เกาะช้าง ทะเลสวยๆประเดิมทริปแรกต้อนรับปีใหม่ 2018
สวัสดีปีใหม่ 2018 ครับ มั่งมีศรีสุข ร่ำรวยเงินทองกันทุกคนนะครับ ห่างหายไปนานกับการเขียนบล็อก ไม่ได้แวะมาเม้ามอยซะนานเลย เพราะมัวแต่ทำงานอยู่ในออฟฟีส เที่ยวก็ไม่ค่อยได้เที่ยวกับชาวบ้านเค้า ยุ่งจริงอะไรจริง บล็อกยิ่งร้างๆไม่ค่อยมีใครแวะมาเยี่ยมเยียนอยู่ด้วย ใครที่เผลอเข้ามาก็ยินดีต้อนรับนะครับ อยู่ด้วยกันไปนานๆล่ะ
วันนี้ผมกะแวะมาเล่าเกี่ยวกับทริปปีใหม่ที่เพิ่งผ่านมาสดๆร้อนๆ ทริปแรกของปีนี้ ปี 2018 ไม่รู้ว่าจะมีทริปที่สองสามสี่ตามมารึเปล่า เพราะมัวแต่ติดงานออฟฟีส แต่เอาเป็นว่าอยากเล่าก็แล้วกันเนอะ จะได้เที่ยวบ่อยๆรึเปล่าค่อยว่ากันอีกที ทริปนี้เป็นทริปตะลุยเกาะช้างโดยไม่ตั้งใจครับ แต่ถึงไม่ตั้งใจก็โอเคอยู่นะ ประทับใจเลยทีเดียว
ก็อย่างที่เกริ่นไว้ครับ ว่าทริปนี้ผมไม่ได้ตั้งใจจะไปเกาะช้างหรอก แค่จะแวะไปส่องแล้วก็ไปเที่ยวต่อ ทริปนี้ผมคิดคล่าวๆไว้ว่าจะเที่ยวตราดกับจันทบุรี แค่นั้นเอง แต่เอาเข้าจริงๆมันก็อดไม่ไหว ก็เกาะมันใหญ่ขนาดนั้น หาดสวยๆเอย จุดชมวิวสวยๆเต็มไปหมด ก็เลยค้างคืนมันซะเลย ขอสำรวจเกาะซะหน่อยดีกว่า ทำตัวเป็นชาวเกาะกับเค้าซักคืน ซึ่งมันก็คุ้มค่าสุดๆครับ ผมตัดสินใจไม่ผิดจริงๆที่เลือกแบบนั้น
ว่าด้วยเรื่องของกิน เกาะนี้อุดมสมบูรณ์สุดๆครับ มีตั้งแต่อาหารทะเล ผลไม้เต็มไปหมด ตลาดของกินเยอะดี ผมชอบ(ไม่ได้ตะกละนะ แค่รู้สึกอุ่นใจเฉยๆ) เกาะนี้บาร์เยอะมากครับ แสงสีเยอะดีเหลือเกิน ร้านนั่งชิลๆสไตล์เหมือนเมืองท่องเที่ยวทั่วไป คล้ายๆอ่าวนางที่กระบี่ กลุ่มนักท่องเที่ยวก็คล้ายๆกัน ออกแนวต่างชาติ ฝาหรั่งซะส่วนใหญ่ ซึ่งมันก็เป็นความเคยชินของผมอีกนั่นหล่ะ ชินหูชินตา เพราะโดยส่วนตัวผมก็ไม่ค่อยจะชินกับคนไทยเท่าไหร่
ทริปนี้เดินทางยังไง?
เรื่องการเดินทางผมออกจากบ้านตอนสิบโมงกว่า ไปสถานีขนส่งเอกมัย ระหว่างทางก็เก็บภาพไปเรื่อยเปื่อยตามประสาคนชิลๆ แล้วก็เดินไปถามหาตั๋วไปตราด รอบนี้ผมได้ตั๋วรถทัวร์ราคาสองร้อยกว่าบาท ซึ่งผมไม่รู้หรอกว่าต้องนั่งรถนานเท่าไหร่ กะว่ามันไม่น่าจะนานเกิน 6 ชั่วโมงหรอก(คิดในใจ) ผมออกจากขนส่งเอกมัยประมาณเที่ยงครึ่งครับ มองวิว ฟังเพลง เล่นเกม หลับ สลับกันไป จนถึงปลายทางที่ต้องไปลงสถานีขนส่งในตัวเมืองตราด พอลงรถเสร็จจะมีคนขับรถสองแถวเดินเข้ามาถามเลยครับ ว่าจะไปเกาะช้างใช่รึเปล่า(แสดงว่ามันนิยมสุดๆแล้วหล่ะไอ้เกาะนี้ เพราะว่าคนขับรถเห็นใครมาถึงก็เหมารวมว่าทุกคนจะไปเกาะช้างซะขนาดนี้) ซึ่งผมตอบไปว่าไม่ใช่ครับ ในหัวยังมึนๆอยู่ว่าจะเอาไงดี ไม่มีเป้าหมาย ก็เลยถามหาที่พักในเมืองแทน แล้วก็ติดรถไปลงในเมืองเพื่อหาที่พักในเมือง ซึ่งเค้าก็จอดให้ผมลงแถวๆกลางเมืองนั่นแหละ ดูจากแผนที่แล้วไม่ไกลจากวัดไผ่ล้อมเท่าไหร่
จากนั้นผมก็เดินเข้าซอยเพื่อไปถามหาห้องพัก เค้าบอกมีแต่ห้องน้ำรวมนะ คืนละ 250 บาท ซึ่งผมก็บอกไปทันทีว่า “เอา” แบบไม่คิดอะไรเลย ใจง่ายชะมัดเลยให้ตายเหอะ คนถามเค้ายังขำเลย แต่ไม่เป็นไร สำหรับผมขอแค่มีที่นอนก็พอ แถมเป้ที่แบกก็หนักด้วย เอาเป็นว่าทริปนี้เป็นทริปผจญภัย มีเวลาให้ลองผิดลองถูกเยอะ ไม่ต้องกังวลอะไรมาก แต่ถ้าหากเป็นทริปสุดสับดาห์ที่มีเวลาจำกัด ผมจะเลือกจองโรงแรมล่วงหน้าไว้ก่อน หลักๆก็จะใช้ Traveloka ซะส่วนใหญ่ กันพลาดไว้ก่อน เพราะต้องทำเวลา
ผมค้างในเมืองคืนนึงครับ เดินเที่ยวงานกาชาด หาของกิน ดูเค้าแสดงบนเวที มีดนตรีพื้นบ้านให้ดูด้วย ผมชอบอะไรแบบนี้นะ จะว่าแปลกตาก็ใช่ จะว่าคุ้นตาก็ใช่อีก เพราะตัวผมเองโตมาในวัฒนธรรมที่หลากหลายเหลือเกิน บางทีผมก็สับสนอยู่เหมือนกัน ที่นี่มีนักท่องเที่ยวเยอะครับ โดยเฉพาะจากประเทศเพื่อนบ้านอย่างกัมพูชา น่าจะเพราะชายแดนติดกัน และไม่ค่อยไกลมาก ในเมืองตราดเลยมีคนจากต่างชาติมาเที่ยวเยอะ
ผมเก็บภาพไปเรื่อย หาของกินจนอิ่ม แล้วก็เดินเล่นต่อจนเมื่อยแล้วผมก็เดินกลับห้องครับ ไปชาร์จแบตมือถือ พักเอาแรงซะหน่อย แล้วดึกๆผมก็เดินกลับมาดูผู้ว่าเค้ากล่าวเปิดงานฉลองปีใหม่ มีกล่าวอวยพรนิดหน่อย จากนั้นก็ร่วมนับถอยหลังเข้าสู่ปีใหม่ จุดไฟเฉลิมฉลองงานปีใหม่ แล้วก็แยกย้ายกลับไปนอนพักเอาแรง ตื่นเช้ามาผมแอบไปเก็บภาพวัดไผ่ล้อมก่อน จากนั้นค่อยกลับมาเก็บของ คืนกุญแจห้อง แล้วก็ถามวิธีไปเกาะล้านกับแหลมงอบกับพนักงานทีเกสต์เฮาส์ ซึ่งเค้าก็น่ารักมากครับ ให้ความช่วยเหลือเป็นอย่างดี คนตราดน่ารักครับ บอกให้ผมไปขึ้นรถสองแถวตรงกลางเมืองไปท่าเรือเฟอรี่ ซึ่งก็คือท่าเรือ “เซนเตอร์พอยน์” นั่นเอง
จริงๆเราสามารถนั่งรถทัวร์ตรงๆจากสถานีขนส่งเอกมัยมาที่ท่าเรือเฟอรี่ได้เลยนะครับ แต่ผมไม่รู้มาก่อนไง ว่าผมจะไปเกาะช้าง กะเก็บภาพระหว่างทางชิลๆ ก็เลยไม่ได้หาข้อมูลมาก่อน สำหรับคนที่จะตรงไปเกาะช้างเลย ผมแนะนำว่านั่งรถทัวร์จากเอกมัยมาท่าเรื่อเลยครับ ประหยัดกว่าเยอะ เชื่อผมเถอะ
ที่เที่ยวน่าสนใจบนเกาะช้าง
นั่งเรือข้ามฟากจากท่าเรือมาเกาะช้างใช้เวลาแค่ครึ่งชั่วโมงเอง ไม่นานเหมือนเกาะล้านที่ใช้เวลาราวๆชั่วโมงนึง ซึ่งอันนี้ผมเป็นปลื้ม เพราะไม่ต้องอยู่บนเรือนานเกินไป เดินเก็บภาพระหว่างทาง นั่งพัก แปปเดียวก็ถึงเกาะแล้ว พอเรือเทียบท่าเราก็จะมองเห็นรถสองแถวที่รอรับนักท่องเที่ยวอยู่ตรงทางขึ้นเลยแหละ ไม่ต้องลำบากตามหา ราคาก็เริ่มที่ 60 บาทสำหรับคนไทย ต่างชาติก็อีกราคานึง
อีหรอบเดิมครับ เนื่องจากผมไม่เคยรู้จักเกาะนี้มาก่อน ผมเลยไม่รู้ว่าจะไปไหน ก็เลยถามพี่คนขับรถเค้าไปว่าเกาะนี้มีที่ไหนน่าเที่ยวบ้าง ขอแค่มีที่พัก แล้วก็มีที่เช่ารถจักรยานยนต์ไว้ขับเที่ยว ซึ่งเค้าก็แนะนำให้เริ่มจากหาดทรายขาว ซึ่งผมก็เชื่อเค้า ใจง่่ายมั้ยล่ะ
หาดทรายขาว
หาดนี้อยู่ฝั่งตะวันตกของเกาะครับ ไม่ไกลจากท่าเรือเฟอรี่มาก แต่ระหว่างทางนี่ชวนเวียนหัวเอาเรื่อง เพราะทางมันคดเคี้ยวมาก คิดถูกแล้วที่ไม่ได้ขับรถเอง มากับรถสองแถวน่ะดีแล้ว ปลอดภัยกับชีวิต ที่หาดนี้คนก็คับคั่งดีครับ เรียกได้ว่าคึกคัก มีชีวิตชีวาจริงๆ อาจเพราะว่ามันเป็นช่วงที่หลายๆคนหยุดยาวช่วงปีใหม่ ก็เลยคนเยอะเป็นพิเศษ ที่นี่หาที่พักและรถเช่าง่ายมาก ราคาเริ่มแค่ 250 บาทต่อวัน ส่วนที่พักก็เริ่มที่คืนละ 500 บาท ถือว่าไม่แพงมากสำหรับแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม เช่ารถง่ายกว่าเชียงใหม่ ไม่ต้องใช้เงินประกันเยอะๆ ไม่ต้องใช้บัตรเครดิต ผมให้คะแนนสูงกว่าเชียงใหม่นะ ส่วนเรื่องที่พัก ในเชียงใหม่จะถูกกว่า
ความเสร่ออย่างนึงของผมคือ “ผมอยากเก็บภาพพระอาทิตย์ขึ้น” ที่หาดทรายขาว แต่ว่ามันอยู่ฝั่งตะวันตกครับ ซึ่งกว่าพระอาทิตย์จะโผล่พ้นยอดเขามาให้เห็นก็สายโด่งเข้าไปแล้ว ก็เลยได้แต่เดินกินลมชมวิวกันไป อากาศเย็นสบาย น้ำทะเลใสมาก สีสวยด้วย อันนี้ผมชอบสุดๆ ออ อีกอย่างนึง บาร์กับร้านนั่งชิลที่หาดนี้ก็เยอะเว่อร์อีกเช่นเคย ไม่แพ้หาดอื่นๆกันเลยทีเดียว ใครติด 7-11 ไม่ต้องห่วงนะครับ ที่นี่มีเพียบ ตู้ ATM ก็เพียบอีกเหมือนกัน ไม่ต้องกลัวอดตาย แพ็คกระเป๋าแล้วลุยโลด
หาดไก่แบ้
เอาจริงๆผมไม่ได้เห็นหาดนี้หรอก เป้าหมายผมมีแค่จุดชมวิว เพราะงั้นผมแว้นผ่านเลยครับ แว้นขึ้นเนินไปเลย ตัวหาดนี้ร้านเหล้ากับบาร์เพียบ ผมเห็นผ่านๆตอนที่กลับจากจุดชมวิว แต่มันก็มืดแล้ว เลยไม่ได้แวะเก็บภาพ ก็ได้แต่แวะถนนคนเดินเพื่อหาของกินนิดหน่อย ก่อนจะกลับมาที่พักที่หาดทรายขาว แล้วก็ออกไปเดินชิลหาของกิน นั่งชิลริมหาด แล้วก็ดูเค้าเล่นไฟ เป็นค่ำคืนที่ดีใช้ได้เลยหล่ะ
น้ำตกคลองพลู
น้ำตกนี้อยู่ระหว่างทางที่ผมแว้นผ่านครับ ก็เลยแวะเข้าไป กะว่าจะแช่น้ำซะหน่อย ก่อนที่จะไปชมวิวพระอาทิตย์ตกดินที่หาดไก่แบ้ พอไปถึงปุ๊บ ปิดซะงั้น ที่นี่เค้าปิดตอน 4 โมงเย็น ผมไปช้าเกิน มันก็เลยอดเก็บภาพสวยๆมาฝาก แต่ไม่เป็นไรครับ รอบหน้าผมสัญญาว่าจะไม่พลาด ขอแก้ตัวใหม่แล้วกันเนอะ(สัญญาทีไร ไม่เคยได้กลับไปซะที) เกาะมันกว้างจริงๆ เที่ยววันเดียวผมไปไม่ทั่วถึงจริงๆ
ประทับใจอะไรในทริปนี้บ้าง?
มาพูดถึงความประทับใจกันหน่อยดีกว่า ผมว่าที่นี่เป็นที่เที่ยวที่เดินทางสะดวกที่สุดแห่งหนึ่งเลยนะ เหมือนที่ผมบอกว่ามันมีรถทัวร์จากสถานีขนส่งเอกมัยตรงไปที่ท่าเรือข้ามฟาก แล้วก็ข้ามไปที่เกาะได้เลย อันนี้เป็นความประทับใจข้อแรก
ข้อที่สองคงเป็นวิวสวยๆแหละครับ หามุมเก็บภาพได้แทบทุกที่บนเกาะจริงๆ ท้องฟ้ากับทะเล ท่าเรือ ยอดเขา บาร์ ถนนที่เต็มไปด้วยแสงไฟสวยๆ ป่าก็เยอะนะครับ น้ำตกก็เพียบ พวกทัวร์ดำน้ำดูปะการังนี่ยิ่งไม่ต้องพูดถึง มีเหมือนกันนะเออ เรียกว่าเที่ยวได้ทุกสไตล์จริงๆ
ส่วนข้อสุดท้ายคงเป็นความประทับใจส่วนตัวครับ ผมติดบรรยากาศทะเล นั่งชิลริมหาด และรอบนี้มีการแสดงควงไฟให้ดูด้วย เค้าบอกเป็นโชว์พิเศษสำหรับปีใหม่ ก็ถือเป็นความทรงจำดีๆครับ ทริปนี้ผมให้ผ่าน
นี่ก็เป็นอีกหนึ่งทริปสำหรับนกกระจิบตัวน้อยๆที่อยากจะเห็นโลกกว้างอย่างผม ได้เจออะไรใหม่ๆมันก็ตื่นเต้นเสมอแหละครับ ถึงมันจะพลาด จะหลงทาง จะเจออะไรเสี่ยงๆ แต่ผมว่ามันก็คุ้มค่านะ อย่างน้อยก็ได้รู้จักโลกมากขึ้นอีกนิดนึง เอาไว้วันหลังผมจะแวะมาเล่าให้ฟังอีกนะ สำหรับทริปนี้คงหมดแค่นี้แหละครับ ยังไงก็สวัสดีปีใหม่อีกรอบนะครับ ขอให้สนุกกับการเดินทาง แวะมาเยี่ยมเยียนกันบ่อยๆนะครับ เจอกันใหม่ทริปหน้า