น้ำแข็ง ไม่สะอาด อันตราย ทำร้ายสุขภาพ ละลายช้าก็ไม่ได้ช่วยอะไร?
เลือกซื้อน้ำแข็ง "หลอด" ที่ผลิตโดยเครื่องอัตโนมัติหรือ น้ำแข็งอนามัยที่ผ่านการรับรองคุณภาพตามระบบ GMP
เราไม่สามารถรู้เลย "น้ำแข็ง" ที่เรารับประทานนั้นมีการผลิตที่ผ่านกรรมวิธีอะไรมาบ้าง การเลือกน้ำแข็งที่ผลิตจากเครื่องอัตโนมัติก็เท่ากับลดความเสี่ยงการเจือปนของการผลิต อาทิ ถุงบรรจุภัณฑ์ที่ไม่สะอาด การตัดน้ำแข็งให้มีขนาดเล็กจากอุปกรณ์ที่ไม่สะอาดขึ้นสนิม หรือการนำน้ำแข็งไปใช้ปนร่วมกับอย่างอื่น ซึ่งรายละเอียดบนฉลากที่เราต้องคำนึงถึงเป็นอย่างยิ่งคือ
ข้อความว่า “น้ำแข็งใช้รับประทานได้” ด้วยตัวอักษรสีน้ำเงิน
เลข สารระบบอาหาร 13 หลัก ในเครื่องหมาย อย. ชื่อและที่ตั้งของผู้ผลิต และน้ำหนักสุทธิเป็นระบบเมตริก เป็นต้น
สังเกตสิ่งเจือปน
เริ่มต้นโดยมองด้วยตาเปล่าเพราะ "น้ำแข็ง" ที่สะอาดจะมีความใส ไม่ขุ่นมัว เป็นคราบ ที่เรารู้สึกได้ว่ามีสิ่งเจือปน และหลังจากที่ตักน้ำแข็งใส่แก้วและเทน้ำ ให้สังเกตว่าหลังจากน้ำแข็งละลายมีตะกอนดำๆ หรือเศษสิ่งสกปรกเจือปนอยู่ที่ก้นแก้วหรือไม่ เนื่องจากน้ำแข็งที่ให้บริการในร้านค้าและร้านอาหารทั่วไปอาจปะปนอยู่กับการแช่ของ แช่อาหาร ขวดน้ำอัดลม ฯลฯ ดังนั้น เราจึงควรใจเย็นๆ สักนิดก่อนที่จะรับประทาน
. ไม่มีสี กลิ่น รส ผิดปกติ นอกจากทั้ง "น้ำ" และ "น้ำแข็ง" เมื่ออยู่ในแก้วเดียวกันต้องใส ไม่มีตะกอนหรือเศษสิ่งอื่นๆ เจือปนแล้ว ขั้นตอนต่อมาที่จะทำให้เรารู้ว่า "น้ำแข็ง" นั้นมีสิ่งเจือปนอยู่อีกหรือไม่ คือจะต้องไม่มีกลิ่น มีสี หรือมีรสผิดปกติ
ทั้งนี้ทั้งนั้นนอกจากข้างต้นที่กล่าวมา เราก็ควรสังเกตสถานที่เก็บรักษาภาชนะบรรจุภัณฑ์ที่ใส่ด้วยว่าไม่มีการปนเปื้อนทุกครั้งที่จะรับประทานน้ำแข็ง รวมไปถึงที่เราต้องใส่ใจในการเลือกรับประทานอย่างระมัดระวัง ก็คือ แก้ว ชาม ภาชนะที่จะใส่รับประทานนั้นต้องสะอาดด้วยเช่นเดียวกัน
ที่มา กรมอนามัย ส่งเสริมคนไทยมีสุขภาพดี