ห้องชุดกลางเมืองพหลโยธิน มีเท่าไหร่ก็ขายหมด
ทำเลพหลโยธินช่วงต้น ตั้งแต่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ขายดีเป็นเทน้ำเทท่า เพราะติดรถไฟฟ้า แต่ถ้าใครจะเลียนแบบ ต้องศึกษาให้ดีก่อนพากันลงเหว
ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธานกรรมการบริหาร ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส (www.area.co.th) เปิดเผยถึงภาวะตลาดที่อยู่อาศัยในพื้นที่ใจกลางเมืองย่านพหลโยธินช่วงต้น ตั้งแต่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิถึงประดิพัทธ์ ปรากฏว่าขายดีเป็นเทน้ำเทท่า เพราะทำเลดีมาก ติดรถไฟฟ้า มีอะไรผลิตออกมาก็แทบขายได้หมด
ในทำเล I1: พหลโยธินช่วงต้นนี้ สินค้าส่วนมากก็คือห้องชุดพักอาศัยในระดับราคาที่แตกต่างกันไป แต่ส่วนมากราคาแพง อย่างไรก็ตาม ก็ยังมีบ้านเดี่ยว 10 หน่วย เฉลี่ยหน่วยละ 19.5 ล้านบาท และบ้านแฝด 6 หน่วยๆ ละประมาณ 18.6 ล้านบาทโดยเฉลี่ยอีกจำนวนหนึ่งด้วย แต่ก็เป็นตลาดเล็ก ๆ เท่านั้น
ในจำนวนอุปทานทั้งหมด 8,862 หน่วย เป็นห้องชุดถึง 8846 หน่วย ห้องชุดเหล่านี้มีมูลค่ารวม 45,977 ล้านบาท หรือเฉลี่ยหน่วยละ 9.2 ล้านบาท เฉพาะห้องชุดในทำเลนี้ที่มีขนาดราว 4 ตารางกิโลเมตร มีมูลค่ารวมกันถึง 2.01 เท่าของมูลค่าที่อู่อาศัยในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลทั้งหมดที่กินพื้นที่ไปถึงราว 8,000 ตารางกิโลเมตรเลย
ห้องชุดกลุ่มใหญ่ที่สุดในทำเลนี้ขายในราคา 3-5 ล้านบาท มีมูลค่ารวม 17,136 ล้านบาท ซึ่งก็ยังมีมูลค่าต่ำกว่ากลุ่มห้องชุดราคา 5.01-10 ล้านบาท ที่มีมูลค่าสูงถึง 17,921 ล้านบาท แต่มีจำนวนน้อยกว่าคือมีเพียง 2,873 หน่วย (ราคาเฉลี่ย หน่วยละ 6.238 ล้านบาท)
โดยรวมแล้ว สินค้าที่อยู่อาศัยในทำเลนี้ขายได้เดือนละประมาณ 19.2% หรืออาจกล่าวได้ว่าสินค้าจะขายหมดได้ในเวลาไม่เกิน 6 เดือนเท่านั้น แสดงว่าสินค้าในทำเลนี้ขายได้ดีมาก โดยเฉพาะห้องชุดราคา 3-5 ล้านบาท ขายได้เดือนละประมาณ 23.8% ถือว่าขายได้เร็วที่สุด รองลงมาเป็นห้องชุดราคา 10-20 ล้านบาท ขายได้เดือนละถึง 23.2% ส่วนห้องชุดราคา 5-10 ล้านบาท ก็ขายได้ไม่น้อย คือขายได้เดือนละ 15.8% มีเพียงห้องชุดราคาเกิน 20 ล้านบาทที่ขายได้ช้าเช่นเดียวกับกลุ่มบ้านเดี่ยวหรือบ้านแฝด
ภาวการณ์ขายของทำเล I1: พหลโยธินนี้ ปรากฏว่าขายได้ดีกว่า เหลือขายน้อยกว่าภาพรวมของทั้งเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล เพราะถือเป็นทำเลใจกลางเมืองที่มีอนาคตสดใสต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามหากผู้ประกอบการรายใดหรือนักลงทุนซื้อห้องชุดเพื่อการลงทุนรายใด สนใจลงทุนเพิ่มเติม ควรศึกษาภาวะตลาดให้ถ่องแท้ก่อน เพื่อเป็นการประกันความผิดพลาดและลดทอนความเสี่ยง
ที่มา : https://goo.gl/hUpmbf