หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม แต่งรูป คำคม Glitter สเปซ ไดอารี่ เกมถอดรหัสภาพ เกม วิดีโอ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

รู้ไหม ภาพนางพยาบาลถือเทียนไขให้พี่ตูน ถือเป็นเกียรติอันสูงสุดของนางพยาบาลเลย

Share แชร์บอร์ด สาระ เกร็ดน่ารู้ โพสท์โดย นายตัวดำ

รู้ไหม ภาพนางพยาบาลถือเทียนไขให้พี่ตูน ถือเป็นเกียรติอันสูงสุดของนางพยาบาลเลย

พิธีรับเทียน
 พิธีรับเทียนเป็นกิจกรรมหนึ่งที่ขาดไม่ได้เลย ที่สถาบันไหนๆก็ต้องจัดขึ้น เพราะ เมื่่อเทียนที่ถูกส่งจากพี่ถึงน้องจะจุดขึ้นก็จะเกิด " แสงสว่าง " ที่จะนำพาเราไปในเส้นทางที่ถูกต้อง สวยงามตลอดทางเดินตั้งแต่ได้ก้าวเข้ามาอยู่ในวิทยาลัยพยาบาลแห่งนี้    สำหรับพิธีรับเทียนของนักศึกษาพยาบาลจะมีตัวแทนของบุคคลที่มีความสำคัญทางด้านวิชาพยาบาล คือ  " มิสฟลอเรนซ์ ไนติงเกล " นำ ตะเกียงไนติงเกล มามอบให้กับนักศึกษาพยาบาลเพื่อจุดเทียนให้เกิดแสงสว่าง และปฏิบัติตนให้เป็นพยาบาลที่ดี ตามแนวทางที่มิสฟลอเรนซ์ ไนติงเกลได้ปฏิบัติไว้
 
ในช่วงปี 1853 ยุคสงครามไครเมียน คุณหญิงฟอเรนซ์ ไนติงเกล ได้ใช้แสงตะเกียงส่องเดินทางไปตามบาทวิถี เพื่อไปให้การพยาบาลผู้ป่วยที่ได้รับบาดเจ็บจากภัยสงครามในค่ายทหารกองแพทย์ จนมีการบันทึกของนายทหารผู้รอดตายว่า เมื่อคราวใดที่เห็นแสงตะเกียงที่ว่านี้ คนป่วยทุกคนจะสามารถรับรู้ได้ถึงความปลอดภัย ความเมตตา และความเสียสละ ที่จะได้รับจากผู้หญิงคนนี้และคณะพยาบาลผู้ติดตาม จนมีคนสมญานามและเรียกกันติดปากเกี่ยวกับคุณหญิงฟอเรนซ์ ไนติงเกลนี้ว่า เป็น "The lady of the lamp (สุภาพสตรีแห่งดวงประทีป)" หลังยุคที่ท่านถึงแก่อนิจกรรมไป แสงตะเกียงของท่านยังไม่ได้ดับไป หากแต่มันยังคงส่องสว่างอยู่ในหัวใจของเหล่าพยาบาลทุกๆคนทั่วโลก เพื่อเป็นแสงนำทางไปสู่ปณิธานในการดูแลรักษาผู้ป่วยให้พ้นจากความทุกข์ทรมานครับ
 

รู้ไหม ภาพนางพยาบาลถือเทียนไขให้พี่ตูน ถือเป็นเกียรติอันสูงสุดของนางพยาบาลเลย

รู้ไหม ภาพนางพยาบาลถือเทียนไขให้พี่ตูน ถือเป็นเกียรติอันสูงสุดของนางพยาบาลเลย

 
 
ประวัติของสุภาพสตรี นามว่า ฟลอเรนซ์ ไนติงเกล (Florence Nightingale)
 

รู้ไหม ภาพนางพยาบาลถือเทียนไขให้พี่ตูน ถือเป็นเกียรติอันสูงสุดของนางพยาบาลเลย

 

ไนติงเกลเป็นผู้ก่อกำเนิดการศึกษาวิชานางพยาบาล เป็นหลักสูตร เป็นวิชาการ และสร้างเกียรติของนางพยาบาลขึ้นเป็นสถาบันหนึ่ง เป็นการปฏิวัติทางจิตใจคนสร้างสิ่งที่ไร้เกียรติให้กลับมีเกียรติ

ในสมัยโบราณนางพยาบาลจะเป็นหญิงที่ไร้เกียรติ แต่โสเภณีกลับเป็นหญิงที่มีเกียรติ หญิงที่ทำผิดเล็กน้อย ตำรวจจะจับและสั่งขังไว้ และให้เลือกว่า จะยอมถูกขัง 7 วัน หรือจะไปเป็นนางพยาบาล 14 วัน ถ้าเป็นนางพยาบาล กลางคืนต้องนอนใต้เตียงคนไข้ แม้ภายหลังจะมีนางพยาบาลที่ไม่ได้เป็นคนต้องโทษ อาชีพนี้ก็ยังเป็นที่ดูหมิ่นทั่วไป

ไนติงเกล เกิดเมื่อ พ.ศ. 2363 เป็นคนอังกฤษ เกิดที่เมืองฟลอเรนซ์ ประเทศอิตาลี พ่อแม่จึงให้ชื่อว่า ฟลอเรนซ์ ไนติงเกลเป็นลูกคนมั่งคั่ง ได้รับการศึกษาอย่างดีที่สุด มีความงามต้องตาคนทั้งหลาย เธออยากเป็นนางพยาบาล พ่อแม่ไม่เห็นด้วยกับความคิดนี้ แต่เธอก็ไปเป็นนางพยาบาลจนได้ ด้วยความเสียสละอันแรงกล้า และความมานะพยายามของเธอ จึงได้ปฏิวัติสถาบันของนางพยาบาลจากที่เป็นไร้เกียรติ ให้กลับมามีเกียรติได้ เธอถึงแก่กรรมเมื่อ พ.ศ. 2453 มีอายุยืนยาวถึง 90 ปี

ไนติงเกลเป็นลูกที่พ่อแม่ปลูกฝังไว้สำหรับอนาคตที่รุ่งโรจน์ คาดหมายว่าผู้ที่จะมาแต่งงานด้วยอย่างน้อยต้องเป็นขนาดเจ้าชาย พ่อแม่ให้การศึกษาไว้สำหรับฐานันดร “ปรินเซส” เป็นอย่างน้อย เธอได้รับการศึกษาที่ดีที่สุด รู้ภาษาอิตาเลียน เยอรมัน ฝรั่งเศส พูดภาษาต่างๆ นี้ได้ดี รู้ภาษาโบราณอย่างกรีกและละติน สามารถพูดกับอาจารย์ที่สอนได้ เรียนทางอักษรศาสตร์และดนตรี

เธอเคยท่องเที่ยวไปทั่วยุโรป ไปจนถึงประเทศอียิปต์ ใครจะสนทนาเรื่องอะไรเธอก็พูดด้วยได้ทั้งหมด พ่อแม่ปั้นไว้สำหรับสังคมชั้นสูง เข้าได้แม้ในราชสำนัก ได้รับเชิญแม้ในงานรื่นเริงของสมเด็จพระราชินีอังกฤษ

แต่เรื่องยศศักดิ์ เป็นสิ่งที่ไนติงเกลเกลียดชังที่สุด เธอได้เขียนในสมุดบันทึกประจำวันว่า เธอเบื่อหน่ายสังคมชั้นสูง ซึ่งมีทุกสิ่งทุกอย่างที่ไร้สาระ เธอบันทึกเรื่องลอร์ดเมลบอร์น นายกรัฐมนตรี ที่นั่งหลับและกรนดังๆ ในงานสโมสรทั้งๆ ที่สมเด็จพระนางเจ้าวิกตอเรียยังประทับอยู่ด้วย แสดงให้เห็นความน่าเบื่อของสังคม และได้บันทึกเรื่องพระราชสวามีของพระนางเจ้าวิกตอเรียที่ชอบแสดงฝีมือแทงบิลเลียดให้คนดู พอแทงได้คนก็ปรบมือกันเกรียวกราวเหมือนประสบความสำเร็จในงานสำคัญ เธอเบื่อหน่ายที่ถูกพ่อพาไปเยี่ยมเคารพคนนั้นคนนี้ ซึ่งบางคนก็ไม่เห็นมีอะไรน่าเคารพ เธอไม่ชอบที่จะต้องชมว่าสร้อยเพชรของเลดี้คนนั้นคนนี้ว่าสวยงามน่าตื่นตา เบื่อที่พ่อบังคับให้อ่านหนังสือระเบียบมารยาทในสังคมดังๆ ให้ได้ยิน

พ่อแม่ได้วางอนาคตอันยิ่งใหญ่ไว้สำหรับไนติงเกล แต่เธอกลับอยากเป็นพยาบาล ซึ่งเป็นนิสัยมาตั้งแต่เด็ก เมื่อเล่นตุ๊กตาก็ชอบสมมติว่าว่าตุ๊กตาบาดเจ็บแล้วก็พันแผลให้กับตุ๊กตา แม้แต่สัตว์เลี้ยงอย่างสุนัขก็ถูกเล่นพันแผลอยู่บ่อยๆ ทั้งๆ ที่ไม่ได้บาดเจ็บอะไร เมื่อเธออายุได้ 18 ปี ครั้งหนึ่งเธอยืนมองคฤหาสน์ตนเองด้วยอาการใจลอย เมื่อเพื่อนถามว่ามองอะไร เธอตอบว่า คิดว่าถ้าเอาคฤหาสน์ของเธอเป็นโรงพยาบาล จะตั้งเตียงคนไข้อย่างไร ห้องนายแพทย์อยู่ที่ไหน ห้องเก็บยาเอาไว้ที่ไหน ฯลฯ

ไนติงเกลไม่ยอมแต่งงาน ทั้งๆ ที่มีคนมาสู่ขอมากมาย เธอบันทึกถึงการแต่งงานว่า เป็นแต่เรื่องทำความพอใจให้แก่ธรรมชาติฝ่ายต่ำ ไม่มีประโยชน์ในทางศีลธรรม หรือทางจิตใจเลย

เธอสนใจการพยาบาล ถึงกับไปเยี่ยมตามโรงพยาบาลต่างๆ และอ่านหนังสือเกี่ยวกับวิชาแพทย์ ได้แอบไปเรียนการพยาบาลเมื่อตอนเดินทางไปเยอรมนี และที่ปารีส

ไนติงเกลเขียนในสมุดบันทึกของเธอ เมื่อตอนอายุครบ 30 ปี ว่า พระเยซูคริสต์เริ่มประกาศคริสต์ศาสนาเมื่ออายุ 30 เธอถือว่าความเป็นเด็กของเธอสิ้นสุดแค่นี้ เธอจะไม่ทำอะไรที่ไม่เป็นประโยชน์ ไม่มีเรื่องรัก ไม่แต่งงาน และยื่นคำขาดต่อบิดามารดาว่า เธอจะไปเป็นนางพยาบาล

“เสียสติไปหรือ” บิดาถาม
“ก็อาจเป็นได้” ไนติงเกลตอบ “แต่ต้องขอบคุณพระเจ้าในการเสียสติครั้งนี้”

การที่ไนติงเกลไปเป็นนางพยาบาล ถือเป็นเรื่องใหญ่สำหรับสังคม การเป็นนางพยาบาลนั้นเธอก็ไม่ได้รับสินจ้างใดๆ ซ้ำยังเอาทรัพย์สินส่วนตัวไปบำรุงโรงพยาบาลด้วย ทุกแห่งจึงต้องการนางพยาบาลเช่นนี้ เธอได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้บัญชาการโรงพยาบาลสตรีแห่งหนึ่ง เมื่อทำงานมาได้ 3 ปี

การที่สตรีได้เป็นผู้บัญชาการโรงพยาบาล ถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของอังกฤษ แม้เธอจะมีฐานะเป็นผู้บัญชาการ แต่เธอก็ทำงานอย่างจริงจัง ชอบไปปฏิบัติต่อคนไข้ด้วยตัวเอง เมื่อมีการผ่าตัดก็ไปเฝ้าดูด้วยความสนใจเป็นพิเศษ อุ้มคนไข้เอง ทำทุกอย่างที่สามารถทำได้ ในด้านความสะอาด ความเอาใจใส่ต่อคนไข้ โรงพยาบาลที่ไนติงเกลอำนวยการอยู่ได้เป็นโรงพยาบาลชั้น 1 มีชื่อเสียงแพร่กระจายออกไป

เมื่อไนติงเกลมีอายุได้ 33 ปี ใน พ.ศ. 2396 ได้เกิดสงครามไครเมียขึ้น เธอทราบมาว่ามีทหารอังกฤษได้รับบาดเจ็บ มารักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลทหารของอังกฤษ เพราะในตุรกีนั้น การรักษาพยาบาลไม่มีความพร้อมในทุกด้าน ถึงกับกล่าวกันว่า การเข้าโรงพยาบาลทหารในสงครามไครเมียนี้ไม่ผิดอะไรกับทิ้งให้ตายในสนามรบ เมื่อมีข่าวเช่นนี้มากขึ้น มติมหาชนอังกฤษจึงร้องให้รัฐบาลจัดการเรื่องรักษาพยาบาลทหารให้ดีขึ้น จนคาร์ดินาล แมนนิ่ง พระราชาคณะผู้ใหญ่คนหนึ่งของประเทศอังกฤษ ได้เขียนความเห็นลงในหนังสือพิมพ์ลอนดอนไทมส์ว่า ผู้ที่ควรไปจัดการเรื่องนี้คือ ไนติงเกล

ไนติงเกล ตกลงทำงานสำคัญนี้ หาสตรีที่เธอฝึกมาเองสมัครไปกับเธอได้กลุ่มหนึ่ง และเธอได้เขียนจดหมายไปถึงเซอร์ซิดนีย์ เฮอร์เบิร์ต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของอังกฤษว่า เธอและพวกพ้องขออาสาไปทำการพยาบาลทหารที่ป่วยและบาดเจ็บในสงครามโดยไม่ขอรับค่าจ้างใดๆ ขอแต่ให้อำนวยในเรื่องการเดินทาง และให้อำนาจในการอำนวยการโรงพยาบาลเท่านั้น

เธอได้รับการตกลง ในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2397 เธอและคณะได้เดินทางมาถึงประเทศตุรกี ในเมืองสคุตารี ซึ่งเป็นที่ตั้งโรงพยาบาลของทหาร ขณะนี้ไนติงเกลมีอายุ 34 ปี การเดินทางที่ยากลำบาก เธอเองก็ล้มป่วยเพราะถูกมรสุมในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน แต่เมื่อถึงท่าเรือได้พักผ่อน 2-3 วัน เธอก็หายจนสามารถทำงานได้ทันที

ไนติงเกลและคณะนางพยาบาล ได้รับอำนาจจากกระทรวงกลาโหมให้ดำเนินการในทางที่ไนติงเกลเห็นว่าดีที่สุด ซึ่งทำความไม่พอใจให้กับเจ้าหน้าที่ในโรงพยาบาลนั้นเป็นอันมาก ไนติงเกลมาพบเห็นว่าคนไข้นับพันไม่มีเสื้อใส่ สอบถามจึงได้ความว่า รัฐบาลส่งมาให้แล้วแต่คณะกรรมการพัสดุยังไม่อนุญาตให้เอามาแจกคนไข้ เธอต้องเข้าหาผู้นั้น แต่ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะต้องมีการประชุมกรรมการกันเสียก่อน ถึงจะอนุมัติเอาเสื้อมาให้คนไข้ได้ แม้แต่เรื่องนี้ก็ทำได้ด้วยความยากลำบาก เสื้อที่แจกให้คนไข้ก็มีไม่เพียงพอกับความต้องการ

ต่อมาเมื่อมีเสื้อส่งมาอีกรุ่น ไนติงเกลกับพวกนางพยาบาลก็จัดการเปิดกันเอง โดยไม่รออนุมัติจากคณะกรรมการ จึงได้กลายเป็นเรื่องใหญ่มีการฟ้องร้องกัน แต่รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมรู้จักไนติงเกลดี ก็วินิจฉัยว่า สิ่งที่ไนติงเกลทำนั้นเป็นการถูกต้อง

เธอได้สละแรงงาน เงินทอง เพื่อการกุศลอันยิ่งใหญ่ โดยที่เธอกับพวกได้ทำความสะอาดโรงพยาบาลกันเอง หาอาหารให้คนป่วยดีกว่าที่เคยได้รับ มีซุปอย่างดี มีเหล้าองุ่น มีเยลลี่ ซึ่งเธอได้ใช้เงินส่วนตัวของเธอเองทั้งหมด

ไนติงเกล ถูกทหารเหล่านั้นเรียกว่า “The Lady with the lamp” เพราะเธอจะถือโคมไฟเที่ยวตรวจทหารที่บาดเจ็บ ถามอาการ ให้ยา พูดปลอบใจ ทำทุกอย่างที่สามารถทำได้ แม้ในเวลาค่ำคืนดึกดื่น บรรดาทหารทั้งหลายเห็นว่าเธอและคณะเป็นเหมือนเทพธิดาลงมาโปรด

รู้ไหม ภาพนางพยาบาลถือเทียนไขให้พี่ตูน ถือเป็นเกียรติอันสูงสุดของนางพยาบาลเลย

แต่การกระทำเช่นนี้ เจ้าหน้าที่ชั้นผู้ใหญ่ทางทหารซึ่งอยู่ที่นั่นเกิดความไม่พอใจ เธอถูกตำหนิว่าทำให้จิตใจของทหารเสียไป การเอาใจใส่ดูแลที่ดีเกินไปนี้จะทำให้เป็นทหารที่ดีไม่ได้เมื่อต้องออกรบใหม่ ทหารจะไม่มีความอดทน

เอกอัคราชทูตอังกฤษประจำประเทศตรุกี ที่ชื่อ ลอร์ดสแตรตฟอร์ต พูดว่า ไนติงเกลได้เอาเงินมาใช้ในทางที่ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์เสียมากมาย และอยากเห็นเธอใช้จ่ายเงินทองและทรัพย์สมบัติของตนในทางที่เป็นประโยชน์กว่านี้ แม้แต่เอกอัครราชทูตสมัยนั้นก็ยังไม่เห็นคุณค่าของการพยาบาลคนป่วย

ไนติงเกล เดินทางกลับมายังอังกฤษหลังจากเสร็จสงครามไครเมีย ทหารที่กลับมาประเทศอังกฤษได้ชมเชยสรรเสริญในความดีของเธอให้ประชาชนฟัง เธอจึงได้รับการต้อนรับของประชาชนชาวอังกฤษอย่างดียิ่ง เธอกลายเป็นคนสำคัญและมีความยิ่งใหญ่มาก สมเด็จพระนางวิกตอเรียก็ทรงต้อนรับอย่างเป็นเกียรติยศ เมื่อตัวเธอและนางพยาบาลของเธอได้เข้าเฝ้า

ไนติงเกลพยายามเปลี่ยนสภาพของโรงพยาบาลทหารในอังกฤษให้ดีกว่าเก่า ในขณะนั้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมคนใหม่ที่ชื่อ ลอร์ดแพนมัว ได้เข้ามารับตำแหน่งแทนคนเก่าที่ชื่อว่า เซอร์ซิดนีย์ แล้ว เธอได้เสนอโครงการนี้ไป ก็ได้รับการตอบมาว่า ในสงครามไครเมีย ไนติงเกลได้ทำงานเหน็ดเหนื่อยมามาก ขอให้เธอหยุดพักเพื่อสุขภาพของเธอเองสักพักหนึ่ง แล้วค่อยพูดเรื่องนี้กันภายหลัง

เธอรู้ดีว่า พวกนายทหารชั้นผู้ใหญ่ที่กลับจากสงครามไครเมีย ได้เป่าหูรัฐมนตรีฯ แล้วว่าเธอยุ่งเกินไป เธอจึงแปลความในจดหมายจากรัฐมนตรีได้ว่า ไม่ให้เธอไปยุ่งกับเรื่องที่ไม่ใช่เรื่องของตัวเอง แต่เธอก็ยังพยายามต่อไปไม่ลดละ ความเป็นนักสังคมชั้นสูงที่บิดาปลูกฝังไว้ให้ตั้งแต่เมื่อยังเป็นสาวนั้น เป็นประโยชน์สำคัญแก่เธอในเวลานี้ เธอพยายามวิ่งเข้าหาคนนั้นคนนี้ เข้าหารัฐมนตรี ขอเฝ้าแม้กระทั่งสมเด็จพระราชินีวิกตอเรีย เพื่อเสนอโครงการของตน และเธอก็ทำได้สำเร็จ เธอได้รับการสนับสนุนให้ดำเนินการปรับปรุงโรงพยาบาลทหารไปทีละแห่งๆ จนโรงพยาบาลทหารเข้าสู่สภาพใหม่ทั่วอังกฤษ ชีวิตของทหารที่เจ็บป่วยจึงได้รับการอุปถัมภ์บำรุงดีขึ้นกว่าเดิมมาก

ไนติงเกลได้ตั้งโรงเรียนนางพยาบาลขึ้น มีหลักสูตรการสอน ทั้งภาควิชาการและภาคปฏิบัติเป็นอย่างดี ซึ่งเป็นครั้งแรกที่มีโรงเรียนชนิดนี้ อาชีพนางพยาบาลจึงกลายมาเป็นของดีมีเกียรติไม่เลวทรามต่ำช้าเหมือนเมื่อก่อน มีลูกของผู้ดีเข้ามาเรียนจำนวนมาก และไม่ใช่เรื่องเสียสติอีกต่อไปกับการที่ลูกผู้ดีมาเป็นนางพยาบาล

ไนติงเกลได้สร้างนางพยาบาลที่มีความรู้และสามารถมากขึ้น โรงพยาบาลทุกแห่งที่ไนติงเกลยื่นมือเข้าช่วยปรับปรุง เห็นว่าเธอเป็นเทพธิดา แม้ตอนอายุมากจนเดินไม่ได้ ต้องนั่งรถเข็นไปเที่ยวในสวนสาธารณะ ก็ยังมีคนมาห้อมล้อมเธอเหมือนเป็นเทพเจ้า บางคนก็ขอแตะผ้าที่เธอห่ม บางคนขอดูหน้าแบบใกล้ๆ เธอได้รับความรักจากประชาชนมากขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งถึงแก่กรรมลง เมื่อมีอายุได้ 90 ปี

รู้ไหม ภาพนางพยาบาลถือเทียนไขให้พี่ตูน ถือเป็นเกียรติอันสูงสุดของนางพยาบาลเลย

นี่คือเรื่องในชีวิตของสตรีผู้ยิ่งใหญ่คนหนึ่ง เป็นความยิ่งใหญ่ที่แท้จริง ยิ่งใหญ่อย่างไม่มีใครนินทาได้ ว่ามีเรื่องไม่ดีเสียหายอะไร มีแต่คำสรรเสริญ เป็นความยิ่งใหญ่ที่เหมาะสมยิ่งสำหรับสตรี

แต่การบรรลุความยิ่งใหญ่นี้ ต้องเป็นสตรีที่มีความคิดอ่านแปลกประหลาดมาก เพราะสตรีในโลกที่มีความคิดเห็นอย่างไนติงเกลนี้หายากเหลือเกิน

ที่มา:พลตรี หลวงวิจิตรวาทการ

โพสท์โดย: นายตัวดำ
แหล่งที่มา: พลตรี หลวงวิจิตรวาทการ
ข้อมูลบางส่วนจากเพจ Drama-addict
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
นายตัวดำ's profile


โพสท์โดย: นายตัวดำ
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
88 VOTES (4/5 จาก 22 คน)
VOTED: Zoi, จิ๊ บ ฟี่, unnodomon, zerotype, ยิ้มทุกวัน, ดีเจ ซูกัส, อัญญาท้าว, gardy, kareepup, โบจัง, shadowtree, โดนแมวตบ, lokir3113, ซันตารีโอกรันดีโดนอร์เต
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
เกินไป๊!! แก๊งวัยรุ่นจีนอยากได้ตุ๊กตาจากตู้คีบ แต่ไม่อยากเสียเงิน โยกตู้จนกระจกแตกครูหนุ่มชาวจีนโพสต์รูปตัวเอง เปรียบเทียบสมัยก่อนเเละหลังทำงานได้ 6 ปี เปลี่ยนไปจริง ๆ 😌ผู้ประกาศข่าวเตรียมตัวตกงาน..เพราะ "เนชั่นทีวี" กำลังใช้ A.I. อ่านข่าวสั้นดื่มเบียร์ทำให้อ้วน ความเชื่อหรือความจริง?หลวงพี่เขมรแนะชาวเขมร ว่า..“ไทยเอาคำว่า‘สงกรานต์‘ไปแล้ว งั้นเขมรเราใช้คำว่า ’มหาอังกอร์สงกรานต์‘ ดีไหม? เพราะคำนี้มันใหญ่กว่าสงกรานต์ธรรมดา”โรคฮิตสาวโรงงานลาวขุดพบเจอหีบกะไหล่โบราณ รอการเปิด คาดว่าน่าจะเป็นที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ!รวบแล้ว 1 มือวางเพลิงป่วนใต้
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
อ่านนิยายไร้สาระจริงหรือ"ซีอิ๊วแบบเม็ด" ฉีกทุกกฎของซอส..นวัตกรรมใหม่จาก "เด็กสมบูรณ์""บิ๊กเต่า" รับหลักฐาน "ทนายตั้ม" ลั่น ใหญ่แค่ไหนก็จับ ไม่มีใครใหญ่กว่าประตูห้องขัง9 โรงเรียนหญิงล้วนที่น่าสนใจในประเทศไทย
กระทู้อื่นๆในบอร์ด สาระ เกร็ดน่ารู้
แม่น้ำที่อันตรายที่สุดในโลก“กางเกงท้องถิ่นไทย” คุณประโยชน์ด้าน Sustainable Fashionปัญหาใหญ่ที่สุดในลาวตอนนี้ ที่อาจจะไม่สามารถเเก้ไขได้disgusting: น่าขยะแขยง น่ารังเกียจ
ตั้งกระทู้ใหม่