[เรื่องสยองขวัญ] เล่นซ่อนหาย
เรื่องนี้เป็นเรื่องของคุณปอนด์ คุณปอนด์เล่าไว้ว่า.. เรื่องนี้เกิดขึ้นตั้งแต่ผมยังเป็นเด็ก ตอนนั้นอายุประมาณ 9 ขวบได้ ผมจะเล่าจากในความทรงจำของผม บวกกับสิ่งที่พ่อแม่เล่าให้ผมฟัง เพราะมันเป็นเหตุการณ์ ที่ไม่มีใครลืมจนทุกวันนี้ครับ
ครอบครัวของผม เป็นคนจังหวัดจันทบุรีครับ พ่อแม่ก็จะพาผมไปวัดเป็นประจำ ไม่ว่าจะมีงานวัด หรืองานบุญ.. และวันที่เกิดเรื่องก็คือ วันที่ไปงานสรงน้ำพระประจำปี ที่วัดก็จะมีเด็กๆ ลูกๆ ของชาวบ้านแถบนั้นมาเล่นกันเยอะแยะ ด้วยความเป็นเด็ก ผมก็แยกจากพ่อแม่ ไปเล่นกับเพื่อนกลุ่มใหม่ที่หลังวัด เพื่อนกลุ่มนี้กำลังจะเล่นซ่อนแอบกันอยู่พอดี โดยที่มีกันประมาณ 8 คน รวมผมด้วย ก็โอน้อยออกกัน และผมก็เป็น 1 ใน 7 คนที่ต้องไปซ่อน
เพื่อนที่เป็นฝ่ายหา ก็หลับตาที่ต้นไม้นับไป ส่วนผม และเพื่อนที่เหลือ ก็วิ่งหาที่ซ่อนกันในวัด ผมวิ่งแยกไปไกลกว่าใคร จนไปเจอเด็กผู้หญิงในกลุ่ม ที่วิ่งไปซ่อนในบ่ออิฐ ลักษณะคล้ายบ่อน้ำ แต่ไม่ลึก ผมก็เลยลงไปด้วย และก็ปิดฝาด้านบนไว้.. ก็ยังหัวเราะกับเด็กผู้หญิงคนนั้น ว่าคงไม่มีทางหาเจอ ผมชวนคุยไปเรื่อย ก็เลยรู้ว่าเด็กคนนั้นชื่อทับทิม.. ผมจำได้ว่าตอนนั้น ผมเผลอหลับไปแค่ไม่นาน พอตื่นขึ้นมาอีกที ในนี้มืดสนิทเลย ผมก็พูดกับทับทิมว่า คงไม่มีคนเจอแล้วล่ะ ไปกันเถอะ.. แต่กลับไม่มีเสียงตอบ.. ผมรีบเปิดฝาบ่อ ทำให้เห็นว่า ในนี้กลับมีแค่ผมคนเดียว
ผมรีบวิ่งกลับมาตรงลานหน้าวัด ปรากฏว่ามีตำรวจ พระ กับชาวบ้านอยู่หลายคน และก็เป็นเสียงพ่อแม่ผมตะโกนเรียกชื่อผม และวิ่งเข้ามากอด ตอนนั้นผมก็งงว่าเกิดอะไรขึ้น? พ่อแม่ถามผมด้วยน้ำเสียงเหมือนจะร้องไห้ว่า ไปไหนมา? ผมก็เล่าว่า ผมเล่นซ่อนแอบกับเพื่อนๆ ที่หลังวัด และตามเด็กผู้หญิงคนหนึ่งไปแอบในบ่อข้างหลัง และเผลอหลับไป จนตื่นขึ้นมาก็อยู่คนเดียว และก็วิ่งกลับมานี่ ตำรวจพูดแทรกขึ้นมาว่า จะเป็นไปได้ยังไง เด็กๆ ที่เล่นบอกว่ามีแต่เด็กผู้ชาย และผมก็หายไปตั้ง 2 วัน 2 คืน แล้วอีกอย่าง ในบ่อข้างหลังวัด ทุกคนไปเปิดหาแล้ว ก็ไม่เจอ!? ผมนี่งงมากตอนนั้น
จนสุดท้าย พระสงฆ์รูปหนึ่งก็บอกให้ทุกคนตามไปที่สุสานด้านหลังวัด และท่านก็หยุดอยู่ที่สุสานของคนคนหนึ่ง ผมก็ตกใจร้องไห้ออกมาทันที.. เพราะชื่อบนสุสานนั้นคือ “ทับทิม” ภายหลังพระท่านก็เล่าให้ฟังว่า เมื่อ 5 ปีก่อนได้ น้องทับทิมไปเล่นที่หลังวัด แล้วเกิดพลัดตกลงไปในบ่อน้ำ และจมน้ำตาย ทำให้ภายหลัง ต้องถมปูนปิดไว้ถาวร.. จนผมโตขึ้นมา นึกถึงเรื่องนี้ทีไรก็ยังต้องขนลุกทุกครั้ง