เขาเป็นผู้ชายที่ชีวิตร้อยเรียงด้วยความฝัน, กีฬา, ความรัก, ความเชื่อ และเสียงดนตรี
"เขาเป็นผู้ชายที่ชีวิตร้อยเรียงด้วยความฝัน, กีฬา, ความรัก, ความเชื่อ และเสียงดนตรี"
เขาผ่านเรื่องราวมากมายในชีวิต
เขาเกิดที่จังหวัดสุพรรณบุรี เมื่อ 38 ปีที่แล้ว
เขาเป็นหลานของ "แอ๊ด คาราบาว" นักร้องนักแต่งเพลงเพื่อชีวิตชื่อดัง
"เขาหลงรักเสียงเพลง
เสียงดนตรี และกีต้าร์ เป็นหนึ่งในรักแรกพบของเขา"
ปี 2539 เขา และเพื่อนๆ ได้รับรางวัลชนะเลิศจากเวทีประกวด ฮอตเวฟ มิวสิค อวอร์ดส์ ครั้งที่ 1 และได้ออกอัลบั้มครั้งแรกในปีต่อมา ภายใต้ชื่อวง "ละอ่อน" ตั้งแต่สมัยเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายที่ สวนกุหลาบวิทยาลัย
"วันเวลาไม่เคยจะหยุดเดิน
อย่างไรเราคงต้องเดินไปกับมัน"
เวลา และเงื่อนไขของชีวิต
ทำให้เขาโตขึ้น และก้าวเข้ามาเรียนระดับชั้นมหาวิทยาลัย ที่คณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์ฯ
เมื่อเขาเรียนจบ เขาเคยมีโอกาสทำงานเป็นพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินสายการบินกัมพูชา แอร์ไลน์
"เดินต่อช้าๆ ไม่อยากปล่อยฝันให้มันหลุดมือ
ที่สั่งให้ฉันไปต่อก็คือความเชื่อเท่านั้น"
แม้เงื่อนไขของชีวิต จะทำให้เขาต้องหลุดจากความฝันไปพักหนึ่ง แต่เขาก็ไม่ลืมว่า ตัวเองเคยมีความฝันอย่างไร
ชีวิตมันต้องเดินตามหาความฝันสิ
และต้องไม่กลัวว่า จะหกล้มคลุกคลานเท่าไร
ปี 2545 ในวัยที่เขาไม่ได้ละอ่อนแล้ว
วงบอดี้แสลม ก็ได้อุบัติขึ้น
จากวันนั้นจนถึงวันนี้
ไม่ต้องอธิบายว่า
เสียงเพลงของเขา โด่งดังแค่ไหน
ไพเราะแค่ไหน
มีอิทธิพลต่อวัยรุ่นแค่ไหน
มีแฟนคลับมากมายแค่ไหน
ความสำเร็จของวง ที่กลายเป็นวงร็อกเบอร์หนึ่งของประเทศ คือ คำตอบที่ทุกท่านน่าจะทราบดี
บนทางชีวิตแห่งเสียงดนตรี
เขายังมีสิ่งอื่นที่หลงรัก
เขาคือผู้ชายแสนเซอร์ ผมยาว ไว้หนวดเครา สักลายรอบตัว ที่หลงรักการออกกำลังกาย, กีฬา และฟุตบอล
เขาเชียร์ ทอตแน่ม ฮอตสเปอร์
เขาหลงใหลการชมทีมบ้านเกิด สุพรรณบุรี เอฟซี
เขาเคยลงแข่งขัน เทเบิลเทนนิส ระดับกีฬาแห่งชาติในนามจังหวัดสุพรรณบุรี รวมถึงรายการระดับชิงแชมป์ประเทศไทย
เขาเคยลงแข่งขันไตรกีฬา
"ดูเหมือนว่า เขาชอบการวิ่ง
และดูเหมือนว่า การวิ่งเองก็ชอบเขา"
เขาวิ่งเพื่อตัวเองมานานหลายปี
จนวันหนึ่ง เขาเริ่มวิ่ง วิ่ง และวิ่ง
"เพื่อคนอื่น"
เขาเริ่มวิ่งโดยถือไม้ผลัด ที่ไม่มีคนมองเห็น
การวิ่งของเขา ส่งต่อไม้ผลัดให้คนอื่น
ผลัดแล้วผลัดเล่า
ปี 2559 เขาวิ่งจากกรุงเทพฯ ไป อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ระยะทาง 400 กิโลเมตร เพื่อเงินบริจาคให้กับ โรงพยาบาลบางสะพาน และสุดท้าย ตัวเลขที่ได้ในครั้งนั้น คือ 85 ล้านบาท
เขาได้รับการสรรเสริญ ชื่นชม
แต่นั่นไม่ใช่คำตอบสุดท้ายของความฝันของเขา
"บทชีวิต ของเรา
เราจะทำให้มีความหมาย"
ความหมายของชีวิตของผม กับ คุณ และใครต่อใคร อาจจะเหมือนกัน หรือไม่เหมือน
แต่เขาค้นพบว่า ชีวิตของเขาจะมีความหมายมากขึ้น
ถ้าเขาวิ่งได้ไกลกว่าเดิม
ถ้าเขาหาเงินได้มากกว่าเดิม
ถ้าเขาสามารถช่วยเหลือโรงพยาบาลได้มากกว่าเดิม
และที่สำคัญ ถ้าเขาได้ส่งไม้ผลัดต่อให้คนอื่นๆ หันมาออกกำลังกายมากขึ้น ดูแลตัวเองมากขึ้น เพื่อให้วงการแพทย์ในเมืองไทยเกิดความสมดุล มีผู้ป่วยน้อยลง ไม่ล้นโรงพยาบาลอย่างที่เคยเป็น
เขาคิดถึงชีวิตของคนอื่น
โดยใช้ร่างกายของตัวเองเป็นตัวประกัน
เขาเริ่มต้นวิ่งจาก อ.เบตง จ.ยะลา เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2560
อ.แม่สาย จ.เชียงราย คือ "ปลายทาง"
2,191 กิโลเมตร คือ ตัวเลขกิโลเมตรที่กำลังท้าทายใจคนอย่างเขา
55 วัน คือ ตัวเลขเวลาที่เขาตั้งเป้าเอาไว้
เขาผ่านอาการบาดเจ็บครั้งแล้วครั้งเล่า ตลอดเส้นทาง
ตรงไหนที่เจ็บได้ เขาเจ็บหมด
ตรงไหนที่ปวดได้ เขาปวดหมด
"ฉันยังมีจุดหมาย
ตราบใดที่ปลายท้องฟ้ามีแสงรำไร
จะไปจนถึงแสงสุดท้าย"
ความเจ็บปวด ถูกหักลบไปได้ด้วยความมุ่งมั่น
กล้ามเนื้อที่ระบม ถูกสั่งให้ทำงานด้วยหัวใจ
หัวใจของเขาแข็งแกร่งเกินบรรยาย
"ในค่ำคืนที่ฟ้า.. นั้นไม่มีดาวอยู่ตรงนี้
ฉันยังคงก้าวไป
ยังคงมีรักแท้ เป็นแสงนำไป"
ตลอดทาง เขามีรักแท้เป็นแสงนำไป
รักแท้จากแฟนคลับ
รักแท้จากประชาชนคนไทย
รักแท้จากเพื่อนร่วมวงการ
รักแท้จากแฟนสาว
จากวันแรกจนวันนี้
จากกิโลเมตรแรก จนกิโลเมตรสุดท้าย
จากแสงแรกของวัน ณ เบตง เมื่อ 55 วันที่แล้ว
จนถึงแสงสุดท้ายของวันนี้ ณ แม่สาย
เขาทำสำเร็จ
เขาหาเงินได้มากกว่า 1000 ล้านบาท
แน่นอน .. เพื่อคนอื่นไม่ใช่เพื่อตัวเอง
เขากลายเป็นหนึ่งในแรงบันดาลใจต่อคนนับล้าน
เขาคือสัญลักษณ์แห่งความมุ่งมั่น ความเสียสละ และความเชื่อ
เขา คือ ฮีโร่ที่ไม่ต้องมีอุปกรณ์อะไรมากมายนัก เหมือนตัวละครซูเปอร์ฮีโร่ในภาพยนตร์ต่างชาติ
แค่มีขา, หัวใจ และกีต้าร์สักตัว
เขาคือตำนานที่ยังมีลมหายใจ
"ชีวิตถ้าไม่ยากเย็นขนาดนั้น
สองมือจะมีเรี่ยวแรงขนาดไหน
แต่หัวใจ ของคน ยังยืนยันจะไม่ถอดใจ"
"อาทิวราห์ คงมาลัย" ❤❤❤❤
ภาพจาก ภูกฤต ลิมปะพันธุ์
แหล่งที่มา: https://www.facebook.com/KajohnyosChoketanasret/posts/2063107340602005