หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม แต่งรูป คำคม Glitter สเปซ ไดอารี่ เกมถอดรหัสภาพ เกม วิดีโอ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

ความเหงา ทำร้ายเรา มากกว่าที่คิด…

โพสท์โดย นางเบิร์ด

ความเหงา เป็นอีกหนึ่งความรู้สึกที่ทุกคนต่างต้องประสบพบเจอกันในชีวิตของตัวเอง ซึ่งแต่ละคนนั้นก็จะมีความมากและน้อยแตกต่างกันไป รวมถึงระยะเวลาที่มันอยู่กับแต่ละคนก็จะต่างกันไปด้วย แต่ว่าความรู้สึกเหงานั้นไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นมาลอยๆ เพราะงานวิจัยจากมหาวิทยาลัยชิคาโก ที่ศึกษากันมาตั้งแต่ปี 2006 จะมาช่วยอธิบายให้เพื่อนๆ ได้เข้าใจว่า แท้จริงแล้ว ความเหงาของเรานั้นเกิดขึ้นจากอะไร?

 

 

งานวิจัยของ Stephanie Cacioppo และ Hsi Yuan Chen นักประสาทวิทยาที่ถูกตีพิมพ์ลงในวารสาร Personality and Social Psychology Bulletin โดยทีมวิจัยได้ใช้เวลานานกว่า 11 ปี ในการเก็บข้อมูลระดับความรู้สึกเหงา จำนวน 230 คน ซึ่งอยู่ในช่วงอายุ 50 – 68 ปี

จากการเก็บข้อมูลเป็นประจำทุกปี ทีมวิจัยพบว่า คนที่มีอาการของความเหงาเพิ่มขึ้นจะมีนิสัยเอาตัวเองเป็นศูนย์กลางมากขึ้นตามไปด้วย และคนที่มีนิสัยเอาตัวเองเป็นศูนย์กลางอยู่แล้ว ก็มีระดับความเหงาที่เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจนกว่าคนทั่วไปอีกด้วย พอจะชี้ให้เห็นได้ว่า หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อระดับความเหงาโดยตรง ก็คือลักษณะนิสัยเอาตัวเองเป็นศูนย์กลาง(Self-Centered) นั่นเอง (ความเหงาทำร้ายสุขภาพ พอๆกับการสูบบุหรี่ 15 มวน ต่อวัน)

 

 

 

และความเหงายังทำให้สมองผลิตฮอร์โมนคอร์ติซอลออกมามากขึ้นความดันโลหิตสูง ระบบภูมิคุ้มกันโรคอ่อนแอลง นอนหลับยาก และอาจเป็นโรคจิตเสื่อมเร็วขึ้น เมื่อเปรียบเทียบสุขภาพของคนที่ปิดกั้นตัวเองจากโลกภายนอก กับคนที่ชอบสังสรรค์ นักวิจัยพบความแตกต่างมากพอๆ กับความแตกต่างระหว่างคนสูบบุหรี่กับไม่สูบ คนที่เป็นโรคอ้วนกับคนที่น้ำหนักปกติ และคนที่ออกกำลังกายกับคนที่ไม่ออกกำลังกาย

ฮอร์โมนคอร์ติซอลในระดับสูงยังไปกดทับระบบภูมิคุ้มกันโรค ทำให้คนๆ นั้นอ่อนแอต่อโรคต่างๆ คนที่อยู่อย่างโดดเดี่ยวยังนอนหลับไม่สนิท ทำให้ระหว่างวันรู้สึกเฉื่อยชา และมีแนวโน้มต้องพึ่งยานอนหลับ

ในปัจจุบันมีคนไม่น้อยที่ถูกความเหงาเล่นงาน เพราะผู้คนสื่อสารกันทางอินเทอร์เน็ตแทนการพบหน้าค่าตากัน “เราต่างอยู่อย่างโดดเดี่ยวมากขึ้น บางทีอาจเป็นเพราะเราอายุมากขึ้น แต่งงานช้าลง มีลูกและเพื่อนสนิทน้อยลง”

ขอบคุณที่มา: http://flagfrog.com/lonely-brain-sci/
ที่มา – neurosciencenews , modernformhealthcare
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
นางเบิร์ด's profile


โพสท์โดย: นางเบิร์ด
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
20 VOTES (4/5 จาก 5 คน)
VOTED: willbe, นคนันทินี, ทีนะที
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
ลูกค้าหนุ่มเศร้า หลังรีวิวชุดกีฬาที่ซื้อมา แต่ดันพลาดเห็นหนอนน้อยเพื่อน "ออกัส" ซัดแหลก..พระเอกดังต่างหาก ถูกข่มขู่ให้กราบเท้า!!อิหร่านขู่ถล่มที่ตั้งนิวเคลียร์ ของอิสราเอลด้วยขีปนาวุธชาวเน็ตจีนวิจารณ์หลังสถานีรถไฟใหม่หน้าตาเหมือนโกเต็กหนูอายเพื่อน!! ลูกสาวถึงกับร้องไห้ หลังคุณพ่อสายแฟ (ชั่น) มารับที่โรงเรียน ถึงกับถาม “พ่อไม่มีชุดธรรมดาปกติกับเค้าบ้างเหรอ” 😆iPhone รุ่นประหยัดมาแล้ว!เขมรแสบ! นำภาพเก่าสถานท่องเที่ยวไทย ที่เต็มไปด้วยกองขยะมาเล่นไทย?คนไข้วัย 72 ติดเชื้อโควิดนาน 613 วัน ก่อนกลายพันธุ์ในร่างกายกว่า 50 ครั้งหนังเรื่อง "คนกราบหมา" ได้เข้าฉายหลังจากถูกแบนมา 25 ปี
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
อิหร่านขู่ถล่มที่ตั้งนิวเคลียร์ ของอิสราเอลด้วยขีปนาวุธ"ลาบูบู้" ไม่รอด โดนเขมรเคลมเรียบร้อยแล้ว..บอกรากเหง้ามาจาก "หน้ากาล"3 ราศีที่มีความร้ายกาจ อย่างคาดไม่ถึง!หนังเรื่อง "คนกราบหมา" ได้เข้าฉายหลังจากถูกแบนมา 25 ปี
กระทู้อื่นๆในบอร์ด สาระ เกร็ดน่ารู้
รีวิวหนังสือ ฉันแข็งแกร่งพอที่จะเชื่อความคิดของตัวเองtorment: ทรมาน ระทมทุกข์"Colosseum" โคลอสเซียม ณ อิตาลีenhance: เสริม ยกระดับ ทำให้มากขึ้น
ตั้งกระทู้ใหม่