไปหมดแล้ว ถ้าอินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์แซงไทยอีก จะเป็นอย่างไร ถ้าประเทศอินโดจีน "หายใจรดต้นคอ" เราได้ เราจะเหลือหรือ

"ลาออก" / "เลือกตั้ง" / "อย่าสืบทอดอำนาจ" คือทางออก!

เนื้อหาโดย: doctorsopon
ที่มา : https://goo.gl/U79VLE
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
doctorsopon's profile


โพสท์โดย: doctorsopon
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
52 VOTES (4/5 จาก 13 คน)
VOTED: XxICExX, doctorsopon
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
สาลี่ เดอะสตาร์ โพสต์คลิปสวีตอวยพรวันเกิด ตงตง กฤษกร หวานจนแฟนคลับแซวสนั่นภาพจักรพรรดิ​นี​หว่า​นห​รง​ ราชวงศ์​ชิง
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
สาวร่ำไห้ เป็น โควิค 8 ครั้งทำหัวล้านทำไมปวดหัวจี๊ดหลังดื่มน้ำ หรือ เครื่องดื่มที่เย็นจัดเกร็ดความรู้นิสัยคุณ 10 ข้อที่ทำร้ายสมองรีวิวหนังดัง MORTAL KOMBAT มอร์ทัล คอมแบทภาพจักรพรรดิ​นี​หว่า​นห​รง​ ราชวงศ์​ชิง
กระทู้อื่นๆในบอร์ด บ้าน คอนโด ที่ดิน
ทั่วประเทศไทย มีที่อยู่อาศัยอยู่เท่าไหร่ต่างชาติซื้อห้องชุดพุ่งกระฉูด ไม่ได้น้อยลงระบบความปลอดภัย ที่สามารถติดตั้งได้เอง สำหรับบ้านพักตากอากาศ ป้องกันบ้านหายบูโร (Bureau) คืออะไรทำไมมีอิทธิพลในการซื้อบ้าน
ตั้งกระทู้ใหม่